เป้าหมายหุ้น Warby Parker เพิ่มขึ้นจากการเติบโตของเศรษฐกิจและการจราจร

เมื่อวันศุกร์ Piper Sandler ได้ปรับแนวโน้มหุ้น Warby Parker Inc. (นิวยอร์ก:WRBY) โดยเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 22 ดอลลาร์จาก 18 ดอลลาร์ก่อนหน้านี้ ในขณะที่ยังคงให้คะแนนหุ้นเพิ่มน้ำหนักการลงทุน บริษัทตั้งข้อสังเกตถึงผลการดําเนินงานในไตรมาสที่สามของ Warby Parker โดยเน้นย้ําถึงการเร่งตัวของอีคอมเมิร์ซและการเข้าชมลูกค้าเมื่อไตรมาสก้าวหน้า

บริษัทยังประสบกับโมเมนตัมที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสที่สี่ โดยมีลูกค้าที่ใช้งานอยู่ ยอดขายอีคอมเมิร์ซ และธุรกรรมในร้านค้าเพิ่มขึ้น

แม้ว่าหุ้นจะมีผลการดําเนินงานต่ํากว่าในวันศุกร์ ซึ่งเกิดจากอัตรากําไรขั้นต้นที่อ่อนแอลงซึ่งต่ํากว่าประมาณการที่เป็นเอกฉันท์ 60 จุดพื้นฐาน แต่ Piper Sandler ยังคงมองโลกในแง่ดี การพลาดอัตรากําไรขั้นต้นเกิดขึ้นหลังจากช่วงครึ่งแรกของปีที่บริษัทเกินความคาดหมายโดยเฉลี่ย 160 จุดพื้นฐาน

Warby Parker ใช้ประโยชน์จากผู้สมัครที่แข็งแกร่งโดยการจ้างนักทัศนมาตรศาสตร์มากกว่าที่วางแผนไว้ในตอนแรกการเคลื่อนไหวเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดอุปทานที่ตึงตัว

การจัดอันดับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนของบริษัทส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับการขยายตัวของ Warby Parker ในการตรวจสายตาและการประกันภัย ซึ่งเป็นองค์ประกอบสําคัญของการดึงดูดตลาดในวงกว้างของบริษัท ปัจจุบัน 85% ของฐานร้านค้าของ Warby Parker รวมถึงนักทัศนมาตร Piper Sandler มองว่าการขยายตัวนี้เป็นการลงทุนที่รอบคอบ แม้ว่าจะแนะนําความแปรปรวนบางอย่างในตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพหลักของอัตรากําไรขั้นต้นที่สําคัญก็ตาม

Piper Sandler ยังได้เพิ่มประมาณการและเป้าหมายราคาโดยอิงจากทวีคูณ 20 เท่าของมูลค่าองค์กรที่คาดการณ์ไว้ในปี 2026 ต่อกําไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจําหน่าย (EV/EBITDA) ซึ่งเพิ่มขึ้นจากประมาณการก่อนหน้านี้ 18.5 เท่าในปี 2025 การปรับเปลี่ยนนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในการเติบโตของรายได้ที่เร่งตัวขึ้นของ Warby Parker

นอกจากนี้ บริษัทยังชี้ให้เห็นว่าการจัดหาของ Warby Parker จากจีนกําลังลดลง และตอนนี้คิดเป็นประมาณ 20% ของต้นทุนขาย ด้วยราคาที่แข่งขันได้ของบริษัท โดยแว่นตาเริ่มต้นที่ 95 ดอลลาร์ อุปสงค์จึงถูกมองว่าส่วนใหญ่ไม่ยืดหยุ่น ซึ่งบ่งชี้ว่าผู้บริโภคจะยังคงซื้อต่อไปแม้จะมีราคาแปรผัน

ในข่าวล่าสุดอื่น ๆ Warby Parker Inc. ได้รายงานรายได้ในไตรมาสที่สาม โดยโพสต์ตัวเลข 192.4 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ 190.2 ล้านดอลลาร์ และเพิ่มขึ้น 13.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี

อย่างไรก็ตาม ผู้ค้าปลีกแว่นตารายงานผลขาดทุนที่ปรับปรุงแล้วต่อหุ้นที่ 0.03 ดอลลาร์ ซึ่งไม่เป็นไปตามกําไรที่คาดไว้ 0.05 ดอลลาร์ ฐานลูกค้าที่ใช้งานอยู่ของบริษัทเพิ่มขึ้น 5.6% เมื่อเทียบเป็นรายปีเป็น 2.43 ล้านราย โดยมีรายได้เฉลี่ยต่อลูกค้าเพิ่มขึ้น 7.5% เป็น 305 ดอลลาร์

Warby Parker ยังได้อัปเกรดคําแนะนํารายได้ทั้งปีสําหรับปี 2024 เป็นช่วง 765 ล้านดอลลาร์ถึง 768 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้และสูงกว่าฉันทามติ EBITDAmate ที่ 761.6 ล้านดอลลาร์ บริษัทคาดว่าอัตรากําไร EBITDA ที่ปรับปรุงแล้วจะอยู่ที่ 9.5% ที่จุดกึ่งกลางของช่วงรายได้

นอกจากนี้ Warby Parker ยังขยายสถานะทางกายภาพด้วยการเปิดร้านค้าใหม่ 13 แห่งในไตรมาสที่แล้ว ทําให้มีทั้งหมด 269 แห่ง การพัฒนาเหล่านี้ชี้ให้เห็นถึงการมุ่งเน้นไปที่การยึดส่วนแบ่งการตลาดและเร่งการเติบโต ตามที่ระบุโดย Dave Gilboa ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอร่วม และ Steve Miller ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน

ข้อมูลเชิงลึกของ InvestingPro

ข้อมูลล่าสุดจาก InvestingPro เพิ่มความลึกให้กับมุมมองในแง่ดีของ Piper Sandler เกี่ยวกับ Warby Parker หุ้นของบริษัทแสดงให้เห็นถึงผลการดําเนินงานที่โดดเด่น โดยมีผลตอบแทนรวมของราคา 77.64% ในปีที่ผ่านมา และผลตอบแทน 55.23% อย่างมีนัยสําคัญในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา สิ่งนี้สอดคล้องกับราคาเป้าหมายที่เพิ่มขึ้นของ Piper Sandler และสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้น

เคล็ดลับ InvestingPro เน้นย้ําว่า Warby Parker ถือเงินสดมากกว่าหนี้ในงบดุล ซึ่งบ่งชี้ถึงฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง รากฐานที่มั่นคงนี้สามารถสนับสนุนแผนการขยายตัวของบริษัทไปสู่การตรวจสายตาและการประกันภัย ตามที่ Piper Sandler ระบุไว้ นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าบริษัทจะทํากําไรได้ในปีนี้ ซึ่งอาจช่วยเพิ่ม sentim EBITDA p ของนักลงทุน>

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า Warby Parker กําลังซื้อขายใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์และมูลค่า EBITDA ที่สูงทวีคูณ สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่านักลงทุนควรพิจารณาการประเมินมูลค่าปัจจุบันของหุ้นอย่างรอบคอบในแง่ของแนวโน้มการเติบโต

สําหรับผู้อ่านที่สนใจในการวิเคราะห์ที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น InvestingPro ขอเสนอเคล็ดลับเพิ่มเติม 14 ข้อสําหรับ Warby Parker เพื่อให้เข้าใจอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับสถานะทางการเงินและสถานะทางการตลาดของบริษัท

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน