บมจ. ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส (HANA) ระยะสั้นมีปัจจัยลบจาก ผลประกอบการ 2Q63 ที่ลดลง
คาดผลประกอบการ 2Q63 ชะลอตัวจากผลกระทบของ COVID-19
ช่วง 1Q63 การจัดส่งสมาร์ทโฟนทั่วโลกลดลง 11.7%YoY เป็นผลจากการ เลื่อนเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ออกไป
ยอดขายรถยนต์ในจีน เดือน เม.ย. ฟื้นตัวเล็กน้อย อยู่ที่ 0.9%YoY
Gartner คาดยอดขายเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกในปี 2563 ลดลง 0.9%YoY จากผลิตภัณฑ์ Non-Memory แต่ถูกชดเชยด้วย Memory ที่เติบโต
แนะนำ “ขาย” ให้ราคาเป้าหมาย 22.00 บาท
คาดผลประกอบการ 2Q63 ชะลอตัวจากผลกระทบ COVID-19
เราประเมินว่าผลประกอบการ 2Q63 จะชะลอตัวจากผลกระทบของ COVID-19 สอดคล้องกับข้อมูลจาก International Data Corporation (IDC) ระบุว่าในช่วง 1Q63 การจัดส่งสมาร์ทโฟนทั่วโลกลดลง 11.7%YoY ตรงกับช่วงเริ่มต้นของการแพร่ ระบาด COVID-19 ส่งผลให้แบรนด์ต่าง ๆ มีการเลื่อนเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ออกไป ผลกระทบดังกล่าวค่อนข้างมีนัยสำคัญต่อผลประกอบการ เนื่องจากบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากTelecom คิดเป็น 30% ของรายได้รวม บริษัทคาดว่ารายได้จาก Telecom จะลดลงในช่วง 2Q63 ก่อนกลับมาฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปในปี 2564
ธุรกิจรถยนต์ในจีน เริ่มมีการฟื้นตัวเล็กน้อยในเดือน เม.ย.
ข้อมูลจาก China Association of Automobile Manufacturers ระบุว่ายอดขาย รถยนต์ของจีน ในช่วง 1Q63 ปรับตัวลดลงมากถึง 31.1%YoY อย่างไรก็ตามยอดขาย รถยนต์ในเดือน เม.ย. กลับมาฟื้นตัวเล็กน้อย โดยปรับเพิ่มขึ้น 0.9%YoY อีกทั้งกำลังผลิตรวมในช่วง 2Q63 คาดว่าจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากในช่วง 1Q63 บริษัทหยุดผลิตใน โรงงานเจียเซียงเป็นเวลา 5 สัปดาห์ ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยบริษัทมีสัดส่วนรายได้จาก Auto คิดเป็น 17% ของรายได้รวม
ภาพรวมตลาดเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกยังอ่อนแอ
Gartner คาดว่ายอดขายเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกในปี 2563 จะลดลง 0.9%YoY จาก ผลกระทบของ COVID-19 ซึ่งลดลงจากประมาณการเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 12.5%YoY โดยผลิตภัณฑ์ Non-Memory ลดลง 6.1%YoY ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์ สมาร์ทโฟน กลุ่ม Auto และกลุ่ม Consumer แต่ถูกชดเชยด้วยผลิตภัณฑ์ Memory ที่เติบโต 13.9%YoY เป็นผลมาจากมาตรการ Work from Home ในช่วงการแพร่ ระบาดของ COVID-19 อย่างไรก็ตามค าสั่งซื้อของลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทเป็นกลุ่ม Non-Memory
ขาดปัจจัยบวกหนุนการฟื้นตัว แนะนำ “ขาย” เช่นเดิม
ผลกระทบของ COVID-19 ทำให้เราประเมินว่ากำไรสุทธิปี 2563 จะปรับลดลง 25%YoY อยู่ที่ 1,349 ล้านบาท และประมาณการรายได้รวมอยู่ที่ 19,123 ล้านบาท ลดลง 6.2%YoY อย่างไรก็ตามปัจจุบันราคาหุ้นซื้อขายเกินกว่าราคาเป้าหมายตาม ปัจจัยพื้นฐานที่เราประเมินไว้ที่ 22.00 บาท (อิง PER ที่ 13 เท่า อ้างอิงค่าเฉลี่ยกลุ่ม อุตสาหกรรมย้อนหลัง 5 ปี) ทำให้เรายังคงแนะนำ “ขาย” เช่นเดิม
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities