รายงานผลผลประกอบการ 1Q63 ขาดทุนครั้งแรก
บริษัทรายงานผลประกอบการขาดทุน 1.55 พันล้านบาท พลิกจากกำไรสุทธิ 1Q62 และ4Q62 ปัจจัยลบมาจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลง เป็นผลมาจากการรับรู้ Stock loss ที่มากถึง 1.5หมื่นล้านบาท และราคาขายในผลิตภัณฑ์สำคัญลดลง รวมทั้งธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดย
(1) กลุ่มธุรกิจ E&P ได้รับผลกระทบจากราคาขายเฉลี่ยผลิตภัณฑ์และปริมาณขายที่ลดลง
(2) กลุ่มธุรกิจก๊าซฯ มีกำลังผลิตที่ลดลงจากการปิดซ่อมโรงแยกก๊าซฯหน่วยผลิตที่ 5 ตามแผน และราคาขายผลิตภัณฑ์หลักที่ลดลง
(3) ธุรกิจน้ำมัน ยังเป็นกลุ่มที่มีกำไร แม้ปริมาณขายโดยรวมจะลดลงจากผลกระทบของภาพรวมเศรษฐกิจที่อ่อนแอ แต่ถูกชดเชยด้วยค่าการตลาดที่ปรับเพิ่มขึ้น และ
(4) ธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น ได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยเฉพาะการรับรู้ Stock loss ในทุกโรงกลั่นจำนวนมาก แม้ส่วนต่างราคาปิโตรเคมีจะปรับเพิ่มจากต้นทุนผลิตที่ลดลงตามราคาน้ำมัน แต่ไม่เพียงพอชดเชยค่าการกลั่นปรับลดลง
คาด 2Q63 ฟื้นตัว
เราคาดว่าผลประกอบการ 2Q63 จะพลิกกลับมาเป็นกำไร จากผลกระทบของ Stock lossและการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ลดลง จากราคาน้ำมันดิบที่ Down-side เริ่มจำกัด หลังกลุ่ม OPEC+ เริ่มปรับลดกำลังผลิตและบางประเทศปรับลดมากกว่าข้อตกลง โดยเราคาดหมายจะเห็นผลประกอบการกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ จากมาตรการผ่อนคลายล็อกดาวน์เมือง อย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วง พ.ค. – มิ.ย. จะทำให้เศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว เป็นปัจจัยบวกต่อความต้องการใช้เชื้อเพลิง (ก๊าซฯ และน้ำมัน) ในประเทศ
ปรับแผนธุรกิจเล็กน้อย เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์
จากการเข้าฟังผู้บริหารในงานประชุมนักวิเคราะห์ล่าสุด โดยเฉพาะ CEO คนใหม่ (คุณอรรถพล) โดยเฉพาะแผนการลงทุน และการปรับลดต้นทุน (ลด Capex และ Opex ลงประมาณ10% - 15%) เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และความสามารถในการแข่งขันของ PTTขณะที่กลุ่มธุรกิจหลักของกลุ่ม PTT ผู้บริหารยังคงเน้นตลาดในประเทศที่มีความต้องการใช้เชื้อเพลิงสูง ขณะที่การลงทุนในต่างประเทศยังคงเน้นโครงการที่มีศักยภาพสูง โดยเฉพาะโครงการโรงไฟฟ้า ซึ่งรวมไปถึงโครงการ Gas to Power Project และธุรกิจสถานีบริการน้ำมันในภูมิภาค (PTTOR) นอกจากนี้ เราชอบแผนในระยะยาวของบริษัทในการมองหาธุรกิจใหม่ที่มีความผันผวนน้อยกว่าธุรกิจเดิมที่เป็น Commodities
แนะน่า “ซื้อ” ผลกระทบในช่วงที เหลือของปี ค่อนข้างจ่ากัด
การเข้าฟังมุมมองของผู้บริหารเกี่ยวกับผลกระทบของ COVID-19 ต่อธุรกิจหลักในปี 2563 ไม่มากอย่างที่เรากังวลก่อนหน้านี โดยบริษัทมองว่าความต้องการใช้ก๊าซฯ ในประเทศที่คาดว่าจะลดลง 5% - 10% มาจาก Demand ก๊าซฯ ของกลุ่มโรงแยก และลูกค้าอุตสาหกรรมที่ปรับลดลงมาก ขณะที่กลุ่มลูกค้าโรงไฟฟ้าบริษัทประเมินว่าจะกระทบเพียง 1% - 2% เท่านั้นอย่างไรก็ตามผลกระทบที่เกิดจาก COVID-19 ทำให้เราปรับลดประมาณการณ์กำไรสุทธิปี2563 เหลือ 6.76 หมื่นล้านบาท ลดลง 27.3%YoY และปรับลดราคาเป้าหมายเหลือ 42 บาท(เดิม 52 บาท) โดยเรายังแนะนำ “ซื้อ” มองว่าผลกระทบในช่วงที่เหลือของปี 2563 ค่อนข้างจำกัด
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities
ดูกราฟราคาหุ้น ปตท. (BK:PTT)
https://th.investing.com/equities/ptt
กระทู้พูดคุยเกี่ยวกับหุ้น ปตท.