Today Selection CK, IP, LH
FOMC result could lead to more USD carry / Avoid ETRON & FOOD / Stick with BANK & PROP
: คาด SET ได้แรงประคับประคองจากผลการประชุม FOMC ที่ออกมา Dovish กว่าที่เราคาดไว้เล็กน้อย ซึ่งจะทำให้ธีมUSD Carry trade ยังคงดำเนินต่อไป (รายละเอียดด้านล่าง)ในเชิงกลยุทธ์: สำหรับผู้ที่ลดพอร์ตไปแล้วช่วงต้นสัปดาห์ สามารถถือหุ้นในส่วนที่เหลือต่อไปได้ โดยยังคงเน้นโฟกัสไปยังกลุ่มหุ้น Value stock ที่ยังคงปรับตัว Laggard เช่น กลุ่มธนาคารพาณิชย์ (BANK)และ อสังหาฯ (PROP)ซึ่งจากการศึกษาของเราในอดีตพบว่ามักเป็นกลุ่มที่มักปรับตัว Outperform ตลาดในช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นตัวจากวิกฤติต่างๆโดยสำหรับกลุ่มอสังหานั้น ประเมินมี Sentiment เชิงบวกอย่างต่อเนื่อง (รายละเอียดด้านล่าง)
FOMC: สรุปไฮไลท์สำคัญและมุมมองของเราจากการประชุม FOMC เมื่อคืนนี้
- ในภาพรวม โทนที่ออกมานั้นถือว่า Dovish กว่าที่เราคาดไว้เล็กน้อย
- โดยสิ่งที่เป็นสัญญาณ Dovish แรกก็คือประมาณการ Dot plots ที่ค่ากลางนั้นจะแช่อยู่ที่ระดับ 0.125% ไปเรื่อยๆจนถึงสิ้นปี 2022 เลยทีเดียว
- ที่สำคัญประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจปีนี้ของ Fed ถือว่าออกมาใกล้เคียงหรือแย่กว่าที่ตลาดคาดเล็กน้อย โดยเฉพาะ GDP ที่ Fed คาดว่าจะหดตัวถึง 6.5% ในขณะที่ตลาดคาดหดตัว 5.7%
- ส่วนใน Statement ที่ออกมา Fed แสดงถึงความมุ่งมั่นที่จะคงระดับการซื้อสินทรัพย์อย่างน้อยไม่ให้ต่ำไปกว่าระดับเดิม(เดือนละ 1.2 แสนล้านเหรียญฯ แบ่งเป็นพันธบัตรรัฐบาล 8 หมื่นล้าน และ MBS 4 หมื่นล้าน)
Implication: จากโทนที่ออกมา Dovish กว่าที่เราคาดนี้ เมื่อมาประกอบกับรายงานตัวเลข CPI ของสหรัฐฯเมื่อวานนี้ที่ออกมาอ่อนแอกว่าคาด (-0.1% MoM)ประเมินว่าจะเป็นปัจจัยจำกัด Upside ที่สำคัญของเงิน USD และ UST Yield ต่อไป ซึ่งจะมีผลกระทบต่างๆดังนี้
- เป็นปัจจัยประคับประคองสินทรัพย์เสี่ยง โดยเฉพาะทางฝั่งของสินทรัพย์ประเทศเกิดใหม่ (EM)
- เป็นปัจจัยสนับสนุนสกุลเงินของประเทศ EM ทั้งหลายรวมถึงเงินบาทไทย เนื่องจากจะกระตุ้นให้เกิด USD Carry trade อย่างต่อเนื่อง
- ในส่วนของประเทศไทยนั้น ยังคงมองเช่นเดิมว่าตลาดที่น่าจะได้อานิสงส์มากที่สุดก็คือตลาดตราสารหนี้ ที่ล่าสุดอัตราผลตอบแทนพันธบัตรแท้จริงเมื่อเทียบกับสหรัฐฯนั้น ปรับตัวขึ้นสู่จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์แล้ว
- จาก Fund flow ที่มีโอกาสไหลเข้าตลาดตราสารหนี้ไทยต่อเนื่องนี้ (เมื่อวานนี้ไหลเข้าอีก 3 พันล้านบาท) ทำให้เราประเมินว่าธปท.คงจะต้องมีการออกมาตรการบางอย่างเพื่อสกัดเงินร้อนที่ไหลเข้ามามากขึ้น อย่างเช่นการลดวงเงินออกพันธบัตร เป็นต้น
- ทั้งนี้ หากมาตรการสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินบาทออกมาล่าช้า อาจทำให้ภาคการส่งออกของไทยที่ดูเหมือนจะเริ่มฟื้นตัวแล้วในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะสินค้าจำพวกอาหารและเกษตร อาจกลับมาได้รับผลกระทบเชิงลบที่มากขึ้นได้แนะนำหลีกเลี่ยงกลุ่ม ETRON และกลุ่ม FOOD ไปก่อนในช่วงนี้
|
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities
.....
บทความห้ามพลาด