ปี 2020 ถือเป็นปีที่ไม่เป็นมิตรกับราคาน้ำมันเลย นับตั้งแต่ราคาน้ำมันขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดไว้ที่ $63.27 เมื่อวันที่ 6 มกราคมหลังจากนั้นราคาน้ำมันดิบก็ปรับตัวลงมาตลอดจนถึงปัจจุบัน
หากพิจารณาในภาพใหญ่จะพบว่าที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบวิ่งอยู่ในกรอบราคาตั้งแต่วันที่ 23 เมษายนหลังจากขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดไว้ที่ $66.30 และมีจุดต่ำสุดซึ่งที่ผ่านมาราคาจะพยายามไม่ลงไปเกิน $50 อยู่ตลอด หากจะย้อนกลับไปดูว่าราคาน้ำมันลงไปที่ $50 ด้วยสาเหตุอะไรต้องย้อนกลับไปถึงปี 2015 ซึ่งเป็นปีที่แย่ที่สุดของราคาน้ำมันดิบเมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กดดันโอเปกให้ลดปริมาณการเก็บน้ำมันดิบในคลังลงเพื่อบีบราคาน้ำมันดิบของโอเปกให้อยู่ในระดับต่ำ จากนั้นก็เข้าสู่มหากาพย์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ - จีนซึ่งถือว่าเป็นช่วงที่ราคาน้ำมันเปลี่ยนแปลงขึ้นลงอย่างรวดเร็ว
และในปี 2020 ที่ตลาดน้ำมันถูกเล่นงานตั้งแต่เดือนแรกด้วยเชื้อไวรัส COVID-19 ที่ตอนนี้กำลังจะกลายเป็นการระบาดระดับโลก ความเสียหายจากการแพร่ระบาดของเชื้อไว้รัสโคโรนาไม่เพียงแต่ทำร้ายภาคการผลิตเท่านั้นแต่ยังรวมไปถึงการขนส่ง สายการบิน การท่องเที่ยวและที่สำคัญอาจจะส่งผลทำให้การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ - จีนในขั้นที่สองให้ไม่สามารถตกลงกันได้ด้วยเพราะจีนคงจะไม่พร้อมและไม่ยินดีทำการค้าใดๆ เมื่อต้องนำเงินของตัวเองไปซ่อมแซมเศรษฐกิจที่ได้รับความเสียหายจากไวรัสโคโรนา
จากปัจจัยพื้นฐานที่กล่าวมาจะทำให้ทิศทางของราคาน้ำมันดิบวิ่งไปทางไหนกัน? เมื่อพิจารณาภาพรวมทางเทคนิคแล้วคาดว่าระดับเป้าหมายแรกในการลงของน้ำมันจะอยู่ที่ $45 และในระยะยาวอาจลงไปถึง $40 ได้ อย่างไรก็ตามที่ระดับราคา $42 เป็นแนวรับที่เกิดจากจุดต่ำสุดของราคาตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2016 ซึ่งแนวรับนี้อาจจะพอรับราคาน้ำมันไหว
เมื่อพิจารณาจากภาพรวมในปัจจุบันทำให้เข้าใจว่าเศรษฐกิจของโลกตอนนี้กำลังย่ำแย่แค่ไหน การมุ่งหน้าลงสู่แนวรับ $40 หากย้อนกลับไปพูดคำนี้ในเดือนที่แล้วรับรองได้ว่าไม่มีใครเชื่ออย่างแน่นอน
ถามว่าทำไมต้องเป้าหมายต้อง $45? เพราะว่าเราวัดจากกรอบราคาตั้งแต่ $50 ขึ้นไปยังจุดสูงสุดที่ $55 จะได้ค่าความต่างมา $5 และโดยปกติถ้าแนวโน้มขาราคากำลังอยู่ในช่วงที่แข็งแรงอยู่มีโอกาสที่ราคาจะไปได้ไกลกว่าเดิมอีก 1 เท่าเพิ่มขึ้นมาจากระยะกรอบราคาที่วัดได้จึงเป็นเหตุให้เป้าหมายของราคาขาลงในระยะแรกอยู่ที่ $45 และด้วยวิธีการคำนวนแบบเดียวกันกรอบราคาที่ลากมาตั้งแต่จุดต่ำสุดเดือนพฤษภาคมปี 2019 จนถึงปัจจุบันทำให้เราได้ค่าความต่างมาอย่างน้อย $13 ทำให้เป้าหมายของราคาในกรอบใหญ่จึงอยู่ที่ $40
อย่างไรก็ตามที่เราไม่ได้พูดถึงแนวรับ $42 เพราะเราเชื่อว่าแนวรับดังกล่าวเป็นแนวรับสำคัญที่จะสามารถหยุดราคาขาลงได้อยู่แล้วแต่จะลงต่อหรือไม่ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
กลยุทธ์การเทรด
เทรดเดอร์ที่ไม่ชอบความเสี่ยง จะรอจนกว่าราคากลับขึ้นไปทดสอบแนวต้าน $50 ก่อนที่จะวางคำสั่งขาย
เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง จะรอจนกว่าราคากลับขึ้นไปทดสอบแนวต้าน $50 เช่นกันแต่จะไม่รอแท่งเทียนยืนยันขาลง
เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้สูง จะเสี่ยงสวนเทรนเข้าซื้อโดยวาง stop-loss เอาไว้โดยเชื่อว่าเป็นการกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านเพื่อปรับตัวลงต่อ
ตัวอย่างการเทรด (สำหรับเทรดเดอร์ที่ชอบความเสี่ยง)
- จุดเข้า: $48
- Stop-Loss: $47.75
- ความเสี่ยง: $0.25
- เป้าหมายในการทำกำไร:$49.25 (วางไว้ต่ำกว่าจุดต่ำสุดของวันที่ 4 กุมภาพันธ์ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดที่อยู่ในรูปแบบ preceding pattern)
- ผลตอบแทน: $1.25
- อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 1:5