กำไรปกติช่วง 4Q62 โต 69.6%YoY จากฐานที่ต่ำในปีก่อนและมำร์จิ้นที่ดีขึ้น EPG รายงานกำไรสุทธิช่วง 4Q62 (สิ้นงวดวันที่ 31 มี.ค.) จำนวน 238 ลบ. โต 117.2%YoY แต่หากไม่รวมกำไรจาก FX ที่บันทึกในไตรมาสนี้ 52 ลบ. ยังมีกำไรปกติ 187 ลบ. โต 69.6%YoY โดยหลักมาจาก ฐานกำไรในปีก่อนที่ต่ำผิดปกติเพราะมีบันทึกการตั้งสำรองผลประโยชน์พนักงานราว 50 ลบ. ทำให้ในไตรมาสนี้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานปรับลงราว 12.7%YoY บวกกับแรงหนุนจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นมาก จากเพียง 25.8% ในช่วง 4Q62 เป็น 28.4% หลังทยอยปรับเพิ่มราคาขายของฉนวนยางให้สูงขึ้นทันกับต้นทุนวัตถุดิบที่แพงขึ้น
อย่างไรก็ดีผลบวกดังกล่าวบางส่วนถูกชะลอลงจาก
1) รายได้จากการขายหดตัว 7%YoY หลังธุรกิจอะไหล่ยานยนต์ของ ARK เริ่มได้รับผลจากภาวะ ศก. ที่อ่อนแอลงต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วง ปลายปี2562 และเริ่มเห็นผลกระทบทาง ศก. จากการแพร่ระบาดของ COVID-19 กดดันยอดขายยานยนต์ทั้งในประเทศและในออสเตรเลีย (TJM+Flexigrass) รวมถึงทำให้ยอดขายบรรจุภัณฑ์ของ EPP อ่อนแอลง ตามการใช้จ่ายภาคครัวเรือนที่ลดลง และ
2) รายได้อื่นๆ ลดลง 43.6%YoY หลังส่วนแบ่งกำไร จากบริษัทร่วมซึ่งส่วนใหญ่มาจากธุรกิจเกี่ยวข้องกับอะไหล่ยานยนต์ปรับตัวลงใกล้เคียงกับ ARK ท าให้ทั ้งปี 2562 EPG มีกำไรปกติ 1,000 ลบ. โต 10.1%YoY ใกล้เคียงคาด
ปรับลดประมาณการสะท้อนแนวโน้มธุรกิจ ARK และ EPP ที่แย่ลง เราค่อนข้างกังวลต่อผลดำเนินงานในปี 2563 โดยเฉพาะในช่วง 1Q63 (สิ้นงวดวันที่ 30 มิ.ย.) ที่จะเห็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 เต็มไตรมาส ส่งผลให้
1) ยอดขายอะไหล่ยานยนต์ของ ARK คาดปรับตัวลงแรง สอดคล้องกับยอดขายยานยนต์ในประเทศที่หดตัวสูงสุดในรอบกว่า 30 ปี (เดือน เม.ย. ยอดขายยานยนต์หดตัว 65%YoY) อีกทั้งช่วง 2H63 คาดฟื้นตัวได้เพียงเล็กน้อยเนื่องจากกำลังซื้อในประเทศยังอ่อนแอ
2) ยอดขายบรรจุภัณฑ์พลาสติกของ EPP ได้รับแรงกดดันจากการปิดเมืองปิดห้าง ในเดือน เม.ย.-พ.ค. ทำให้ยอดขายสินค้าของลูกค้ากลุ่ม Branded Wholesale และ Retail ปรับตัวลงมาก
และ 3) อัตรากำไรขั้นต้นคาดอ่อนตัวลง จากผลของการประหยัดต่อขนาด (Economies of Scales) ที่แย่ลง ในช่วงที่ยอดขายหดตัว ดังนั้นเพื่อยึดหลักอนุรักษ์นิยม เราจึงปรับลดประมาณการกำไรปกติของ EPG ในปี 2563 ลง 21.7% โดยภายใต้ประมาณการใหม่คาด EPG จะมีกำไรปกติราว 876 ลบ. หดตัว 12.4%YoY โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักจากเพียงยอดขายฉนวนยางของ AFC ที่เติบโตได้ดีเนื่องจากภาคการก่อสร้างในต่างประเทศมีการหยุดชะงักเพียงเล็กน้อยและคู่แข่งมีปัญหาในการจัดหาวัตถุดิบเพื่อใช้ในการผลิต
ลดคำแนะนำเป็น “Trading” จนกว่าจะเห็นกำรฟื้นตัวของผลดำเนินงาน เราคาดราคาหุ้น EPG จะถูกกดดันด้วยทิศทางผลดำเนินงานที่ไม่สดใสไปอีกระยะหนึ่ง ทำให้แม้ปัจจุบัน ราคาหุ้นยังมี Upside 11.5% จากมูลค่าพื้นฐานใหม่ปี 2563 ที่ 5.80 บาท (ปรับไปใช้ PER ที่ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี –1 S.D. ที่ 18.4x) แต่เราปรับลดคำแนะนำลงจาก “ซื้อ” เป็ น “Trading”จนกว่าจะเห็นการฟื้นตัวของรายได้ธุรกิจอะไหล่ยานยนต์ของ ARK และยอดขายบรรจุภัณฑ์ของ EPP รวมถึงแผนธุรกิจที่ชัดเจนขึ้นของธุรกิจหน้ากากอนามัยในปีนี้ (ปัจจุบันอยู่ระหว่างทดสอบตลาด)
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Yuanta Securities