โดย Kathy Lien กรรมการผู้จัดการด้านกลยุทธ์ฟอเร็กซ์จาก BK Asset Management
ภาพรวมตลาดฟอเร็กซ์ประจำวันที่ 10 พฤษภาคม 2019
สงครามทางการค้ากลับมาอีกครั้งและแม้ว่าตลาดฟอเร็กซ์จะไม่มีปฏิกิริยาอย่างชัดเจนกับการขึ้นอัตราภาษีสินค้าจากจีนของประธานาธิบดีทรัมป์ แต่ถือเป็นความเสี่ยงต่อสกุลเงินและหุ้นต่างๆ ในอนาคตอย่างมาก หลังจากพักรบไป 4 เดือน ทรัมป์กลับมาเริ่มการเจรจาใหม่อีกครั้ง เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาเขายังคงรักษาคำพูดที่จะเพิ่มอัตราภาษีกับสินค้าที่นำเข้าจากจีนจาก 10% เป็น 25% ซึ่งถือเป็นฝันร้ายสำหรับผู้ส่งออกของจีน รัฐบาลจีน ธนาคารกลางทั้งในจีนและต่างประเทศ รวมถึงนักลงทุนทั่วโลกอย่างมาก อย่างไรก็ตามสภาวะการขาดทุนในสกุลเงินและหุ้นยังมีไม่สูงนัก ดัชนีดาว ยังดีดจากจุดต่ำสุดขึ้นมายืนในแดนบวกใกล้ 400 จุดเมื่อปิดตลาดได้
เหตุผลที่การเจรจาทางการค้าในรอบนี้ไม่ทำให้เกิดการเทขายสกุลเงินต่างๆ เป็นวงกว้างมี 4 ข้อดังนี้
- การสนับสนุนทางด้านหุ้นของจีน
- มีการตอบสนองของตลาดกับเรื่องการปรับภาษีไปแล้ว
- ไม่มีการตอบโต้จากจีน
- ความหวังที่จะบรรลุข้อตกลงด้วยการกดดันจีนให้หนักขึ้น
ยิ่งเข้าใกล้กำหนดที่ทรัมป์ได้วางไว้ ตลาดก็ยิ่งตอบสนองกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นไว้ล่วงหน้าแล้ว โอกาสที่จะบรรลุข้อตกลงได้ในเวลาอันจำกัดน่าจะเหลือน้อยเต็มที และจีนก็ไม่มีท่าทีที่จะโต้ตอบใดๆ นักลงทุนบางกลุ่มหวังว่าการเพิ่มแรงกดดันกับจีนน่าจะทำให้จีนยอมรับข้อตกลงได้ รัฐบาลจีนใช้เงินของรัฐหนุนเพื่อซื้อหุ้นจีนเพื่อลดความเสี่ยง
ตอนที่ประธานาธิบดีทรัมป์เผยว่าจะใช้อัตราภาษี 10% กับสินค้าของจีนมูลค่า 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ ในวันที่ 17 กันยายนปีที่แล้ว ตลาดก็มีการตอบสนองในแบบที่คล้ายกันนี้เช่นกัน EUR และ AUD มีการฟื้นตัวเมื่อเทียบกับ ดอลลาร์สหรัฐ และยังทำกำไรต่อเนื่องหลายวันในขณะที่รอดูการโต้ตอบจากจีน USD/JPY ปรับตัวลดลงในวันที่ประกาศอัตราภาษีแต่ก็ยังเพิ่มจาก 112 เป็น 114.50 ได้ในเวลาไม่กี่สัปดาห์หลังจากนั้น อย่างไรก็ตาม มีข้อแตกต่างอยู่อย่างหนึ่งคือในขณะนั้นทรัมป์ยังไม่ตัดสินใจว่าจะใช้อัตราภาษี 10% หรือ 25% ราคาเสนอซื้อสกุลเงินและหุ้นต่างๆ ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อรู้ว่าทรัมป์เลือกใช้อัตรา 10% เมื่อประกาศภาษีสำหรับ เหล็ก และ อะลูมิเนียม ในเดือนมีนาคม การซื้อขายสกุลเงินและหุ้นก็คึกคักมากขึ้นเป็นเวลาไม่กี่วันแล้วก็ซาไป ท้ายที่สุดแล้วนโยบายทางภาษีของทรัมป์ไม่เป็นผลดีกับตลาดสหรัฐฯ และยังทำให้ตลาดอื่นๆ ทั่วโลกได้รับผลกระทบในเชิงลบตามไปด้วยเป็นเวลาอีกหลายสัปดาห์ต่อจากนี้ เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางหลายแห่งคงจะออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับข้อมูลทางเศรษฐกิจที่มีสภาวะอ่อนตัวลงในไม่ช้า
ในระยะสั้น เมื่อมีคำตอบในการเจรจาด้านภาษีออกมาเรียบร้อยแล้ว เราน่าจะได้เห็นการฟื้นตัวของสกุลเงินและหุ้นต่างๆ ชัดเจนมากขึ้น ยอดขายปลีก ของสหรัฐฯ, ดัชนีอุตสาหกรรม Empire State, การสำรวจข้อมูลและตลาดครัวเรือนของ ธนาคารกลางฟิลาเดลเฟีย จะมีการประกาศออกมาในสัปดาห์หน้า นาย พาวเวล ยังคงเชื่อมั่นว่าจะยังไม่มี การปรับเพิ่มดอกเบี้ย อีกในปีนี้ และรายงานต่างๆ เหล่านี้ก็จะช่วยลดความเสี่ยงรวมทั้งค่าเงิน ดอลลาร์สหรัฐ ได้ด้วย
ขณะเดียวกัน มีรายงานล่าสุดว่าเศรษฐกิจของแคนาดาในช่วงนี้กำลังร้อนแรง เนื่องจาก อุตสาหกรรมการผลิต มีปริมาณสูงขึ้น และที่สำคัญคืออัตรา ปริมาณการจ้างงาน ในรอบเดือนสูงที่สุด ในเดือนเมษายน แคนาดามีปริมาณการจ้างงาน 106,500 ตำแหน่ง ซึ่งมากกว่าจำนวนที่คาดไว้เกือบ 10 เท่า การมีอัตราส่วนที่เหมาะสมระหว่างงานประจำกับงานพาร์ทไทม์ช่วยให้ อัตราการว่างงาน ลดลงเหลือ 5.7% จากรายงานจำนวนตำแหน่งงานซึ่งถือเป็นรากฐานของเศรษฐกิจที่ดีเช่นนี้ ย่อมทำให้เกิดการเติบโตในตำแหน่งงานของปีนี้ได้เป็นอย่างดี ค่าจ้างและ การใช้จ่ายของผู้บริโภค ก็จะเพิ่มมากขึ้นจากจำนวนงานที่มากขึ้นด้วยเช่นกัน ธนาคารกลางจึงคลายความกังวลลงได้บ้าง USD/CAD ยังคงดิ่งลงอย่างหนักหลังจากที่มีการประกาศรายงานดังกล่าวและเราเชื่อว่าน่าจะยังลดลงต่อเนื่องไปอีก แม้ว่า รายงาน ดัชนีราคาผู้บริโภค ในสัปดาห์หน้าจะผ่อนปรนแรงกดดันด้านราคาลงเล็กน้อยก็ตาม