ภาพรวมตลาดฟอเร็กซ์ประจำวันที่ 13 มีนาคม 2019
โดย Kathy Lien กรรมการผู้จัดการกลยุทธ์ฟอเร็กซ์จาก BK Asset Management
ผู้ลงทุนต่างก็โล่งอกที่สหราชอาณาจักรจะไม่ออกจากสหภาพยุโรปโดยไม่มีข้อตกลง ในระยะเวลาสองวันที่ผ่านมา รัฐสภาปฏิเสธข้อตกลงการถอนตัวของนางเธเรซา เมย์ และยังลงคะแนนเสียงไม่ยอมรับการถอนตัวโดยไม่มีข้อตกลงอีก แต่แทนที่นายกเมย์จะยอมรับความพ่ายแพ้ นายกเมย์กลับไม่ยอมลดราวาศอกง่าย ๆ และเมื่อทราบถึงเจตนาที่แท้จริงของรัฐสภาแล้วจึงได้ตอบโต้ว่า จะยังคงยึด Brexit แบบไม่มีข้อตกลงเป็นแผนการหลัก จนกว่าจะมีการร่างข้อตกลงอีกครั้ง ด้วยเจตนารมณ์ดังกล่าว นายกเมย์จึงไม่สามารถยื้อเวลาต่อไปได้และจำเป็นต้องเสนอขอยืดเวลาให้แก่มาตรา 50 โดยมีข่าวรายงานว่านายกเมย์จะขอยืดเวลาไปอีกสองเดือน และถ้าหากนายกเมย์ขอไม่ได้ การลงคะแนนเสียงในวันนี้จะบีบบังคับให้นายกเมย์ล้มเลิกความตั้งใจ
GBP/USD พุ่งขึ้นมากกว่า 2% เมื่อวานและคู่เงิน EUR/GBP ตกลงสู่ระดับที่ต่ำที่สุดในรอบปี ความเสี่ยงที่จะ Brexit โดยไม่มีข้อตกลงทำให้บรรดาธนาคารกลางและผู้ลงทุนหายใจไม่ทั่วท้องอยู่หลายเดือน และเมื่อความเป็นไปได้ดังกล่าวถูกตัดออกไป สหราชอาณาจักรจึงไม่ตกอยู่ในความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะถดถอยอย่างรุนแรงและฉับพลันอีกต่อไป ในทางกลับกันการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจจะค่อย ๆ ชะลอตัวลงอย่างช้า ๆ จนกว่าสหราชอาณาจักรจะสามารถถอนตัวจากสหภาพยุโรปได้ และสามารถทำข้อตกลงที่เหมาะสมต่อประเทศอื่นได้ แม้จะยังไม่ถือว่าเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรพ้นขีดอันตราย แค่เพียงรอดตัวไปก่อนในช่วงนี้เท่านั้น แต่แรงหนุนที่แข็งแกร่งของเงินปอนด์แสดงให้เห็นว่า ตลาดโล่งอกที่ประเทศอังกฤษรอดตัวจากการจมดิ่งลงสู่หายนะแล้ว
แต่เงินปอนด์สเตอร์ลิงยังคงมีอีกหนึ่งอุปสรรคที่รอคอยอยู่ นั่นก็คือระยะเวลาการยืดเวลามาตราที่ 50 ว่าจะยืดไปในระยะสั้นแค่สองเดือนหรือยืดเยื้อไปอีกสองปี เราได้รับสัญญาณจากคำกล่าวครั้งก่อนของคณะกรรมาธิการยุโรปว่า ทางคณะยินดีพิจารณาการเลื่อนระยะเวลาถอนตัวออกไปมากกว่าหนึ่งปี แต่นายกรัฐมนตรีอังกฤษที่ยังไม่ยอมส่งข้อเสนอจนกระทั่งถึงตอนนี้ อาจเลือกแนวทางในระยะสั้นแทนเพื่อหวังว่าจะเร่งรัดให้ทุกฝ่ายตัดสินใจ บัดนี้ยังคงไม่แน่ชัดว่าเราจะทราบความคืบหน้าเมื่อใด แต่อย่างไรก็ต้องมีการเสนอขอเกิดขึ้นและสหภาพยุโรปก็พร้อมที่จะอนุมัติอย่างแน่นอน
เนื่องจากยังเหลือเวลาอีกหลายปีในการสรุปข้อตกลง ฉะนั้นความเป็นไปได้ที่นายกเมย์จะร้องขอให้ยืดเวลาเพียงแค่สองเดือนคงจะเป็นไปได้ยาก แต่ถ้านายกเมย์ยื่นข้อเสนอแล้วสหภาพยุโรปตอบรับ (ซึ่งไม่มีเหตุผลที่สหภาพยุโรปจะปฏิเสธ) คู่สกุลเงิน GBP/USD อาจขยับขึ้นไปไกลขึ้นอีกถึงระดับ 1.35 ตลาดการเงินทุกตลาดได้รับผลดีจากการลงคะแนนเสียง Brexit ครั้งนี้ เห็นได้จากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง เช่นเดียวกับสกุลเงินกลุ่มผลตอบแทนสูง (high-beta currencies) ที่พุ่งขึ้นตามเงินปอนด์ คู่สกุลเงิน EUR/USD ก็พุ่งขึ้นทะลุระดับ 1.13 ทว่า USD/CAD กลับดิ่งลงต่ำกว่า 1.33 หากเกิดกรณี Brexit แบบไม่มีข้อตกลงคงจะสร้างปัญหาให้แก่ฝั่งยูโรโซนอย่างมาก แม้ว่ารากฐานทางเศรษฐกิจของฝั่งยูโรโซนจะไม่ได้แข็งแกร่งเท่าไรนัก แต่เมื่อพิจารณาจากการฟื้นตัวทางการผลิตด้านอุตสาหกรรมเมื่อต้นเดือน ระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ที่เพิ่มขึ้น และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเยอรมนีที่ลดต่ำลง ปัจจัยทั้งหมดเหล่านี้น่าจะช่วยหนุนให้ยูโรปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างน้อยเราคาดว่า EUR/USD จะต้องกลับขึ้นไปแตะ 1.1365 หรือ 1.14
เงินดอลลาร์สหรัฐฯ อาจขยับลงไปอีกเมื่อจับคู่กับสกุลเงินอื่น ๆ โดยเฉพาะหลังจากมีการประกาศรายงานอัตราเงินเฟ้อที่อ่อนแอ แม้ว่าข้อมูลราคา ผู้บริโภค และ ผู้ผลิต จะเพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้วแต่กลับไม่ได้ส่งผลต่อราคาน้ำมันเท่าไรนัก อย่างไรก็ดี คาดว่ารายงาน จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน และ ยอดขายบ้านมือหนึ่ง ในวันนี้ไม่น่าจะส่งผลใด ๆ อย่างชัดเจนต่อสกุลเงิน ทว่าผู้ซื้อขายสกุลเงิน USD/JPY คงพากันหันไปให้ความสนใจกับการประชุมนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่นที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ แม้ว่าดูเหมือนจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางนโยบายใด ๆ แต่การเติบโตทางเศรษฐกิจตอนนี้กำลังเป็นไปเชื่องช้าและอัตราเงินเฟ้อก็ลดต่ำลง ธนาคารกลางญี่ปุ่นจึงอาจปรับเปลี่ยนการประเมินด้านเศรษฐกิจ ซึ่งอาจส่งผลให้เงินเยนลดลงไปอีก