ทองปรับตัวขึ้นเช้านี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 85% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25%

ราคาทองโลกปิดที่ระดับ 2,633 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 227,000 ตำแหน่งในเดือน พ.ย. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 202,000 ตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม Fed Watch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 85% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 17-18 ธ.ค.นี้ สำหรับวันนี้ทองคำยังเผชิญแรงเทขายในช่วงเช้าจากการที่สกุลดอลลาร์เริ่มรีบาวน์ปรับตัวแข็งค่าขึ้น สำหรับปัจจัยสำคัญสัปดาห์นี้ ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI และดัชนีราคาผู้ผลิต PPI ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งผู้นักลงทุนตลาดจะใช้ประเมินแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินนโยบายการเงินของเฟดได้


ข้อมูลเทคนิค(Technical Analysis)
สำหรับวันนี้ราคาทองโลกเปิดตลาดที่ระดับ 2,643 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับราคาทองคำแท่ง 96.5% ในประเทศคาดการณ์ตอนเปิดตลาดขายออกราวบาทละ 42,450-42,500 บาทสำหรับมุมมองทางเทคนิค ภาพรวมราคาทองโลกยังเคลื่อนไหวพักตัวในกรอบ 2,665-2,607ดอลลาร์ต่อออนซ์ รอเบรกข้างใดข้างหนึ่งเพื่อเลือกทิศทาง ทั้งนี้หากยังไม่สามารถยืนเหนือกลุ่มเส้นค่าเฉลี่ยทั้งหลายใน TF4H หรือแถว 2,650-2,663ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำให้ทองโลกยังมีแนวโน้มกลับไปเคลื่อนไหวแถว2,630-2,607 อีกครั้ง (ฝั่งขายได้เปรียบตลาด) ขณะที่มุมมองโมเมนตัมเชิงบวกต้องรอให้ทองโลกกลับไปยืนเหนือ 2,663 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ฝั่ง Buy จะกลับมาได้เปรียบตลาดโดยมีเป้าหมายถัดไปที่ 2676-2688ดอลลาร์ต่อออนซ์ บทวิเคราะห์ข้างต้นจัดทำขึ้นสำหรับกลุ่มลูกค้าของบริษัทฯเท่านั้น บริษัทฯไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง
กลยุทธการลงทุนทองคำ (Buy)
ราคาทองโลก (Gold Spot):  
แนวรับ  2,620/2,607 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวต้าน 2,640/2,655 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ทองคำทองคำแท่งน้ำหนัก 1 บาท 96.5%:   
แนวรับ  42,300/42,150บาท  
แนวต้าน 42,450/42,600บาท
หมายเหตุ ราคาทองไทยเป็นราคาโดยประมาณซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามทิศทางค่าเงิน

อัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯล่าสุด
ดอกเบี้ยสหรัฐล่าสุดอยู่ที่ระดับ 4.50-4.75%