More caution needed
• SET: คาดการณ์ SET Index แกว่งตัวอิงทางลงในสัปดาห์นี้ โดยประเมินกรอบแนวรับที่ 1430 จุดและกรอบแนวต้านที่ 1480 จุด ภายหลังจากที่เราเห็นสัญญาณที่ไม่ดีนัก ในส่วนของปัจจัยพื้นฐานกําไร บริษัทจดทะเบียน (รายละเอียดด้านล่าง) ในส่วนของตลาดหุ้นต่างประเทศ คาดว่าจะเห็นการ Outperform ต่อไปของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ภายหลังจาก ผลการเลือกตั้งที่ออกมาในกรณี Red sweep รวมถึงสินทรัพย์ที่ได้ ประโยชน์อื่น เช่น Bitcoin และค่าเงิน USD เป็นต้น
• EPS & EYG update: ผลประกอบการไตรมาส 3/67 ของบจ.ที่ออกมา ล่าสุดโดยส่วนใหญ่ถือว่าน่าผิดหวังอย่างมาก โดยถึงแม้ว่ารายได้โดยรวม จะถือว่าใกล้เคียงกับตลาดคาด แต่หากดูในส่วนของผลกาไรนั้น ถือว่าต่า กว่าที่ตลาดคาดไปถึง 23% โดยความผิดหวังส่วนใหญ่เกิดขึ้นในกลุ่ม Materials และ Energy เป็นสําคัญ (รูปที่ 1) ผลประกอบการที่น่าผิดหวังนี้ ได้น่ามาสู่ระลอกของการปรับลดประมาณการก่าไรของตลาดหุ้นไทยอีก ครั้ง โดยล่าสุด คาดการณ์ EPS ของ SET Index ปี 2024E และ 2025E หล่นลงมาเหลือเพียง 88.3 และ 99.7 เท่านั้น (รูปที่ 2) ทั้งนี้ หากอ้างอิง ค่าเฉลี่ย Earning yield gap (EYG) ของตลาดหุ้นไทยล่าสุดที่ 3.58% และ Bond yield 10 ปีของไทยที่ 2.41% จะได้ว่าระดับ SET Index ปัจจุบันที่ 1465 จุดนั้นถือเป็นระดับที่ยุติธรรมในมาตรวัด EYG เรียบร้อยแล้ว (รูปที่ 3) ลดลงจากระดับเดิมที่เราเคยคํานวณก่อน หน้านี้ที่ 1510-1530 จุดพอสมควร ทั้งนี้ระดับ 1465 จุดยังถือเป็น ระดับที่ใกล้เคียงกับดัชนีเป้าหมายในวิธี PE Model ของเราที่ 1480
• Strategy: ด้วย Upside ของ SET Index ที่แทบไม่เหลือแล้วจากการถูก ปรับลดประมาณการล่าสุด ทําให้เราแนะนํานักลงทุนที่มีนํ้าหนักหุ้นไทย ในระดับสูงพิจารณาการลดน้ําหนักลงมาก่อน หรือใช้กลยุทธ์ Short against port คาดการณ์การเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นเกิดใหม่ (EM) ในระยะสั้นจะยังคงมีความผันผวนตามที่เราวิเคราะห์ผลกระทบไว้ในสัปดาห์ จุดก่อนหน้านี้อีกด้วย ก่อน ภายหลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์เตรียมเข้ารับตําแหน่งปธน.สหรัฐฯ ในช่วงต้นปีหน้านี้
• Factors: สําหรับปัจจัยสําคัญที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่
1) รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทยประจําเดือนตุลาคมในวันที่ 14 พ.ย. ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าติดตามอย่างยิ่งว่าจะลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกันหรือไม่
2) รายงานตัวเลขเศรษฐกิจสาคัญของสหรัฐฯประจําเดือนต.ค. เช่นเงิน เฟ้อ CPI ในวันที่ 13 พ.ย. และยอดค้าปลีกในวันที่ 15 พ.ย.
3) การออกมาให้ความเห็นของกรรมการ Fed หลายท่าน ซึ่งรวมถึงนาย Jerome Powell ประธาน Fed ในคืนวันที่ 14 พ.ย. ตามเวลาบ้านเรา
4) โค้งสุดท้ายของการประกาศผลประกอบการบจ.ประจําไตรมาส 3/67
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities