A vital week
• SET: แนะนํานักลงทุนใช้ความระมัดระวังมากขึ้นในสัปดาห์นี้ เนื่องจากจะมี 2 เหตุการณ์ใหญ่ทั้งการประชุม Fed และ BoJ ที่อาจส่งผลทําให้เกิดความ ผันผวนในตลาดเงินและตลาดทุนทั่วโลกได้ และหากแย่ไปกว่านั้น อาจเป็นปัจจัยที่ท่าให้เงิน USD พลิกกลับมาปรับตัวแข็งค่าอีกครั้ง หลังจาก ที่มีการปรับตัวอ่อนค่ามาตลอดช่วง 2 เดือนครึ่งหลังสุด ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น จริง ประเมินจะส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์ในสกุลเงินประเทศเกิดใหม่รวมถึง ไทยอย่างหลีกเลี่ยงมิได้ สําหรับปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นล่าสุด ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าจีนรายงานตัวเลขผลผลิตอุตสาหกรรม และยอดค้าปลีกต่างแย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ภัณฑ์ในช่วงต้นสัปดาห์นี้ ส่งผลลบต่อสินค้าโภค
• Strategy: ในเชิงกลยุทธ์ เน้นการถือครองหุ้นกลุ่ม Defensive อย่าง Utilities และ Healthcare ต่อไป ในขณะที่พอร์ตระยะสั้น สามารถเลือกซื้อ ไปยังหุ้น Domestic play ปันผลสูงที่ผ่านเกณฑ์การคัดกรองของเรา ซึ่งล่าสุดส่วนใหญ่ยังคงเป็นรายชื่อหุ้นเดิมๆ ได้แก่
1) หุ้นในดัชนี SET100 ได้แก่ HMPRO, OSP, SIRI, AP, ICHI
2) หุ้นกลุ่ม Non-SET100 ได้แก่ DIF, BTSGIF, EGATIF, BAREIT, FTREIT, WHART
• Factors: สําหรับปัจจัยสําคัญที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่
1) การประชุม FOMC ในวันที่ 17-18 ก.ย. โดยล่าสุดมีสิ่งที่น่าสนใจ เกิดขึ้น นั่นก็คือการที่นักลงทุนส่วนใหญ่ (59%) เริ่มโยกย้ายคาดการณ์ การลดดอกเบี้ยของ Fed ว่าจะเกิดขึ้นในระดับ 0.50% ได้ (รูปที่ 1) ดังนั้นไม่ว่าผลออกมาทางไหน ย่อมเชื่อได้ว่าจะเกิดความผันผวนขึ้นใน ตลาดอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นตลาดทุน ตลาดโภคภัณฑ์ หรือตลาด ปริวรรตเงินตราก็ตาม ทั้งนี้ หากผลออกมาเป็นการลดดอกเบี้ย 0.25% คาดว่าเงิน USD จะมีการดีดกลับเข็งค่าช่วงสั้นได้ ยิ่งไปกว่านั้น หากค่า Median/Mode ของ Dot plots ปีนี้ออกมาไม่ได้ Shift ลงไปสู่ระดับ 4.00-4.25% หรือต่ากว่าตามที่ตลาดคาด ณ ขณะนี้ ประเมินว่าอาจ เป็นสัญญาณที่ Hawkish กว่าที่ตลาดคาดหวัง และจะทําให้ทั้งเงิน USD และ Bond yield สหรัฐฯรุ่นสั้นพร้อมปรับตัวรีบาวด์ขึ้นได้ทันที ในทางกลับกัน หาก Fed มีมติลดดอกเบี้ย 0.50% อาจต้องระวังความ กังวลใจของตลาดต่อประเด็น Recession fear ที่อาจกลับมาอีกครั้ง
2) การประชุม Bol ในวันที่ 19-20 ก.ย. ซึ่งล่าสุดตลาดคาดว่า Bo] จะมี มติคงดอกเบี้ยนโยบายไปก่อนในรอบนี้ หลังจากรอบที่แล้วเมื่อช่วง ปลายเดือนก.ค. Bol ได้สร้าง Hawkish surprise ที่สําคัญ นั่นก็คือการ ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายทีเดียว 0.15% (จาก 0.10% เป็น 0.25%) ซึ่งถือว่ามากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ในตอนนั้น ส่งผลให้ตั้งแต่นั้นเป็น ต้นมา เงิน JPY ปรับแข็งค่ามาโดยตลอด หากในการประชุมครั้งนี้ Bol ไม่ได้ส่งสัญญาณอะไรที่ Hawkish เหมือนคราวก่อน มีโอกาสที่เงิน JPY จะพบกับจุดวกกลับในระยะสั้นได้ ซึ่งนั่นหมายความว่าก็จะเป็นอีก หนึ่งปัจจัยที่ทําให้เงิน USD ทยอยแข็งค่าอีกด้วยเช่นกัน
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities