Optimism still in play
• SET: คาด SET Index เปิดตลาดในแดนบวกเล็กน้อย ตามการรีบาวด์ ของตลาดหุ้นเอเชีย หลังเงิน USD กลับมาเริ่มอ่อนค่าอีกครั้งจาก 3 ปัจจัย ได้แก่ 1) ตั่วเลขการเปิดรับสมัครงานในสหรัฐฯที่ออกมาแย่กว่าคาด 2) การโยกย้ายเงินหลบเข้าสู่ Safe haven อย่างเงินเยน และ 3) การให้ สัมภาษณ์ของประธาน Bol ในเชิง Hawkish ว่า BoJ พร้อมที่จะขึ้นดอกเบี้ย ต่อ หากพัฒนาการทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อเป็นไปตามที่ BoJ คาดการณ์ ไว้ ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้สกุลเงินในเอเชียรวมถึงเงินบาทกลับมาแข็งค่า อีกครั้งหนึ่ง
• Optimism: สําหรับหุ้นไทยเมื่อวานนี้ยังคงเดินหน้าแข็งแกร่งต่อไป โดยยังคงได้แรงหนุนจากนักลงทุนสถาบันในประเทศ ซึ่งเข้า อสุทธิเป็น ในประเทศ วันที่ 4 ติดต่อกัน ประเมินแรงซื้อของนักลงทุนกลุ่มนี้มาจากความคาดหวัง เชิงบวกใน 2 ประเด็นหลัก ได้แก่ การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ งมีความคืบหน้า ได้แก่การโปรดเกล้าฯครม.ชุดใหม่เมื่อวานนี้ รวมถึงการแถลงนโยบาย กระตุ้นเศรษฐกิจที่รออยู่ เช่นการแจกเงิน 1 หมิ่นบาทแก่กลุ่มเปราะบาง ขณะเดียวกันอีกหนึ่งปัจจัยที่ตลาดดูเหมือนจะมีความคาดหวังสูงมากขึ้น เรื่อยๆได้แก่การเสนอขายหน่วยลงทุนรอบใหม่ของกองทุนวายุภักษ์ ซึ่งเป็นปัจจัยที่เราพูดไว้ช่วงต้นเดือนว่าหากมีความชัดเจนมากขึ้น จะถือ เป็นตัวช่วยประคับประคอง Sentiment ในตลาดหุ้นไทยเอาไว้ได้บ้าง เนื่องจากการเปิดขายหน่วยลงทุนจํานวน 1.0-1.5 แสนล้านบาทมีโอกาสที่ จะสําเร็จได้ไม่ยาก หากพิจารณาจากระดับ Earning yield gap ของตลาด หุ่นไทย (เทียบบอนด์ไทย) ล่าสุดที่ยังคงอยู่สูงกว่าค่าเฉลี่ย และ Demand for Yield ที่เห็นชัดเจนได้ในช่วงหลังจากการเปิดขายพันธบัตรออมทรัพย์
• Domestic: ตราบใดที่ความคาดหวังข้างต้นยังคงดํารงอยู่ มีโอกาสที่ ตลาดหุ้นไทยจะยังยืนแข็งแกร่งอยู่ได้ในระยะสั้น โดยเฉพาะกลุ่ม Domestic play อย่างค้าปลีกและไฟแนนซ์ ที่น่าจะเป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์ หลักจากมาตรการ Digital Wallet มอง BJC, AEONTS, TIDLOR เป็นด้ว Laggard YTD ที่ยังคงน่าสนใจ หากจะต้องเลือกเข้า อ ในช่วงนี้ อย่างไรก็ดี ด้วย Valuation ของ SET ที่สูงขึ้นทุกขณะ (SET ปรับขึ้น 7% จากจุดต่าสุด ในขณะที่คาดการณ์ EPS ของตลาดปรับ ลง 2% ในช่วงเวลาเดียวกัน) ทําให้ในเชิงกลยุทธ์ เรายังคงแนะนํา Wait & See ในภาพรวม และเชื่อว่าในช่วงครึ่งเดือนหลังที่เริ่มหมดข่าวดีใน ประเทศและมีความเสี่ยงจากปัจจัย Fed เข้ามา อาจทําให้ SET Index มีการย่อตัวลงมาอีกครั้ง
• Defensive: สําหรับนักลงทุนที่ต้องการความปลอดภัยเป็นหลัก ยังคง มองต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ว่ากลุ่ม Defensive play ยังคงเป็นกลุ่มที่ น่าสนใจสําหรับพักเงินระยะสั้น ทั้งกลุ่ม Utilities ที่ได้ประโยชน์จาก Bond yield ขาลง (EGGO, RATCH, BGRIM, GPCS, GULF) และกลุ่ม Healthcare (BH, BDMS, BCH, CHG) ที่ยังคงอยู่ในช่วง High season มอง BGRIM เป็นตัวที่น่าสนใจที่สุด จาก Performance ที่ยังคง Laggard กลุ่มและตลาดอย่างมาก ไม่ว่าจะวัดจาก YTD หรือนับตั้งแต่วันที่ 6 ส.ค. ที่ SET ลงไปท่าจุดต่ําสุดก็ตาม
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities