ปลดล็อคข้อมูลพรีเมียม: ส่วนลดสูงสุดถึง 50% InvestingProรับส่วนลด

รอลุ้น อัตราเงินเฟ้อ PCE สหรัฐฯ เพิ่มโอกาสเฟดลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้

เผยแพร่ 24/06/2567 08:21
  • สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินดอลลาร์ยังคงได้แรงหนุนจากรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการที่ออกมาดีกว่าคาด และการอ่อนค่าลงต่อเนื่องของบรรดาสกุลเงินหลัก ทั้ง เงินเยนญี่ปุ่นและเงินปอนด์อังกฤษ
  • ควรจับตา รายงานอัตราเงินเฟ้อ PCE สหรัฐฯ และ ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด พร้อมกับเตรียมรับมือความผันผวน หากทางการญี่ปุ่นแทรกแซงค่าเงินเยน
  • เงินดอลลาร์ยังคงได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าลงของบรรดาสกุลเงินหลัก โดยเฉพาะเงินเยนญี่ปุ่น ทว่าเงินดอลลาร์อาจชะลอการแข็งค่าได้บ้าง หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทำให้ผู้เล่นในตลาดยิ่งเชื่อว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยได้ 2 ครั้งในปีนี้  ในส่วนของค่าเงินบาท เรามองว่า โมเมนตัมการอ่อนค่ามีกำลังมากขึ้น ตามการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ กดดันให้เงินบาทเสี่ยงผันผวนอ่อนค่าทดสอบแนวต้านโซน 37 บาทต่อดอลลาร์ได้ ทั้งนี้ ควรจับตาทิศทางราคาทองคำ โดยหากราคาทองคำสามารถปรับตัวขึ้นจากโซนแนวรับได้บ้าง ก็อาจช่วยชะลอการอ่อนค่าของเงินบาท ส่วนฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติอาจยังมีความผันผวนอยู่ จนกว่าผู้เล่นในตลาดจะคลายความกังวลต่อสถานการณ์การเมืองไทย
  • มองกรอบเงินบาทสัปดาห์นี้
    36.50-37.00
    บาท/ดอลลาร์

มุมมองเศรษฐกิจทั่วโลก

  • ฝั่งสหรัฐฯไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ รายงานอัตราเงินเฟ้อ PCE ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งหากอัตราเงินเฟ้อ PCE ชะลอลงต่อเนื่อง หรือ ชะลอลงมากกว่าคาด ก็อาจทำให้ผู้เล่นในตลาดกลับมาเชื่อว่า เฟดมีแนวโน้มทยอยลดดอกเบี้ยได้ราว 2 ครั้งในปีนี้ และนอกเหนือจากรายงานข้อมูลดังกล่าว ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามทั้ง รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดย Conference Board (Consumer Confidence) เดือนมิถุนายน และยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims) พร้อมกันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด ซึ่งเราประเมิน โทนการสื่อสารอาจมีลักษณะ Hawkish มากขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าได้ ยกเว้นว่า รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะสะท้อนภาพเศรษฐกิจและแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอลงมากขึ้น  อนึ่ง แม้ว่า ผู้เล่นในตลาดจะกลับมาเชื่อมั่นมากขึ้น ว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยได้ราว 2 ครั้งในปีนี้ (ล่าสุด จาก CME FedWatch Tool ตลาดให้โอกาสราว 87%) แต่เงินดอลลาร์ก็อาจไม่ได้อ่อนค่าลงชัดเจน เนื่องจากเงินดอลลาร์อาจยังพอได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของบรรดาสกุลเงินหลัก อาทิ เงินยูโร (EUR) ที่เผชิญความเสี่ยงการเมืองฝรั่งเศส ส่วนเงินปอนด์อังกฤษ (GBP) ก็มีโอกาสย่อตัวลงบ้าง หากผู้เล่นในตลาดเชื่อว่าธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) อาจเริ่มลดดอกเบี้ยได้เร็วกว่าคาด และเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) ก็ยังเสี่ยงผันผวนอ่อนค่าทดสอบโซน 160-161 เยนต่อดอลลาร์ ยกเว้นว่า ทางการญี่ปุ่นจะเริ่มเข้าแทรกแซงตลาดค่าเงินอีกครั้ง ซึ่งเรามองว่า อาจต้องเห็นความผันผวนของค่าเงินเยนที่เพิ่มกว่าปัจจุบันพอสมควรก่อน
  • ฝั่งยุโรปผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามรายงานดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนี (IFO Business Climate) เดือนมิถุนายน และคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซน (Inflation Expectations) รวมถึงถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เพื่อประเมินแนวโน้มดอกเบี้ยของ ECB ขณะเดียวกัน ประเด็นสำคัญที่จะยังคงส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินยุโรปในช่วงนี้ คือ สถานการณ์การเมืองฝรั่งเศส โดยเราคงมุมมองเดิมว่า ความไม่แน่นอนของสถานการณ์การเมืองในฝรั่งเศสอาจสร้างความผันผวนให้กับตลาดการเงินและสามารถกดดันให้เงินยูโร (EUR) และตลาดหุ้นยุโรปมีแนวโน้มอ่อนค่าลง/ปรับตัวลดลงในระยะสั้นได้
  • ฝั่งเอเชียผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ผ่านรายงานยอดค้าปลีก (Retail Sales) ของญี่ปุ่นในเดือนพฤษภาคม และอัตราเงินเฟ้อ CPI ของกรุงโตเกียว ในเดือนมิถุนายน ทั้งนี้ ควรระวังความผันผวนที่อาจเพิ่มสูงขึ้น หากทางการญี่ปุ่นตัดสินใจเข้าแทรกแซงค่าเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) ในกรณีที่เงินเยนผันผวนอ่อนค่าเร็วและแรงกว่าคาด เช่น เงินเยนอ่อนค่าลงสู่ระดับ 160-161 เยนต่อดอลลาร์ ในระยะเวลาสั้นๆ ในส่วนผลการประชุมธนาคารกลางนั้น บรรดานักวิเคราะห์ต่างประเมินว่า ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ (BSP) จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 6.50% จนกว่าจะมั่นใจว่า แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อจะทยอยกลับสู่เป้าหมายได้สำเร็จ หลังอัตราเงินเฟ้อทั่วไป แม้จะอยู่ในกรอบเป้าหมาย 2%-4% แต่นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา แต่ก็ทยอยปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง จนแตะระดับ 3.9% ในเดือนพฤษภาคม
  • ฝั่งไทยความผันผวนของฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติอาจเป็นปัจจัยที่กดดันตลาดการเงินในช่วงนี้ได้ โดยเราประเมินว่า นักลงทุนต่างชาติอาจยังไม่รีบกลับเข้าซื้อสินทรัพย์ไทย จนกว่าความไม่แน่นอนของสถานการณ์การเมืองไทยจะคลี่คลายลง

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย