🏃 คว้าข้อเสนอ Black Friday ก่อนใคร รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ตอนนี้!รับส่วนลด

ดูดี แต่ยังต้องรอจังหวะปรับขึ้น

เผยแพร่ 14/05/2567 09:36
SETI
-

ผลประกอบการงวด 1Q67 ส่งสัญญาณบวกต่อเนื่อง โดยส่วนที่ ประกาศออมาแล้วพบว่าสูงกว่า BLOOMBERG CONSENSUS 5.27% ทำให้เห็นการปรับเพิ่มประมาณการ EPS ปี 2567ขึ้นมาสู่ระดับ 94 บาทต่อหุ้น และมีโอกาสสูงขึ้นไปได้อีก ส่วนวันนี้มีตัวเลขคาดการณ์ GDP GROWTH บ้านเรางวด 1Q67 โดย CONSENSUS คาดเติบโต 0.7% QOQ และ 0.8% YOY ถือเป็นสัญญาณ BOTTOM OUTและทำ ให้เราหลุดพ้นจากภาวะ TECHNICAL RECESSION จากองค์ประกอบ ในเรื่องผลประกอบการและ เศรษฐกิจดังกล่าว เชื่อว่าจะเป็นแรงหนุนให้ SET INDEX ยืนที่ระดับสูงได้ แต่การปรับขึ้นอย่างชัดเจนยังต้องรอการ กลับมาของมูลค่าการซื้อขาย ซึ่งเราหวังว่าจะเห็นจุดเปลี่ยนจากการ กลับมาของLTF ปัจจัยในต่างประเทศรอเงินเฟ้อ เม.ย. ของสหรัฐฯ

ในทางพื้นฐาน SET INDEX มีแรงหนุนที่ชัดเจนจากผลประกอบการและ เศรษฐกิจที่ฟื้นตัว แต่การที่ยังขาดปริมาณการซื้อขายที่มากพอทำให้ยัง อยู่ในกรอบ 1342 –1379 จุด TOP PICK เลือก BEM, CPN และ WHA

ปัจจัยภายนอกดูดี ปัจจัยภายในสดใส หนุน SET เขียวขจีอีกครั้ง

ตลาดหุ้นสหรัฐฯรอตัวเลข CPI เดือน เม.ย.67 ที่จะประกาศวันพรุ่งนี้ ซึ่งตลาดคาด +3.4%YOY ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ +3.5%YOY ส่วน CORE CPI คาด +3.6%YOY ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ +3.8%YOY เช่นกัน ประเด็นดังกล่าว จึงทำ ให้ตลาดคาดหวังว่า FED จะผ่อนคลายนโยบายการเงินมากขึ้น และทำให้ตลาดหุ้น สหรัฐฯน่าสะสม

ส่วนตลาดหุ้นจีนก็มีปัจจัยหนุนเช่นกัน โดยรัฐบาลจีนจะประชุมหารือการออก พันธบัตรระยะยาว 20 - 50 ปี วงเงิน 1 ล้านล้านหยวน (สัดส่วนดังรูปด้านล่าง) คาด เปิดจำหน่ายวันศุกร์นี้ ซึ่งเป็นการออกพันธบัตรล็อตใหญ่สุดในรอบ 4 ปี หวังหาเงิน จ่อกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ซึ่งต้องติดตามว่าผลลัพธ์จะเป็นดังที่ตลาดหวังไว้หรือไม่

ขณะที่ปัจจัยในประเทศก็สดใสเช่นกัน โดยมาจากกำไรบริษัทจดทะเบียนงวด 1Q67 ที่ ประกาศออกมาแล้ว 279 บริษัท ซึ่งโดยรวมออกมาดีกว่าที่ BLOOMBERG CONSENSUS คาดถึง 5.27% ทำให้ลดความผันผวน หรือลดแรงกดดันเรื่อง SELL ON FACT ของ SET ได้ระดับหนึ่ง และหนุนให้ SET INDEX เคลื่อนไหวได้แกร่งกว่า ตลาดหุ้นอื่นๆได้ในช่วงนี

ดังนั้น ประเด็นกำไรบริษัทจดทะเบียนงวด 1Q67 ที่ออกมาดีกว่าคาด กลยุทธ์การ ลงทุนในช่วงนี้ จีงเน้นหุ้นที่ฝ่ายวิจัยฯ ปรับคำแนะนำขึ้น หรือ หุ้นที่ฝ่ายวิจัยฯ ปรับเพิ่ม FAIR VALUE และราคาหุ้นตั้งแต่ต้นปี (%YTD) ยังปรับตัวขึ้นไม่มาก หรือติดลบ เลือก IVL III DOHOME MAJOR ITC เป็นต้น

ลุ้นเศรษฐกิจไทยผ่านพ้น BOTTOM OUT

ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในช่วง 4Q66 ที่ผ่านมา ขยายตัวเพียง +1.7%YOY และหดตัว -0.6%QOQ โดยมีแรงกดดันหลักๆ มาจากการเบิกจ่ายงบปรมาณภาครัฐที่ล่าช้า รวมถึงภาคการส่งออกชะลอตัว อย่างไรก็ตาม GDP GROWTH บ้านเราในช่วง 1Q67 มีแนวโน้มว่าจะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น โดย CONSENSUS คาดเติบโต +0.8%YOY และ +0.7%QOQ (ใกล้เคียงกับ BLOOMBERG ประมาณการ +0.6%QOQ) ซึ่งจะทำให้เศรษฐไทยหลีกเลี่ยงจากภาวะ TECHNICAL RECESSION ไปได้ (GDP QOQ ติดลบต่อกัน 2 ไตรมาส)

นอกจากนี้หากมองภาพไปข้างหน้า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มผ่านพ้นจุดเลวร้ายไปแล้ว (BOTTOM OUT) โดยมีหลายๆ ปัจจัยบวกเข้ามาช่วยหนุน อาทิ การเร่งเบิกจ่าย ประมาณภาครัฐปี 67 (G) ในช่วง 2Q67-3Q67 อีกทั้งยังมีกระตุ้นภาคการบริโภค (C) ในช่วง 4Q67 ผ่านโครงการ DIGITAL WALLET แจกเงิน 10,00 บาท และการ ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท นอกจากนี้ภาคการท่องเที่ยวยังมีทิศทางที่ดีขึ้น ต่อเนื่อง พร้อมกับคาดหวังว่าภาคการส่งออกจะทยอยปรับตัวดีข้นในช่วงที่เหลือของ ปีนี้ ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า เฉพาะอย่างยิ่งเศรษฐกิจจีน

สรุป วันที่ 20 พ.ค. 67 เวลา 9.30 น. รอติดตามตัวเลข GDP ไทย ทั้งนี้ CONSENSUS คาดว่าจะสามารถขยายตัวได้ QOQ ซึ่งจะทำให้เศรษฐไทยหลีกเลี่ยง จากภาวะ TECHNICAL RECESSION ไปได้ ขณะที่ระยะถัดไปยังมีแรงหนุนจากหลาย ปัจจัย อาทิ การเร่งเบิกจ่ายประมาณภาครัฐปี 67 (G) ในช่วง 2Q67-3Q67 อีกทั้ง ยังมีกระตุ้นภาคการบริโภค (C) ในช่วง 4Q67

ถ้า LTF กลับมา เป็นจังหวะในช่วงซื้อสะสมพอดี และช่วยเสริม ประสิธิภาพให้ตลาดหลายมิติ

ตลาดหุ้นไทยมีปัจจัยต่างๆ ดูดีขึ้น โดยระยะสั้นกำไร 1Q67 เริ่มพลิกกลับมาฟื้นตัว และ ส่วนใหญ่ยังออกมาดีกว่าตลาดคาด (ตามหัวข้อก่อนหน้า) และคาดว่ากำไรปี 2567 ยังเติบโตได้ดีในปีนี้เกิน 10% ขณะที่ในมุม VALUATION SET INDEX มี PE67F 15 เท่า (ต่ำกว่า -1SD) และ PBV เพียง 1.31 เท่า ถือเป็นจัหวะในการเข้าสะสมหุ้น หรือ กองทุน LTF พอดี แต่จะเห็นว่า SET INDEX ยังทรงๆตัว และขยับขึ้นได้ยาก เนื่องจากยังขาดเม็ดเงินใหม่ๆ ทั้งมูลค่าขายเฉลี่ยปีนี้เหลือเพียง 4.3 หมื่นล้านบาทต่อวัน หรือคิดเป็น TURNOVER เพียง 62.6% ต่อปีเท่านั้น ยังไม่เพียงพอที่จะผลักดันตลาดหุ้นไทยที่ระดับ MARKET CAP17ล้านล้านบาทขยับขึ้นได้

นอกจากนี้ยังเห็นสัดส่วนมูลค่าซื้อขายของนักลงทุนรายย่อยที่ลดลงต่อเนื่องเหลือ เพียง 30% ของมูลค่าซื้อขายรวม (10 ปีที่แล้วมีสัดส่วน 56%) รวมถึงนักลงทุน สถาบันฯ ที่สัดส่วนมูลค่าซื้อขายลดลงเหลือ 9% (10 ปีที่แล้วมีสัดส่วน 10%

และหากพิจารณาผลตอบแทนกองทุน LTF ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีกองทุน LTF ที่ให้ ผลตอบแทนชนะ SET ถึง 72 กอง จาก 93 กอง ขณะที่ดัชนีปัจจุบัน SET อยู่ที่ 1372 จุด ถูกกว่า 5 ปีที่แล้ว 1634จุด น่าจะเป็นจังหวะที่ที่ดีในการซื้อสะสมกองทุน LTF หาก กลับมาลดหย่อนภาษีอีกครั้ง

ดังนั้นถ้ามีกองทุน LTF กลับมาประหยัดภาษีได้อีกครั้ง น่าจะเป็นจังหวะที่ดีในการซื้อ สะสม LTF อีกครั้ง และยังช่วยเสริมประสิทธิภาพตลาดได้หลายมิติในเวลานี้ ทั้งเพิ่ม สภาพคล่องให้ระบบที่ขาดหายไปจากรายย่อยและสถาบันฯ, ลดแรงขายจากทาง สถาบันฯ, หักล้างการ REDEEM ใน LTF เก่า, ลดผลกระทบจากการ SHORT SELL, และที่สำคัญหวังเม็ดเงินไหลกลับเข้ามาในประเทศ

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities


ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย