ความคาดหวังเรื่องการปรับลดดอกเบี้ยของ FED กลับมาหลัง INITIAL JOBLESS CLAIM ออกมาที่ 231K สูงกว่าคาดมาก ขณะที่ BOE เริ่มมี มติที่ไม่เอกฉันท์ให้คงดอกเบี้ย สภาวะดังกล่าวทำให้เกิดความคาดหวัง ว่าวัฎจักรดอกเบี้ยขาลงอาจเริ่มได้เร็วขึ้น หนุนราคาหุ้นปรับขึ้น ซึ่งน่าจะ เป็นผลบวกต่อตลาดหุ้นบ้านเราเช้านี้ด้วย ทั้งนี้โดยภาพใหญ่ของ SET INDEX เรามองว่าการเกิด BOTTOM OUT ของทั้ง กำไรบริษัทจด ทะเบียน และ เศรษฐกิจไทย น่าจะเป็นแรงหนุนที่ดี รอแค่การกลับขึ้นมา ของมูลค่าการซื้อขาย ซึ่ง SET เองก็มีแนวทางที่จะสร้างความเชื่อมั่น ให้กับนักลงทุนต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมาตรการดูแล SHORT SELL, PROGRAM TRADING รวมถึง LTF ที่มีโอกาสกลับมา หากมาตรการ ต่างๆ ทำงานได้ดี ก็น่าจะทำให้SET INDEX ฟื้นกลับขึ้นมาได้
มองว่า SET INDEX มีโอกาสปรับขึ้นด้วยแรงหนุนของกำไรบริษัทจด ทะเบียน และเศรษฐกิจ แต่ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่บาง ทำให้ยังอยู่ใน กรอบ 1366 –1380 จุด หุ้น TOP PICK เลือก BCH, CPALLและ CPN
ปัจจัยแวดล้อมค่อนไปทางบวก
วานนี้ตลาดหุ้นโลกพลิกกลับมาดีดตัวอีกครั้ง โดยในฝั่งสหรัฐฯ ปิดตัวในแดนบวก ราว 0.3%-0.9% ส่วนในฝั่งยุโรปขยับขึ้นราว 0.3%-1.0% ขณะที่ในฝั่งเอเชียดัชนีหุ้น ฮ่องกงปรับตัวสูงขึ้นราว 1.2% สะท้อนเม็ดเงินไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น โดยมี ปัจจัยหนุนต่างๆ ดังนี้
• สหรัฐฯ : เต็มไปด้วยความคาดหวังทิศทางดอกเบี้ยขาลง หลังสหรัฐเผย ตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานล่าสุดปรับตัวสูงขึ้น 231,000 ตำแหน่ง ซึ่ง มากกว่าตลาดคาด 212,000 ตำแหน่ง และเดือนก่อน 209,000 ตำแหน่ง ส่ง สัญญาณตลาดแรงงานอ่อนแอลง ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยหนุนให้ FED มี โอกาสปรับลดดอกเบี้ยในปีนี้อย่างน้อย 2 ครั้ง
• ยุโรป : มีโอกาสมากขึ้นที่จะเห็นแบงค์ชาติปรับลดดอกเบี้ย หลัง BOE เสียง แตก 7-2 คงดอกเบี้ยตามคาดที่ 5.25% โดย 2 เสียงหนุนแนวคิดการปรับลด ดอกเบี้ย ทำให้เกิดความคาดหวังว่าจะเห็นอังกฤษและยุโรปเริ่มผ่อนคลาย นโยบายการเงินก่อนสหรัฐฯ ขณะที่ BLOOMBERG คาดการณ์ปรับลดอก เบี้ยของ BOE จะเกิดขึ้นในช่วงเดือน 7 และ BOE จะเกิดขึ้นในช่วงเดือน 6 ปัจจัยดังกว่าวหนุนให้ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนขยับขึ้นไปแตะ 8,381.35 จุด ทำ ALL TIME HIGH
• จีน : มีปัจจับบวกเข้ามาต่อเนื่อง ทั้งในเชิงนโยบายกระตุ้นและตัวเลขเศรษฐกิจ ต่างๆ โดยล่าสุดรัฐบาลจีนได้เตรียมยกเว้นภาษี 20% จากเงินปันผลหุ้น ฮ่องกง เพื่อส่งเสริมการซื้อขายในตลาดหุ้น นอกจากนี้เมืองใหญ่ในจีน (หาง โจว และซีอาน) ยังแห่ผ่อนคลายข้อจำกัดการซื้อบ้าน หวังพลิกฟื้นตลาด อสังหาฯ ขณะที่ตัวเลขการส่งออกระหว่างประเทศในเดือน เม.ย. 67 มีทิศทาง ดีขึ้นชัดเจน โดยการส่งออกจีนพลิกฟื้นตัว +1.5%YOY ส่วนการนำเข้า ขยายตัวเด่น +8.4%YOY หนุนให้การนำเข้าสินค้าจากประเทศไทยหดตัว น้อยลงเหลือ -12.4%YOY
สรุป ปัจจัยแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความคาดหวังในเชิงบวก หนุนให้เม็ดเงินไหลเข้าสู่ สินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น เริ่มจากความคาดหวังทิศทางดอกเบี้ยขาลงในปีนี้ รวมถึงการ ฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน
ถ้าความเชื่อมั่นมา VOLUME ก็มา SET INDEX ก็มา
ช่วงที่ผ่านมาเห็นปัจจัยเรียกความเชื่อมั่นให้นักลงทุนกลับมา โดยทางตลาด หลักทรัพย์ มีการเพิ่มชั่วโมงซื้อขายตอนบ่าย 30 นาที ตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาสที่ 1 ปี นี้, พร้อมเปิดเผยข้อมูล OUTSTANDING SHORT SELL ซึ่งมีเม็ดเงิน SHORT SELL คงค้างอยู่ราว 8 –9 หมื่นล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนเพียง 0.5% ของ MARKET CAP เท่านั้น, และมีการควบคุมการ SHORT SELLING และ PROGRAM TRADING พร้อมเพิ่มการเปิดเผยข้อมูลสู่สาธารณะ ในช่วงปลายไตรมาสที่ 2 ประเด็นดังกล่าว ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินว่า จะช่วยจำกัดจำนวนบริษัทที่จะถูก SHORT SELL ให้ลดน้อยลง ได้ และการทำ SHORT SELL ยังทำได้ยากขึ้น ขณะที่ในช่วงไตรมาส 3 จะมีการเพิ่ม ข้อจำกัดเกี่ยวกับ CASH BALANCE LEVEL 2 และ ไตรมาส 4 จะมีมาตรการป้องกัน การ NAKED SHORT(มี CENTRAL PLATFORM ตรวจสอบ) และ การซื้อขายแบบ HFT (หยุดซื้อขายชั่วคราวราว 0.25 วินาที) มากขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับ นักลงทุนในระยะถัดไป
ึ่งประเด็นดังกล่าว เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีเล็กๆ ผ่านมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยในเดือน เม.ย. 67 อยู่ที่ระดับ 4.3 หมื่นล้านบาท/วัน เริ่มทยอยกลับมา และเติบโตเมื่อเทียบกับเดือนที่ แล้ว +4% MOM รวมถึงเริ่มกลับมาใกล้เคียงกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน - 4%YOY เท่านั้น ซึ่งใน 3 เดือนแรกของปีลดลงกว่า 30%YOY
สรุป เริ่มเห็นมูลค่าซื้อขายที่ดีขึ้น ส่วนหนึ่งอาจเกิดจากการเรียกความเชื่อมั่นจาก ตลาดฯ คาดจะช่วยหนุน MOMENTUM ของ FUND FLOW ต่างชาติสลับมาซื้อสุทธิ มากขึ้น และหนุนให้ SET INDEX กลับมาคึกคักในระยะถัดไป ส่วนวันนี้ประเมินกรอบ การเคลื่อนไหวของ SET INDEX ไว้ที่ระดับ 1366-1380 จุด
ตลาดใช้เกณฑ์ SET50 ใหม่รอบ 2H67 ส่งให้4 หุ้นมีโอกาสถูก เข้าคำนวณ BJC, TIDLOR, BCP, ITC
วานนี้ทางตลาดหลักทรัพย์ฯ มีการออกเกณฑ์คำนวณ SET50 และ SET100 ใหม่ เริ่มมีผลตั้งแต่งวด 2H67 โดยมีการปรับเกณฑ์สภาพคล่อง โดยใช้ TRADING VALUE รายเดือน ไม่น้อยกว่า 25% และ TURNOVER ไม่น้อยกว่า 1% พร้อมกับ ยกเลิกการประกาศรายชื่อหุ้นสำรอง
เบื้องต้นฝ่ายวิจัยฯ ทำการคาดการณ์หุ้นเข้าออก SET50 มีรายละเอียดดังนี้
▪ หุ้น GULF และ INTUCH จะไม่หลุดออกจาก SET50 และ SET100 รอบ 2H67 ตามเกณฑ์ใหม่ เพราะ TURNOVER รายเดือน สูงกว่า 1% เกิน 9 ใน 12 เดือน (มิ.ย. 66 - พ.ค. 67)
▪ มี 4 หุ้น ที่มีโอกาสเข้าดัชนี SET50เรียงลำดับจากมากไปน้อย BJC (มีโอกาส เข้า SET100 ด้วย), TIDLOR, BCP, ITC
▪ มี 4 หุ้น ที่มีโอกาสออกดัชนี SET50 เรียงลำดับจากมากไปน้อย COM7, KCE, SAWAD, BANPU
อย่างไรก็ตามข้อมูลที่ใช้ในการคาดการณ์ยังไม่ครบ 100% เต็ม (ใช้ข้อมูลถึงสิ้นเดือน พ.ค. 67) และการเข้าออกดัชนียังขึ้นอยู่กับดุลพินิจของตลาดเป็นสำคัญ อาจมีการ เปลี่ยนแปลงได้บ้างในระยะถัดไป
บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities