- เดือนพฤษภาคมคาดว่าจะเป็นอีกเดือนที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะมีความผันผวนสูง ท่ามกลางเหตุการณ์สำคัญที่สามารถขับเคลื่อนตลาดได้มากมาย
-
โอกาสที่เรามองเห็นถือว่ามีความสำคัญอย่างมากต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน
-
ด้วยเหตุนี้ นักลงทุนควรพิจารณาหุ้นอย่าง Salesforce Walt Disney และ Okta เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นการลงทุนของคุณในเดือนนี้
-
หากคุณกำลังมองหาแนวทางการลงทุนที่สามารถนำไปใช้เพื่อรับมือกับความผันผวนของตลาดในปัจจุบัน InvestingPro คือคำตอบของคุณ
-
มูลค่าตั้งแต่ต้นปี 2024 ถึงปัจจุบัน: +3.8%
-
มูลค่าตลาด: 263.1 พันล้านดอลลาร์
-
มูลค่าตั้งแต่ต้นปี 2024 ถึงปัจจุบัน: +24.7%
-
มูลค่าตลาด: 206.4 พันล้านดอลลาร์
-
มูลค่าตั้งแต่ต้นปี 2024 ถึงปัจจุบัน: +4.8%
-
มูลค่าตลาด: 15.9 พันล้านดอลลาร์
-
ProPicks: ระบบช่วงคัดเลือกหุ้นด้วย AI พร้อมประวัติย้อนหลัง
-
ProTips: ข้อมูลเชิงลึกที่ทำให้เข้าใจง่ายและลดความซับซ้อนของข้อมูลทางการเงิน
-
Fair Value: เปรียบเทียบหุ้นเพื่อหามูลค่ายุติธรรม รวมทั้งความเสี่ยง
-
Advanced Stock Screener: ค้นหาหุ้นที่ดีที่สุดตามระบบคัดกรองและเกณฑ์ที่เลือกได้หลายร้อยรายการ
พฤษภาคมกำลังจะกลายเป็นเดือนที่น่าตื่นเต้นสำหรับนักลงทุนที่มองเห็นโอกาสในตลาด ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับช่วงเวลาของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลางสหรัฐ และสัญญาณที่บ่งชี้ถึง อัตราเงินเฟ้อ ที่ยังคงสูง
สำหรับการเจาะลึกถึงข้อมูลในเดือนใหม่ มีหุ้นหลายตัวที่มีความน่าสนใจ รวมถึง Salesforce (NYSE:CRM) Walt Disney (NYSE:DIS) และ Okta (NASDAQ:OKTA)
บริษัทเหล่านี้นอกจากจะมีกำหนดรายงานผลประกอบการประจำเดือนเร็ว ๆ นี้แล้ว ยังมีพื้นฐานแนวโน้มและปัจจัยหนุนที่อาจหนุนหุ้นให้สูงขึ้นได้
แต่ถ้าคุณกำลังมองหาหุ้นที่มีผลงานคล้ายกัน เรามีเครื่องมือที่ทำงานด้วย AI ที่ทันสมัย และเครื่องมือนี้จะช่วยคุณในการตัดสินใจในการลงทุนหุ้นตัวต่อไปของคุณในตลาดที่ผันผวน
สมัครสมาชิกกับเราตอนนี้!! เพื่อการลงทุนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
รับส่วนลดมากถึง 10%!! เพียงกรอกโค้ด PROTIPS2024 สำหรับการสมัครแบบ 1 ปีและ PROTIPS20242 สำหรับการสมัครแบบ 2 ปี
เราจะมาเจาะลึกถึงสิ่งที่ทำให้หุ้นที่มีมูลค่าต่ำทั้งสามตัวนี้กลายเป็นโอกาสที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนในเดือนพฤษภาคม
1. Salesforce
หุ้นของ Salesforce (NYSE:CRM) ปิดเซสชั่นของวันพฤหัสบดีที่ 272.13 ดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าระดับสูงสุดตลอดกาลของเมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ 318.71 ดอลลาร์หรือประมาณ 15% ในระดับปัจจุบัน Salesforce มีมูลค่าตลาดที่ 263.1 พันล้านดอลลาร์ ทำให้บริษัทมีสถานะเป็นบริษัทซอฟต์แวร์คลาวด์ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก แซงหน้า SAP กับ Intuit (NASDAQ:INTU) และ ServiceNow (NYSE:NOW)
หุ้น - ซึ่งเป็นหนึ่งใน 30 องค์ประกอบของ อุตสาหกรรมดาวโจนส์ - เพิ่มขึ้นประมาณ 41% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งทำกำไรควบคู่ไปกับหุ้นภาคเทคโนโลยีอื่น ๆ
ที่มา: InvestingPro
แม้จะมีการแรลลี่อย่างน่าประทับใจ แต่การประเมิน 'มูลค่ายุติธรรม' ในปัจจุบันบ่งชี้ว่าหุ้น CRM มีมูลค่าต่ำกว่ามูลค่าจริง โดยแบบจำลอง AI ของ InvestingPro คาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดในปัจจุบันจะมี upside ถึง 17.9% ในขณะที่นักวิเคราะห์ของวอลล์สตรีทคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 24% เป็นประมาณ 337 ดอลลาร์ต่อหุ้น
ความน่าสนใจในเดือนพฤษภาคม: เราคาดว่าหุ้น Salesforce จะทำได้ดีมากในเดือนนี้และอาจพุ่งทะลุระดับสูงสุดใหม่ได้ เนื่องจากรายได้และคำแนะนำขององค์กรซอฟต์แวร์ยักษ์ใหญ่รายนี้สามารถติดอันดับประมาณการได้อย่างง่ายดายด้วยความแข็งแกร่งโดยรวมในธุรกิจคลาวด์และ AI
บริษัทในซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย มีกำหนดการณืรายงานผลประกอบการไตรมาสแรก หลังตลาดสหรัฐฯ ปิดทำการในวันอังคารที่ 28 พฤษภาคม เวลา 16.00 ET
ไม่น่าแปลกใจเลยที่การสำรวจของ InvestingPro จะชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นก่อนการเผยแพร่ ดังที่เห็นด้านล่าง นักวิเคราะห์ทั้ง 33 คนที่ครอบคลุมหลายบริษัทได้ทำการปรับปรุงประมาณการกำไรของพวกเขาในช่วง 90 วันที่ผ่านมา ขณะที่วอลล์สตรีทก็มีความเชื่อมั่นมากขึ้นในผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ระบบคลาวด์
ที่มา: InvestingPro
Salesforce มีรายได้ 2.37 ดอลลาร์ต่อหุ้นในไตรมาส 1 เพิ่มขึ้น 40.2% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะเดียวกันรายรับก็คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 10.8% เป็น 9.14 พันล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากความต้องการที่แข็งแกร่งในธุรกิจและองค์กรต่าง ๆ เกี่ยวกับเครื่องมือและโซลูชั่นการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM)
ควรสังเกตว่าบริษัทที่นำโดย Marc Benioff มีประวัติอันยาวนานในการเอาชนะตัวเลขประมาณการประจำไตรมาสของวอลล์สตรีททั้งในด้านผลกำไรและการเติบโตของยอดขาย โดยบริษัทสามารถทำได้ในทุกไตรมาสย้อนหลังไปถึงอย่างน้อยก็ไตรมาสที่ 2 ปี 2014
ในขณะที่ธุรกิจต่าง ๆ ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมทางดิจิตอลและการตัดสินใจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลมากขึ้นเรื่อย ๆ แพลตฟอร์ม CRM ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของ Salesforce อย่าง "Einstein GPT" ก็วางตำแหน่งบริษัทให้ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในตลาดที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว
2. Walt Disney
หุ้นของ Walt Disney (NYSE:DIS) ปิดที่ 112.62 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ ใกล้กับระดับสูงสุดของปี 2024 ที่ 123.74 ดอลลาร์ โดยบริษัทตั้งอยู่ในเบอร์แบงก์ รัฐแคลิฟอร์เนีย มีมูลค่าตลาด 206.4 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งการประเมินมูลค่าในปัจจุบันทำให้บริษัทกลายเป็นหนึ่งในบริษัทบันเทิงและสื่อที่ใหญ่ที่สุดในโลก
หุ้นเพิ่มขึ้นเกือบ 25% นับตั้งแต่ต้นปี แซงหน้าคู่แข่งอย่าง Netflix (NASDAQ:NFLX) (+16%) Warner Bros Discovery (NASDAQ:WBD) (-30.1%) และ Paramount Global (NASDAQ:PARAA) (-6.3%) ในกรอบเวลาเดียวกัน
ที่มา: InvestingPro
เป็นที่น่าสังเกตว่าแบบจำลองเชิงปริมาณที่ขับเคลื่อนโดย AI ใน InvestingPro บ่งชี้ว่าหุ้น DIS เพิ่มขึ้น 8.6% จากราคาปิดของวันพฤหัสบดี นั่นทำให้หุ้นเข้าใกล้เป้าหมายราคา 'มูลค่ายุติธรรม' ที่ 122.34 ดอลลาร์มากขึ้น
ความน่าสนใจในเดือนพฤษภาคม: Disney ยังคงเป็นหนึ่งในหุ้นที่ดีที่สุดสำหรับการถือครองในเดือนใหม่ด้วยผลประกอบการที่ดีและแนวโน้มการเติบโตของยอดขาย
บริษัทที่นำโดย Bob Iger มีกำหนดการณ์รายงานผลประกอบการรายไตรมาส ก่อนเปิดตลาดในวันอังคารที่ 7 พฤษภาคม เวลา 8.00 ET
การสำรวจของ InvestingPro ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมั่นก่อนผลประกอบการ เนื่องจากนักวิเคราะห์มีความมั่นใจมากขึ้นในการเติบโตของกลุ่มบริษัทสื่อและความบันเทิง โดยประมาณการกำไรได้รับการแก้ไขให้เพิ่มขึ้นถึง 12 ครั้งในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา เทียบกับการแก้ไขที่ปรับลดลงเพียงสี่ครั้งเท่านั้น
ที่มา: InvestingPro
Disney คาดว่าจะมีรายได้ที่ 1.10 ดอลลาร์ต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 18.3% จากตัวเลข 0.93 ดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ท่ามกลางผลกระทบเชิงบวกจากมาตรการลดต้นทุนที่กำลังดำเนินการอยู่
ขณะเดียวกันรายรับก็เพิ่มขึ้นประมาณ 2% เป็น 22.15 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งต้องขอบคุณสิ่งที่เราคาดหวังว่าจะทำผลงานได้ค่อนข้างแข็งแกร่ง ซึ่งมีทั้งแผนกสวนสนุกอันโด่งดัง ธุรกิจสตรีมมิ่งและ linear TV
ส่วนธุรกิจสตรีมมิ่งของบริษัท ซึ่งนำโดย Disney+ ถือเป็นส่วนที่มีผลงานโดดเด่น โดยสามารถดึงดูดสมาชิกหลายล้านคนทั่วโลก และขับเคลื่อนการเติบโตในธุรกิจที่เข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง
ด้วยช่องทางเนื้อหาที่แข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงการฉายภาพยนตร์ที่คาดว่าจะทำรายได้ได้สูงและรายการต้นฉบับ Walt Disney อยู่ในตำแหน่งที่ดีที่จะใช้ประโยชน์จากความต้องการของผู้บริโภคและขับเคลื่อนการเติบโตของรายได้ตลอดทั่วทั้งกลุ่มธุรกิจ
3. Okta
หุ้น Okta (NASDAQ:OKTA) ปิดที่ 95.48 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดีและหลุดจากระดับสูงสุดที่ 114.50 ดอลลาร์ ของเมื่อวันที่ 8 มีนาคม ณ การประเมินมูลค่าปัจจุบัน บริษัทข้อมูลระบุตัวตนและการจัดการการเข้าถึง จากซานฟรานซิสโกมีมูลค่าตลาดที่ 15.9 พันล้านดอลลาร์
หุ้นเพิ่มขึ้นกว่า 35.8% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ท่ามกลางการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคเทคโนโลยี
ที่มา: InvestingPro
เป็นที่น่าสังเกตว่าการประเมินมูลค่าปัจจุบันของ OKTA แสดงให้เห็นว่าเป็นการต่อรองราคา โดยโมเดล InvestingPro AI ระบุว่ามีความเป็นไปได้ที่หุ้นจะเพิ่มขึ้นถึง 20.7% จากราคาปิดของเมื่อคืนนี้และขยับเข้าใกล้ "มูลค่ายุติธรรม" ที่ 115.23 ดอลลาร์ต่อหุ้น
ความน่าสนใจในเดือนพฤษภาคม: Okta คาดว่าจะรายงานผลกำไรและการเติบโตของยอดขายที่แข็งแกร่ง ในวันพฤหัสบดีที่ 30 พฤษภาคม เวลา 16.00 ET
ตามการสำรวจของ InvestingPro แสดงให้เห็นว่าวอลล์สตรีทมีทัศนคติเชิงบวกอย่างยิ่งก่อนรายงาน Q1 โดยนักวิเคราะห์ได้เพิ่มประมาณการกำไรต่อหุ้น (EPS) ของพวกเขากว่า 33 ครั้งในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา เพื่อสะท้อนถึงการทำกำไรเกือบ 150% จากการคาดการณ์ในเบื้องต้น
ที่มา: InvestingPro
ตามที่เห็นข้างต้น Okta คาดว่าจะมีรายได้ที่ 0.54 ดอลลาร์ต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 155% จาก 0.22 ดอลลาร์ต่อหุ้นในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ในขณะเดียวกัน รายรับก็เพิ่มขึ้น 16.6% เมื่อเทียบเป็นรายปีเป็น 603.8 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากบริษัทผู้ผลิตซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยได้รับประโยชน์จากความต้องการที่แข็งแกร่งขององค์กรขนาดใหญ่สำหรับข้อมูลระบุตัวตนบนคลาวด์และระบบเครื่องมือการจัดการการเข้าถึง
Okta นำเสนอซอฟต์แวร์ระบบคลาวด์ที่ช่วยให้บริษัทต่าง ๆ จัดการและรักษาความปลอดภัยการตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ในแอปพลิเคชัน และยังช่วยนักพัฒนาในการสร้างระบบควบคุมข้อมูลประจำตัวในแอปพลิเคชัน บริการเว็บเว็บไซต์ และอุปกรณ์
Okta ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในผู้นำในด้านการระบุตัวตนและพื้นที่การจัดการการเข้าถึงที่เติบโตอย่างรวดเร็วและเป็นตัวเลือกที่มั่นคงในอนาคต เนื่องจากได้รับประโยชน์จากการเติบโตอย่างต่อเนื่องในการใช้จ่ายด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ท่ามกลางภูมิทัศน์ทางดิจิตอลในปัจจุบัน
อย่าลืมสมัคร InvestingPro กับเราเพื่อหาโอกาสและสร้างความก้าวหน้าให้กับการลงทุนของคุณ
อย่าลืมกรอกโค้ด PROTIPS2024 สำหรับการสมัครแบบ 1 ปีและ PROTIPS20242 สำหรับ 2 ปีเพื่อรัส่วนลดมากถึง 10%!! ในการสมัคร
ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนมือใหม่หรือนักลงทุนผู้มีประสบการณ์ การใช้ประโยชน์จากเครื่องมือเพื่อสร้างโอกาสการลงทุนและลดความเสี่ยงนั้นถือเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง
สมาชิกจะสามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้: