BoJ in Focus
• SET: คาด SET Index แกว่งตัว Sideways รอดูผลการประชุม Bol ที่จะ ออกมาในวันนี้ และนักลงทุนส่วนหนึ่งคาดว่าจะยังอยู่ในโหมด Wait & See เพื่อรอดูผลการประชุม Fed ที่จะออกมาในคืนวันพรุ่งนี้ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ปัจจัยกดดันตลาดหุ้นทั่วโลกในระยะสั้นได้แก่การปรับตัวแข็งแกร่งของ Bond yield สหรัฐฯ ซึ่งส่วนหนึ่งประเมินว่ามาจากการดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ของราคานํามันดิบสหรัฐฯ โดยราคานํามันดิบพุ่งทะลุท้าจุดสูงสุดใหม่เมื่อ คืนนี้ หลังมีรายงานเปิดเผยว่า โดรนที่ทางยูเครนส่งเข้าไปโจมตีโรงกลั่น ของรัสเซียนั้น ได้สร้างความเสียหายและทําให้กําลังการกลั่นของรัสเซีย ลดลงราววันละ 6 แสนบาร์เรล นอกจากนั้น ยังตอบรับต่อรายงานข่าวที่ว่า อิรักและซาอุดีอาระเบียปรับลดการส่งออกน้ํามันดิบ มองปัจจัยดังกล่าว เป็น Sentimentเชิงบวกต่อกลุ่ม Oil & Gas ในระยะสั้นต่อไป ซึ่ง Top pick ของเราในกลุ่มนี้ยังคงได้แก่ SPRC (แนะนํา “ซื้อ” ที่ราคา เป้าหมาย 10.20 บาท)
• Strategy: ในเชิงกลยุทธ์ แนะนําเพียงถือครองหุ้นในส่วนเดิมต่อไป ซึ่ง Top pick ของเราประจําเดือนนี้ยังคงได้แก่
1) กลุ่มโรงแรม ได้แก่ MINT (+3.9), CENTEL (-0.6), ERW (-1.5)
2) กลุ่มค้าปลีก ได้แก่ CPALL (BK:CPALL) (-2.2), CPAXT (1.5), BJC (+5.4)
3) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS (+3.0), BH (+4.5), BCH (+4.7), PR9 (+2.6)
4) กลุ่มสื่อสาร ADVANC (+4.0), TRUE (+13.5)
*% ในวงเล็กคือผลตอบแทน Total return YTD จะยังเห็นได้ว่า กลุ่มโรงแรมมีการปรับตัว Laggard อยู่
• Inflation: ประเมินการปรับขึ้นรุนแรงของราคาน้ํามันในช่วงสั้น อาจส่งผล ทางอ้อมต่อไปยังคาดการณ์เงินเฟ้อในตลาดให้เพิ่มขึ้นอีกครั้ง และน่าจะ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทําให้ Bond yield สหรัฐฯกระโดดสูงขึ้น ณ เวลานี้ หาก ปัจจัยดังกล่าวยืดเยื้อออกไป อาจทําให้แนวโน้มที่ Fed จะหั่นดอกเบี้ยลง ครั้งแรกในไตรมาสที่ 2 นี้ มีโอกาสน้อยลงเช่นกัน ซึ่งล่าสุดูตลาดดูเหมือน จะเชื่อเช่นนั้นมากขึ้น โดย Fed Funds futures ล่าสุดบ่งชี้ความน่าจะเป็น ของการลดดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนอยู่ที่ 55% ลดลงจากวันก่อนที่ 59%
• Bol: สําหรับผลการประชุม Bol ในวันนี้ ล่าสุดสํานักข่าว Nikkei รายงาน ว่า มติสําคัญที่จะออกมาน่าจะมีดังนี้
1) การยุติมาตรการ Yield Curve Control (YCC)
2) การยุติโครงการการเข้าซื้อ ETF
3) การสิ้นสุดการใช้นโยบายดอกเบี้ยแบบติดลบ
• Our take: ล่าสุดดูเหมือนราคาสินทรัพย์ยังไม่ได้ตอบรับมากนัก ดูได้จาก ค่าเงินเยนที่ยังคงอ่อนค่าและอัตรา Swap rate ที่ยังไม่ได้ Price in เหตุการณ์ดังกล่าว 100% ดังนั้น ประเมินว่าหากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น จริงในวันนี้ คาดว่าเงิน JPY และ Bond yield ของญี่ปุ่นมีโอกาสที่จะกลับมา ปรับตัวสูงขึ้นได้ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่อาจทําให้เงิน USD วกกลับมาอ่อนค่า อีกครั้ง
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities