Beware of short-term USD reversal
• SET: คาดการณ์สัปดาห์นี้ SET Index แกว่งตัวในกรอบ 1360-1410 จุด แม้จะมี ปัจจัยการอ่อนค่าของเงิน USD ที่เกิดขึ้นล่าสุด แต่เงินบาทกลับกลับไม่ได้รับ ประโยชน์มากนัก (ส่วนหนึ่งประเมินว่าการอ่อนค่าของตะกร้าเงิน USD เกิดจากการ แข็งค่าเฉพาะตัวของเงิน JPY ภายหลังตลาดคาดการณ์การกลับทิศของ Bo) จาก ตัวเลข GDP ญี่ปุ่นที่ออกมาขยายตัวเป็นบวก QoQ ล่าสุด) ด้วยเหตุนี้ จึงมองว่า ภาพรวมดัชนี SET น่าจะยังแกว่ง Sideways ต่อไป ที่สําคัญ อาจต้องระวังการ กลับมาปรับตัวรีบาวด์ของเงิน USD ในช่วงถัดไปด้วย (รายละเอียดด้านล่าง)
• Strategy: ในเชิงกลยุทธ์ ไม่แนะนําให้เพิ่มน้ําหนักการลงทุนใหม่ ณ จุดนี้ โดยแนะน่าเพียงถือครองหุ้นในส่วนเดิมได้ต่อไป ซึ่ง Top pick ของเรา ประจําเดือนนี้ยังคงได้แก่
1) กลุ่มโรงแรม ได้แก่ MINT, CENTEL, ERW
2) กลุ่มค้าปลีก ได้แก่ CPALL (BK:CPALL), CPAXT, BJC
3) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, BCH, PR9
4) กลุ่มสื่อสาร ADVANC, TRUE
• Factors: สําหรับปัจจัยสําคัญที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่
1) รายงานตัวเลขเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐฯประจําเดือนก.พ.ในวันที่ 12 มี.ค. ล่าสุดตลาดคาดการณ์ Headline CPI ขยายตัว 3.1% YoY และ 0.4% MoM ในขณะที่ Core CPI ขยายตัว 3.7% YoY และ 0.3% MoM
2) ความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางจีน (PBOC) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย MLF 1 ปี ในวันที่ 15 มี.ค. จากระดับปัจจุบันที่ 2.50% หากเกิดขึ้นจริง จะถือเป็นการลด ดอกเบี้ยนี้ครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีก่อน มองปัจจัยความคาดหวังนี้ มีโอกาสท่าให้หุ้นจีนปรับตัวแข็งแกร่งกว่าตลาดหุ้นอื่นในสัปดาห์นี้
• NFP & USD: สหรัฐฯรายงานตัวเลขตลาดแรงงานประจําเดือนก.พ.มีประเด็นที่ น่าสนใจดังนี้ ตลาดคาดการณ์ไว้
1) การจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 2.75 แสนตําแหน่ง สูงกว่าที่ แต่ตัวเลขของเดือนม.ค.และเดือนธ.ค.ถูกปรับลงหลุด ระดับ 3 แสนคนอย่างมีนัยสําคัญ โดยตัวเลขเดือนม.ค.เหลือเพิ่มขึ้นเพียงแค่ 2.29 แสน าแหน่งเท่านั้น --> Neutral view
2) อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นจากระดับ 3.7% เป็น 3.9% --> Dovish เล็กน้อย
3) อัตราค่าจ้างรายชั่วโมงขยายตัวใกล้เคียงตลาดคาดที่ 4.3% YoY และ 0.1% MoM
• Reaction: หลังตัวเลขดังกล่าวออกมา ไม่พบเห็นการเคลื่อนไหวอย่างมีนัยสําคัญ ของ Fed Fund futures โดยนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงคาดการณ์การลดดอกเบี้ย ครั้งแรกของ Fed ในการประชุมเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ ด้วยความน่าจะเป็นเท่าเดิม ราว 74% ส่งผลให้ Bond yield สหรัฐฯยังคงปรับตัวนิ่งๆทั้งรุ่นสั้นและรุ่นยาว ด้วย เหตุนี้ อาจต้องระวังว่าการอ่อนค่าอย่างรุนแรงของเงิน USD เมื่อคืนวันศุกร์ที ผ่านมาอาจเป็นเพียงปัจจัยชั่วคราว ซึ่งหากเกิดการปิดสถานะของ Hedge fund ทั้งหลาย อาจน่ามาสู่การ Reverse กลับของเงิน USD ในระยะถัดไป จนน่ามาสู่แรง กดดันต่อสกุลเงินต่างๆในประเทศเกิดใหม่รวมถึงเงินบาทของไทยได้ ในเชิงกล ยุทธ์ จึงมองว่านักลงทุนอาจใช้จังหวะนี้ในการทยอยขายท่าก่าไรสินทรัพย์ ที่ได้ประโยชน์จากการอ่อนค่าของเงิน USD จนขึ้นมาร้อนแรงอย่างทองคํา แล้วค่อยหาจังหวะการเข้าสะสมใหม่ในช่วงถัดไป แม้ว่าภาพระยะยาวเรา ยังคงมีมุมมอง Bullish ต่อสินทรัพย์ตัวนี้อยู่
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities