Sideways / FTSE / STA
• SET: คาดสัปดาห์นี้ SET Index แกว่งตัว Sideways ต่อไปในกรอบ 1370-1410 จุด โดยปัจจัยจํากัด Upside ที่สําคัญยังคงได้แก่แนวโน้มผลประกอบการบ.จ.ที่ ยังคงเห็นการปรับลดลง ส่วนสัญญาณที่กระเตื้องขึ้นเล็กน้อยได้แก่เงินบาทที่ล่าสุด เริ่มขยับแข็งค่าขึ้น โดยเป็นสกุลเงินที่แข็งค่ามากที่สุดในเอเชียช่วงสุดสัปดาห์ที่ ผ่านมา สอดคล้องกับท่าทีของนักลงทุนต่างชาติที่เริ่มยุติการขายหุ้นในช่วงปลาย สัปดาห์ก่อน
• Strategy: ในเชิงกลยุทธ์ ตราบใดที่ดัชนี SET ยังไม่ได้ลงมาจนมีระดับ Valuation ที่น่าสนใจมากนัก ยกตัวอย่างเช่นระดับ 1370 จุด แนะนําานักลงทุน สามารถอยู่ในโหมด Wait & See ต่อไปได้
• 40 result: สําหรับบริษัทที่ออกงบฯมาล่าสุดตั้งแต่ช่วงเย็นวันศุกร์ แล้วดีกว่า ตลาดคาด ได้แก่ CBG ส่วนบริษัทที่ผลการดาเนินงานแย่กว่าตลาดคาด ได้แก่ STA (รายละเอียดด้านล่าง), AUCT, TASCO
• Factors: สําหรับปัจจัยสําคัญที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่
1) รายงานตัวเลข GDP ประจําไตรมาส 4/66 ของไทยในวันนี้ ซึ่งล่าสุดตลาดคาด ขยายตัว 2.6% YoY และหดตัว 0.1% QoQ ทั้งนี้ คงต้องติดตามประมาณการ เศรษฐกิจรอบใหม่จากสภาพัฒน์ฯที่ออกมาในวันนี้ด้วยเช่นกัน
2) การประกาศอัตราดอกเบี้ย Prime rate ของธนาคารกลางจีน (PBOC) ในวันที่ 20 ก.พ. ซึ่งเริ่มมีความคาดหวังบางส่วนว่าอาจมีการปรับลดดอกเบี้ยลง
3) รายงานการประชุม Fed รอบล่าสุด (FOMC Minutes) ที่จะออกมาในคืนวันที่ 21 ก.พ. ดามเวลาบ้านเรา
4) รายงานตัวเลข Flash PMI ประจําเดือนก.พ.ของสหรัฐฯและยุโรปในวันที่ 22 ก.พ.
• FTSE: FTSE ประกาศปรับตะกร้าดัชนี Asia Pacific Ex Japan Ex China ประจํา รอบ 6 เดือนมีผลดังนี้
1) หุ้นที่ถูกนําเข้าสู่กระดาน Large cap - ไม่มี
2) หุ้นที่ถูกถอดออกจากกระดาน Large cap ได้แก่ CPF, HMPRO, IVL, SCGP
3) หุ้นที่ถูกน้าเข้าสู่กระดาน Mid Cap ได้แก่ CPF, HMPRO, IVL, SCGP
4) หุ้นที่ถูกถอดออกจากกระดาน Mid Cap - ไม่มี
5) หุ้นที่ถูกน้าเข้าสู่กระดาน Small Cap - ไม่มี
6) หุ่นที่ถูกถอดออกจากกระดาน Small Cap ได้แก่ KEX, RABBIT, RAM, SAMART, WORK
• Our take: มองปัจจัยดังกล่าวอาจเป็น Sentiment เชิงลบในระยะสั้นต่อหุ้นที่ถูก น่าออกจากดัชนีทั้งหลาย โดยเฉพาะหุ้นที่ออกจากกระดาน Large cap (CPF, HMPRO, IVL, SCGP) แต่ในเชิงเม็ดเงินคงไม่ได้มีผลกระทบมากนัก เนื่องจาก เป็นเพียงการลดชั้นลงมา โดยการบังคับใช้ในรอบนี้จะตรงกับช่วงปิดตลาดวันที่ 15 มี.ค. ซึ่งอาจ ทําให้การแกว่งตัวของหุ้นกลุ่มนี้อยู่ในภาวะ Overhang ในช่วง นี้ไปจนถึงวันดังกล่าวได้
• STA: คงคําแนะนํา “ถือ” ในเชิงพื้นฐานต่อไปที่ราคาเป้าหมายเดิม 16 บาท บริษัทรายงานผลขาดทุนสุทธิประจําไตรมาส 4/66 ที่ 422 ล้านบาท แย่กว่าที่เรา และตลาดคาดการณ์ไว้ จากปริมาณการขายที่ลดลง ซึ่งเป็นผลมาจากการขาด แคลนวัตถุดิบในช่วง 1H66 และเป็นช่วง Destocking ของกลุ่มผู้ผลิตยางล้อ สําหรับปีนี้ ประเมินว่าผลการด่าเนินงานอาจยังมีความเสี่ยงหลงเหลืออยู่จาก 1) ช่วงปิดกรีดยางที่อาจยาวนานกว่าปกติ 2) ความกังวลต่อการชะลอตัวทาง เศรษฐกิจ ซึ่งอาจส่งผลให้กระบวนการ Destocking ยาวนานออกไป
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities