เชื่อว่ามีหลายคนเริ่มต้นปีใหม่ด้วย New Year Resolution ไม่ว่าจะเป็นด้านการงาน ความสัมพันธ์ หรือ สุขภาพ ไม่มีช่วงเวลาไหนที่เหมาะกับการตั้งหลักหรือมุ่งมั่นตั้งใจกับสิ่งใหม่ ๆ ไปมากกว่าช่วงต้นปีอีกแล้ว
ในขณะที่ไฟช่วงต้นปีกำลังลุกโชนอยู่ การวางแผนการเงินตั้งแต่เดือนมกราคมเปรียบเหมือนการติดกระดุมเม็ดแรก
ในบทความนี้เราจะใช้ investingPro มาช่วยจัดพอร์ตหุ้นของเราสำหรับลงทุนตลอดปี
เริ่มต้นจากการแบ่งเงินตามอัตราส่วนที่จะนำไปลงทุนก่อน
เงินก้อนแรกที่นักลงทุนควรมีก่อนคือเงินเก็บฉุกเฉิน หรือ Emergency Fund ใครที่เคยทำรายรับรายจ่ายแล้วจะรู้ว่าเดือนหนึ่ง ๆ เรามีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยเท่าไหร่ ให้เก็บเงินสดเอาไว้ก่อนเลยทำจำนวนเงินนั้น คูณ 6 หรือ 12 เผื่อรายรับสะดุด หรือมีเหตุจำเป็นต้องใช้เงินจะได้ไม่กระทบแผนการลงทุนของเราตลอดปี
หลังจากนั้นเราจึงสามารถนำเงินส่วนที่เหลือมาลงทุนได้ โดนแบ่งความเสี่ยงออกเป็นความเสี่ยงต่ำ เสี่ยงปานกลาง และความเสี่ยงสูง
สำหรับความเสี่ยงต่ำนั้นสามารถเป็นอะไรก็ได้ที่แทบไม่มีโอกาสกระทบเงินต้นของเรา ไม่ว่าจะเป็นฝากออมทรัพย์ ฝากประจำ หรือสลากออมสิน
ส่วนความเสี่ยงปานกลางจนถึงความเสี่ยงสูงนั้นจะเป็นการลงทุนกับหุ้น กองทุน หรือคริปโต ก็ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการของเรา
ในบทความนี้เราจะเน้นไปที่การลงทุนหุ้นต่างประเทศอย่างประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเมื่อดูผลตอบแทนย้อนหลัง ถือเป็นตลาดที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง น่าลงทุน ประกอบกับแพลตฟอร์มการลงทุนที่ให้เราสามารถลงทุนหุ้นต่างประเทศได้อย่างง่ายดายผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด อย่าง Dime หรือผู้เล่นขนาดใหญ่อย่าง SCBX ก็มี InnovestX
เมื่อการซื้อหุ้นกลายเป็นเรื่องง่าย เรื่องที่ยากกว่าคือซื้ออะไร? ลงทุนกับหุ้นตัวไหนดี? ในส่วนนี้ investingPro จึงเข้ามาตอบโจทย์นักลงทุน
ใครที่เคยเห็นหรือใช้งาน investingPro ผ่านตาแล้วมาจะรู้ว่า investingPro มีเครื่องมือหลายตัวช่วยให้เราตัดสินใจลงทุนได้ง่ายขึ้น
ในบทความนี้จะนำเสนอ 2 กลยุทธ์ จาก 2 ฟีเจอร์หลักของ investingPro ที่จะเข้ามาช่วยเราลงทุนในตลาดหุ้นได้อย่างง่ายดายแม้ว่าเราจะไม่ได้มีอาชีพเป็นนักลงทุน Full time ก็ตาม
กลยุทธ์ที่ 1 ลงทุนตาม Propicks
ขอเรียกว่าเป็นกลยุทธ์มักง่ายสำหรับคนที่ไม่มีเวลาศึกษาตลาดอย่างจริงจัง เนื่องจากเทรนด์ของ AI กำลังมาแรง และ investingPro ก็มีเทคโนโลยี AI ของตัวเองเช่นกัน
Propicks คือฟีเจอร์เลือกหุ้นของ AI ซึ่งได้จากการทำ Backtesting กว่า 150,000 ครั้ง ซึ่งผลตอบแทนย้อนหลังพิสูจน์แล้วว่าสามารถเอาชนะดัชนี S&P500 ได้ แน่นอนว่ามีคนที่ลงทุนกับดัชนี S&P500 อยู่แล้วเป็นประจำจะทราบดีว่าผลตอบแทนพุ่งสูงขึ้นทุกปี ลองแบ่งเงินส่วนหนึ่งมาลงทุนตาม AI ก็อาจจะเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวนัก
ปัจจุบัน Propicks เลือกหุ้นให้เราได้ถึง 6 โมเดล
ที่มา investingPro
กลยุทธ์ที่ 2 ขโมยไอเดียจากนักลงทุนชื่อดัง
อย่างที่เราทุกคนรู้กันอยู่แล้วว่า investingPro มีฟีเจอร์ที่ให้เราเข้าถึงข้อมูลหุ้นในพอร์ตของนักลงทุนและกองทุนชื่อดังต่าง ๆ
ที่มา: investingPro
แต่กว่าที่ข้อมูลเหล่านี้มาถึงเรา นักลงทุนเหล่านั้นก็ได้ position ราคาที่ดีกว่าเราไปแล้ว นั่นคือข้อเสียของการลอกการบ้านคนอื่น ข้อดีคือเราได้เห็นภาพกว้างของตลาดก่อนตกลงปลงใจไปกับหุ้นตัวไหน และที่สำคัญ investingPro นั้นบอกเราได้ว่าหุ้นตัวไหนมีมูลค่าเกินจริง(overvalued) หรือ มูลค่าต่ำกว่าความจริง(undervalued)
ที่มา: มูลค่ายุติธรรม(Fair value) จาก investingPro บนแอป investing
เมื่อใช้งานรวมกับฟีเจอร์ Watchlist เราสามารถคัดลอกรายชื่อหุ้นของนักลงทุนที่เก่งกาจกว่าเราอย่างวอเรนบัฟเฟต์ หรือ เรย์ ดาลิโอ แล้วนำมาทำการบ้านได้อีกต่อด้วย Protips ว่ามีหุ้นตัวใดบ้างที่เราควรซื้อเก็บเข้าพอร์ต
ที่มา: Protips ของหุ้น NVDIA หนึ่งในฟีเจอร์ของ investingPro
2 กลยุทธ์นี้เป็นการใช้งาน investingPro สำหรับคนที่ไม่มีเวลาติดตามหรือศึกษาตลาดหุ้นมากนัก
ในบทความหน้าเราจะมาเจาะลึกการใช้งานฟีเจอร์อื่น ๆ สำหรับนักลงทุนมือโปรที่ต้องการคัดกรองหุ้นด้วยตัวเองจาก metrics ต่าง ๆ ต่อไป
สำหรับคนที่สนใจใช้งาน investingPro ช่วงนี้ลดราคาสูงสุดในรอบปี ใช้โค้ดส่วนลด TH2024 รับส่วนลดเพิ่มอีก 10% สำหรับ Pro+ แบบรายปี
Disclaimer: ข้อมูลนี้ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน เป็นเพียงข้อมูลเพื่อช่วยให้เกิดความเข้าใจเรื่องการวางแผนการลงทุนและการใช้งาน investingPro เบื้องต้นเท่านั้น การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน ผู้เขียนเป็นหนึ่งในทีมงานของ investing.com