ราคาทองคํามีแรงกดดัน จากการฟื้นตัวขึ้นของค่าเงินดอลลาร์

ราคาทองคําวันนี้ (2 ต.ค.) มีการปรับตัวลง แต่ยังเคลื่อนไหวด้วยความผันผวนที่ลดลงจากวันก่อนหน้า ทั้งนี้ ราคาทองคํามีแรงกดดัน จากการฟื้นตัวขึ้นของค่าเงินดอลลาร์ หลังท้ายที่สุดสภาคองเกรสสามารถผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวได้อย่างทันท่วงที ตลาด จึงคลายความกังวลต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นจากการยุติการดําเนินงานของหน่วยงานรัฐ ทําให้เศรษฐกิจสหรัฐยังมีมุมมอง เชิงบวกที่แข็งแกร่งมากกว่า เมื่อเทียบกับประเทศเศรษฐกิจชั้นนําแห่งอื่น โดยในบ่ายวันนี้ ฮัมบูร์ก คอมเมอร์เชียล แบงก์ (HCOB) เผย ประมาณการณ์ครั้งสุดท้ายของตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI) ภาคการผลิต เดือนก.ย. ของสหภาพยุโรป ที่อยู่ระดับ 43.4 ลดลง จากระดับ 43.5 ในเดือนส.ค. ซึ่งตัวเลขดังกล่าวต่ํากว่าระดับ 50 ตลอดทั้งช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา บ่งชี้ถึงแนวโน้มการหดตัวลงของ ภาคการผลิตในสหภาพยุโรป ทําให้เงินยูโรมีแรงกดดันต่อการอ่อนค่าลงเพิ่มเติม หนุนการปรับตัวขึ้นของค่าเงินดอลลาร์ ราคาทองคํา จึงมีปัจจัยที่คอยกดดันให้ปรับตัวลง อย่างไรก็ดี ในคืนนี้ แนะนําติดตามการเปิดเผยตัวเลข PMI ภาคการผลิตในฝั่งสหรัฐ จาก ISM เวลา 21:00 น. รวมไปถึงติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยเฉพาะนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ที่มีคิวให้ถ้อยแถลงในเวลา 22:00 น. เพื่อประเมินภาวะเศรษฐกิจสหรัฐและแนวโน้มการดําเนินนโยบายการเงินของเฟดในระยะถัดไป

คําแนะนํา

• แม้ราคาทองคําจะมีแรงซื้อกลับเข้าหนุน แต่ราคายังมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway down

 • พิจารณาแนวต้านโซน 1,861-1,879 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในการขายเพื่อทํากําไร

• สถานะขายตัดขาดทุน หากราคาผ่านแนวต้านที่ 1,879 ดอลลาร์ต่อออนซ์

• ซื้อคืนทํากําไร เมื่อราคาปรับตัวขึ้นเข้าใกล้แนวรับโซน 1,833-1,823 ดอลลาร์ต่อออนซ์

บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th