สัปดาห์ที่ผ่านมามี 2 Events หลักที่กดดัน SET Index ได้แก่การหมดอายุของ Future Series U เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 28 ก.ย. 66 และ Transaction ของ DELTA เมื่อวันศุกร์ ซึ่งทั้ง 2 ส่วนเป็น One Time Impact สำหรับสัปดาห์นี้เริ่มต้นด้วย ปัจจัยแวดล้อมที่ผ่อนคลาย โดยความกังวลเรื่องเงินเฟ้อลดลงต่อเนื่อง หลัง ตัวเลข PCE สหรัฐเดือน ส.ค. ลดลงมาอยู่ที่ 3.9% YoY ขณะที่ CPI ยุโรปเดือน ก.ย.ออกมาต่ำกว่าที่คาด ภาวะดังกล่าวทำให้Fed Watch Tool แสดงโอกาสที่ Fedจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.5%จนถึงกลางปี 2567 ในภาวะที่ดอกเบี้ยมีความ นิ่ง น่าจะส่งผลต่อเนื่องให้ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนน้อยลง ดีต่อทิศทาง ของFund Flow ในอนาคต ในเชิง Valuation สะท้อนภาพ Downside ที่จำกัดโดย PBV ของ SET Index เข้าใกล้ -2SD ขณะที่ Upsideเปิดกว้างมากขึ้น
คาด SET Index มีโอกาสที่จะ Rebound กลับขึ้นมา ประเมินกรอบการเคลี่อน ไหววันนี้ช่วง 1465 – 1480 จุด สำหรับหุ้น Top Pick วันนี้เลือก CPF, JMART และ PLANB
ปัจจัยแวดล้อมดูดีขึ้น คาดลดแรงกดต่อตลาดหุ้น
ความผันผวนในตลาดหุ้นช่วงนี้มีแนวโน้มลดลง จากปัจจัยแวดล้อมที่เริ่มดูดีขึ้น โดย เริ่มจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่เห็นการย่อตัวลงมาราว 1% เมื่อวันศุกร์ หลังมีกระแส ข่าวว่าาอุดีอาระเบียมีโอกาสกลับมาเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอีกครั้ง และอาจเร็วกว่า ที่ตลาดคาดไว้ จึงเชื่อว่าจะช่วยลดแรงกดดันจากปัญหาเงินเฟ้อในระยะข้างหน้าได้ ขณะที่ผลพวงจากดอกเบี้ยสูงได้ส่งผ่านไปยังเงินเฟ้อให้ชะลอตัวลงเรื่อยๆ เฉพาะอย่าง ยิ่งเงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งล่าสุดมีรายงานตัวเลขดังนี้
• ดัชนี Core PCE ของสหรัฐเดือน ส.ค. ลดลงตามคาดสู่ 3.9%YoY จาก 4.3%YoY ในเดือน ก.ค. และยังเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี
• Core CPI ของยุโรปเดือน ก.ย. ลดลงสู่ 4.3%YoY จาก 5.3%YoY ในเดือน ก.ค. และยังชะลอตัวมากกว่าตลาดคาดที่ 4.8%YoY รวมถึงเป็นการปรับ ลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2563
นอกจากนี้ ความกังวล Government Shutdown ในสหรัฐยังดูผ่อนคลายลง หลัง ปธน.โจ ไบเดน ได้ลงนามในกฎหมายงบประมาณชั่วคราวระยะเวลา 45 วัน จึงช่วยให้ หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐมีงบประมาณใช้จ่ายไปจนถึงวันที่ 17 พ.ย. นี้
ขณะเดียวกันภาพรวมของเศรษฐกิจจีนยังอยู่ในช่วงของการฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อย ไป และยังพอประคองตัวอยู่ได้ หลังรัฐบาลจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม นับตั้งแต่ปลายเดือน ก.ค. ซึ่งน่าจะช่วงหนุนให้ Downside มีจำกัดมากขึ้น โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการของจีนเดือน ก.ย. ที่รายงานออกมาล่าสุดยังอยู่ใน โซนขยายตัว (PMI > 50 จุด)
สรุป สัญญาณเงินเฟ้อที่แผ่วลงเชื่อว่าจะช่วยหนุนดอกเบี้ยในสหรัฐฯ ใกล้นิ่งขึ้น ทำให้ ดอลลาร์อาจชะลอการแข็งค่า ในอีกมุมหนึ่งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนมีโอกาสที่จะ ส่งผ่านมายังบ้านเรา และน่าจะหนุนให้เงินบาทมีโอกาสแข็งค่ามากขึ้นหลังจากนี้
คาดหวัง SET รีบาวน์ หลังถูกดดันลงมาลึก
ทั้งปัจจัยฯ ภายนอกที่ผ่านคลายมากขึ้น (จากหัวข้อทางด้านบน) ก็เริ่มเห็นสัญญาณ การกลับตัวจาก SET Index ในหลายๆ ส่วน ดังนี้
1. แรงกดดันจากหุ้น DELTA น่าจะลดลง เนื่องจากมีโอกาสหลุดจากดัชนี SET50 น้อยลงมาก และราคาหุ้นปัจจุบัน 82.75 บาท ต่ำกว่าราคา Biglot ถึง -12.6% โดยในวันศุกร์ที่ผ่านมา หุ้น DELTA มี Biglot ที่ 94.75 บาท จำนวน 82 ล้านหุ้น คิดเป็น Turnover 0.72% หนุนให้เดือน ก.ย. มี Turnover 2.01% (ผ่านเกณฑ์สภาพคล่องหุ้นใน SET50 ที่ Turnover > 2% เดือน) และมูลค่า ซื้อขายในวันศุกร์หนาแน่นมากถึง 266 ล้านหุ้น คิดเป็น Turnover 1.41% หนุนให้เดือน ก.ย. มี Turnover 2.7% แบบไม่รวม Biglot (ทำให้ผ่านเกณฑ์ สภาพคล่องหุ้นใน SET50 ที่ Turnover > 2% เดือน หากตลาดไม่นับ Biglot เช่นกัน)
2. เห็นการฟื้นตัวของหุ้นที่กระจายตัวมากขึ้น แม้วันศุกร์ SET Index -10.7 จุด หลักๆ ถูกกดดันจากหุ้น DELTA - 21.6 จุด หากหัก DELTA ออก SET Index +11 จุด และมีหุ้นบวก 263 ตัว มากกว่าหุ้นลบ 189 ตัว
3. เห็นสัญญาณการกลับตัวทางเทคนิค จากจำนวนหุ้นที่ RSI เข้าเขต Oversold ลดน้อยลง แม้วันศุกร์SET Index จะย่อตัว แต่การฟื้นตัวของหุ้น ที่กระจายตัวมากขึ้น หนุนสัดส่วนหุ้นที่มีRSI เข้าเขต Oversold ลดลงจาก 12% มาอยู่ที่ 10.2%
4. Downside ทางพื้นฐานของ SET Index จำกัด สะท้อนได้จาก PBV ของ SET Index ปัจจุบันลดลงมาอยู่ที่ 1.44 เท่า ต่ำกว่าระดับ -1SD ที่ 1.52 เท่า และเข้าใกล้ระดับ -2SD ตลอดระยะเวลา 5 ปี ที่ 1.37 เท่า
ทุกๆ ปัจจัยที่กล่าวมา ประเมินว่า SET Index มี Limit Downside และมีโอกาสกลับตัว ได้ทั้งในเชิงเทคนิค และแรงกดดันจากหุ้น DELTA ที่ลดลง และคาดจะทยอยฟื้นตัวได้ดี ในช่วงไตรมาสที่ 4
ส่วนวันนี้ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของ SET Index ที่ 1465 – 1480 จุด Toppick เลือก PLANB, JMART, CPF
บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities