The danger of complacency
• FOMC: ไฮไลท์จากการประชุม FOMC เมื่อคืนนี้ที่สําคัญได้แก่
1) Fed คงดอกเบี้ยตามคาดที่ระดับ 5.25-5.50%
2) ค่ากลางและค่า Mode ของ Dot plots ปีนี้คงที่อยู่ที่ระดับ 5.50-5.75% ยืนยันมุมมองของ Fed ที่ต้องการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในปีนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนส่วนใหญ่ไม่เชื่อก่อนหน้านี้
3) ค่ากลางของ Dot plots ปีหน้า Shift ขึ้นจากเดิมอย่างสําคัญมาอยู่ที่ ระดับ 5.00-5.25% สะท้อนความเป็นไปได้ของการลดดอกเบี้ยในปี หน้าเพียง 50 bps เท่านั้น ต่ํากว่าที่นักลงทุนส่วนใหญ่คาดหวังก่อน หน้านี้
4) Statement แทบไม่เปลี่ยนแปลง โดยมีการเปลี่ยนแปลงเพียงมุมมอง ต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯตอนนี้ ว่าอยู่ในภาวะ “แข็งแกร่ง” จากเดิมที่ ใช่ค่าว่า “ปานกลาง” สอดคล้องกับการปรับประมาณการ GDP ของ Fed ขึ้นอย่างสําคัญในรอบนี้
5) Jerome Powell กล่าวหลังการประชุมเน้นย้ําว่า Fed ยังคงให้ ความสําคัญที่สุดไปยังการสร้างเสถียรภาพทางด้านราคา แต่ให้เหตุผล ของการปรับขั้นของ Dot plots ปีหน้า (ลดดอกเบี้ยน้อยลงจาก คาดการณ์เดิม) ว่าเป็นเพราะมุมมองต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ไม่ใช่ความกังวลในเรื่องของเงินเฟ้อที่ยืดเยื้อแต่อย่างใด
• Reaction: ล่าสุด สินทรัพย์ต่างๆ ในตลาดปรับตัวดังนี้
1) ตลาดยกระดับความน่าจะเป็นของการขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในปีนี้ขึ้น เป็น 45% จากวันก่อนที่ 40% แม้สูงขึ้น แต่ยังคงห่างไกลจากระดับที เรามองว่าปลอดภัยแถว 80% น
2) Bond yield สหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้นท่าจุดสูงสุดใหม่ตามคาดทุกรุ่นอายุ มองจะเป็นปัจจัยผลักดันท่าให้ Bond yield ของไทยปรับตัวสูงขึ้นทา จุดสูงสุด ใหม่เช่นเดียวกัน เป็น Sentiment เชิงบวกต่อกลุ่มประกัน ในบ้านเราต่อไป แนะถือเก็งกําไรหุ้น BLA ต่อไปในสัปดาห์นี้
3) ค่าเงิน USD ปรับตัวแข็งค่าหาจุดสูงสุดใหม่ด้วยเช่นเดียวกัน ส่งผลให้ เงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 36.3 บาท/ดอลลาร์ไปแล้ว คาดยังไม่เห็นแนวโน้มการกลับมาของ Fund flow ในระยะสั้นนี้
• Strategy: ในเชิงกลยุทธ์ แนะชะลอการลงทุนในภาพรวมต่อไปจนกว่า ตลาดจะให้น้าหนักต่อการขึ้นดอกเบี้ยในช่วงถัดไปมากกว่านี้อย่างสําคัญ ในระหว่างนี้ มองการปรับขึ้นทําจุดสูงสุดใหม่ของ Bond yield จะส่งผลลบ ต่อกลุ่มต่างๆดังนี้
1) กลุ่ม Rate-sensitive อย่าง Finance และ Property โดย เฉพาะตัวที่มี High leverage ที่จะมีความเสี่ยงเผชิญต้นทุนทางการเงิน ที่สูงขึ้นในช่วงถัดไป
2) กลุ่ม ETRON (DELTA, KCE, HANA) ที่อาจได้รับ Sentiment เชิงลบ จากการปรับลงแรงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในสหรัฐฯเมื่อคืนนี้
3) กลุ่ม Bond-like ที่มีปันผลสูงอย่าง REIT/PFUND/IFF รวมถึง กลุ่ม Utilities ของไทยที่จะมีความน่าสนใจลดลง จาก Dividend yield gap ที่ปรับตัวลดลง
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities