ราคาทองคําวันนี้ (18 ส.ค.) มีการฟื้นตัวขึ้นแกว่งตัวในแดนบวก หลังปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 6 เดือน หรือ นับตั้งแต่เดือนมี.ค. จึงได้รับแรงซื้อทางเทคนิคเข้ามาหนุน ทั้งนี้ ค่าเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐยังคง อยู่ในทิศทางการปรับตัวขึ้น ด้วยแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจเพิ่มความเข้มงวดในการดําเนินนโยบายการเงิน จากมุมมองที่ว่า เงินเฟ้ออาจกลับมาปรับตัวขึ้นในช่วงที่เหลือของปี สอดคล้องกับแนวโน้มการเติบทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ในปีนี้ และภาวะตลาดแรงงานที่ยังคงแข็งแกร่ง อีกทั้งค่าเงินดอลลาร์ยังมีแรงหนุนจากแรงซื้อในฐานะสกุลเงินปลอดภัย หลังภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนส่อแววเกิดวิกฤติเป็นวงกว้าง และอาจลามไปยังภาคสถาบันการเงินของจีน ซึ่งนับเป็น ประเด็นที่ซ้ําเติมเศรษฐกิจจีนให้ได้รับมุมมองเชิงลบที่เพิ่มมากขึ้น ขณะที่ในบ่ายวันนี้ อังกฤษเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนก.ค. ที่หดตัวลง 1.2% ย่ําแย่กว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งนอกจากจะทําให้ค่าเงินปอนด์ปรับตัวลง หนุนเงินดอลลาร์ ยังทําให้ตลาดทวีความวิตกกังวลต่อเศรษฐกิจโลกเพิ่มมากขึ้น แรงซื้อเงินดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัยจึงมีแนวโน้ม เพิ่มมากขึ้นไปอีก โดยในสัปดาห์นี้ ค่าเงินดอลลาร์ยังแข็งค่าขึ้นสุทธิติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 5 นับเป็นการแข็งค่าสุทธิอย่าง ต่อเนื่องยาวนานที่สุดในรอบ 15 เดือน ทําให้ราคาทองคํายังคงมีปัจจัยที่คอยกดดันให้การฟื้นตัวขึ้นเป็นไปอย่างจํากัด
• นักลงทุนต้องระมัดระวังแรงขายทํากําไร เพราะเมื่อราคาทองคํามีการปรับตัวขึ้นมักมีแรงขายออกมาเช่นกัน
• ขายเพื่อทํากําไรระยะสั้น หากราคาไม่ผ่านแนวต้านโซน 1,903-1,909 ดอลลาร์ต่อออนซ์
• รอซื้อคืน หากราคาอ่อนตัวลงสามารถยืนเหนือแนวรับโซน 1,885-1,870 ดอลลาร์ต่อออนซ์
• สถานะขายตัดขาดทุน หากราคาผ่านแนวต้านที่ 1,924 ดอลลาร์ต่อออนซ์
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th