หุ้นโรงงานกระดาษรายใหญ่ บริษัทลูกที่ SCC ถือหุ้น 72% ตามมาด้วยกองทุนทั้งในและต่างประเทศ
Free Float จริงๆ ไม่เยอะ 26% แต่รายย่อยถือหุ้นเกือบ 50,000 คน เราถึงได้ยินเสียงบ่นกันระงมว่าเอาไงดี
มุมเทคนิคอล
กราฟอ่อนแอกว่าตลาด SET ลง พี่ก็ลง SET เด้ง พี่ไม่เด้ง คือ ลงท่าเดียว แปลว่า โมเมนตัมไม่แข็งแรง อาจมีปัญหาเฉพาะตัว
แนวรับสำคัญที่เคยรับอยู่มา 4-5 รอบ บริเวณ 50 บาท รับไม่อยู่ เรียกว่า เขื่อนแตก เจอแบบนี้ สายกราฟเน้นวินัย หนีก่อน ห้ามต่อรอง
แม้จะส่อง time frame สั้นๆ ก็ยังไม่เห็นสัญญาณกลับตัวใดๆ แปลว่า รอดูท่าที รอสัญญาณค่อยว่ากัน
-------------------------------------------
มุมพื้นฐาน
-
SCGP ตลาดอาจจะมองเป็นหุ้น growth แต่มีความเป็น commodity ที่ขึ้นกับราคากระดาษเป็นหลัก และราคาถ่านหิน ค่าระวางเรือตามมา
-
Growth Driver ของ SCGP มาจาก 1) M&P 2) การเพิ่มกำลังการผลิต โดยเน้นไปที่กลุ่มอาหาร เครื่องดื่ม FMCG ต่างๆ คือ ยอดขายก็โตตามการเปิดเมืองได้ แต่ก็จะติดเรื่องจีนตอน lock down อยู่บ้าง ทำให้ยอดขายอาจไม่ได้โตดีนัก
-
M&P คือเรื่องใหญ่ มาค่อนข้างช้า พอมาทีก็เป็นต้นน้ำ โรงงาน Recycle ที่ไม่ช่วยเรื่องยอดขายมากนัก แต่จะช่วยเรื่อง supply ไม่ให้ขาด ถ้าเราดูดีล M&P คือปัจจัยเร่งยอดขาย พอหมด full year impact ยอดขายจะไม่เพิ่มแล้ว และปีนี้ก็ยังไม่ประกาศ แปลว่า 1H รวมงบไม่น่าทัน
-
เรื่อง จีน ไม่ใช่แค่ยอดขาย แต่ด้วยภาวะที่ over supply จากทั้งไทย อินโด เวียดนาม ก็มากดราคาให้ลดลงอีก spread ก็ยิ่งแย่ อ้าว แล้วตอนนี้จีนเปิดประเทศแล้วก็น่าจะดีสิ แต่ของจริงกลายเป็นว่า จีนเองก็มีโรงงาน ทำให้ไปเร่งผลิตของตัวเองก่อน ก็เลยไม่ได้สั่งจากคนอื่น ทำให้ปัญหา over supply ยังคงอยู่ กดดันทั้งยอดขาย และ spread ต่อไป
-------------------------------------------
มุมความคุ้มค่า
-
งบ Q4 กำไรปกติ 628 ล้านบาท คือ ATL ก็มีโอกาสที่จะ bottom out ไปแล้ว แต่ว่ากำไรปกติที่เคยทำได้ คือ 2,000 ล้านบาท แปลว่า ยังห่างไกลอีกเยอะ เห็นโบรกคาดว่า Q1 น่าจะได้ 1,100-1,200 ล้านบาท
-
ราคาหุ้น SCGP มักจะวิ่งอยู่ในระดับ P/E > 30 เท่าอยู่ตลอด แปลว่า ตลาดหวังจะเห็นกำไรที่เติบโต ไม่ว่าจะมาจากการซื้อกิจการ เพิ่มกำลังาการผลิต หรือลดต้นทุนก็แล้วแต่ พอทำได้น้อยกว่าที่คาด ราคาก็เลยลงแรง
-
SCGP เป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่แข็งแกร่ง ไม่ล้มง่าย เพียงแต่การเติบโตมาไม่ทัน ต้นทุนดันมีปัญหา และตลาดคาดหวังสูง รวมไปถึงผู้เล่นในเกมส์นี้ คือ กองทุนไทย ฝรั่ง และรายย่อยจำนวนมาก
ใครสนใจลองพิจารณาปัจจัยต่างๆ ว่าอะไรจะเริ่มกลับมามากน้อยแคไหน แล้วเราก็จะตอบได้ว่า เมื่อไหร่ คือ โอกาส
*การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ วิตามินหุ้นเพียงให้ข้อมูลประกอบการลงทุน ไม่แนะนำการซื้อขายครับ
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกทาง Stock Vitamins - วิตามินหุ้น