What surprised and what not
SET: คาด SET Index ปรับตัวแข็งแกร่งกว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนนี้ เผชิญปัจจัยกดดันโดยตรงจากความกังวล 2 ส่วนที่เกิดขึ้นพร้อมกัน (รายละเอียดด้านล่าง) ในขณะที่ความกังวลดังกล่าวยังไม่ปรากฏชัดมาก นัก สะท้อนผ่านความชัน Yield curve ของไทย ที่ยังคงทรงตัวได้ แต่อย่างไรก็ดี หากในช่วงถัดไปธปท.ตัดสินใจเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย นโยบายต่อเนื่อง เราประเมินว่าไม่ช้าก็เร็ว ภาพแบบที่เกิดขึ้นกับสหรัฐฯ ณ ตอนนี้จะเกิดขึ้นกับประเทศไทยด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ เรายังคงมีความเห็น Against ต่อการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของไทยไปเกินกว่าระดับ 1.50% โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ตัวเลขเงินเฟ้อของไทยวานนี้ออกมาต่ำกว่าคาด
Strategy: ในเชิงกลยุทธ์ หากในสัปดาห์นี้ SET Index ปรับตัวลงต่อจน เข้าสู่กรอบแนวรับแรกของเราเดือนนี้ที่ 1580-1600 จุด แนะนําาเป็นจุดใน การเพิ่มนํ้าหนักการลงทุนส่วนหนึ่งได้
• สรุปไฮไลท์สําคัญจาก Testimony ของนาย Jerome Powell เมื่อคืนนี้ ได้แก่ 1) นาย Powell กล่าวชัดเจนว่า จากตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆที่ออกมา แข็งแกร่งกว่าคาดูก่อนหน้านี้ ทําให้ระดับ Peak rate (Terminal rate) ของ Fedรอบนี้ จะอยู่สูงกว่าคาดการณ์เดิมที่ 5.00-5.25% อย่างแน่นอน ซึ่งประเด็นนี้ไม่ใช่สิ่งที่ Surprise ตลาดแต่อย่างใด 2) แต่ประเด็นที่สร้างความกังวลให้กับตลาดได้แก่ การที่นาย Powell ใช้ค่าพูดว่าหากตัวเลข Data ต่าง ๆ ในช่วงถัดไปออกมาในลักษณะ เกื้อหนุนให้ Fed ขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้เร็วขึ้น (Faster) Fed ก็จะดําเนิน เตรียมการสาหรับการขึ้นดอกเบี้ยด้วยอัตราที่เร่งขึ้นเช่นกัน (increase the pace of rate hikes) Our view & Reaction: ในมุมมองของเรา จากคําพูดเมื่อคืนนั่น หมายความว่าตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯที่จะออกมาในวันศุกร์นี้ และตัวเลขเงินเฟ้อที่จะออกมาในวันที่ 14 มี.ค. จะเป็นตัว ชะตาที่สําคัญว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% หรือ 0.50% ในการประชุมที่จะถึงนี้ ล่าสุด Fed Funds futures บ่งชี้ว่านักลงทุนคาดการณ์ Fed จะขึ้นดอกเบี้ย 50bps ในการประชุมเดือนนี้กว่า 70% แล้ว ส่งผลให้ Bond yield รุ่นสั้น ของสหรัฐฯปรับตัวขึ้นอย่างรุนแรงเมื่อคืนนี้ ทั้งนี้ การปรับตัวขึ้นของ Yield รุ่นสั้น ในขณะที่ Yield รุ่นยาวคงที่ บ่งชี้ถึงความกลัว 2 เรื่องที่เกิดพร้อมกัน นั่นก็คือ Tightening fear และ Recession fear และเป็นปัจจัยทําให้ 2s10s spread ของสหรัฐฯล่าสุดดิ่งลงหาจุดต่าสุดใหม่นับตั้งแต่ปี 1981 ท่าให้ดัชนี Dow Jones ซึ่งเป็นตัวแทนของกลุ่มหุ้น Cyclical ปรับตัวลงแรงกว่าหุ้น Growth เมื่อคืนนี้ มองผลกระทบต่อการปรับเปลี่ยนของ Bond yield สหรัฐฯเมื่อคืนที่มีต่อ ไทยอาจทําให้ Yield รุ่นสั้นของเราขยับขึ้นเล็กน้อย แต่การที่ Yield รุ่นยาว ยังทรงตัวท่าให้ความน่าสนใจของตลาดหุ้น หรือกลุ่มที่มีคุณลักษณะคล้าย พันธบัตรเช่น REIT / IFF ไม่ว่าจะวัดผ่านวิธี Earning yield gap หรือ Dividend yield gap ยังคงอยู่ใกล้เคียงกับระดับเติม ส่วนการที่เงิน USD ปรับตัว นท่าจุดสูงสุดใหม่ อาจเป็นปัจจัยกดดัน Fund flow ในระยะสั้นต่อไป
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities