Economic Highlight
ไฮไลท์สำคัญที่ควรติดตาม ได้แก่ 1) รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตอุตสาหกรรมและภาคการบริการ โดย ISM (Manufacturing & Services PMIs) ในเดือนกุมภาพันธ์ 2) ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อประเมินทิศทางนโยบายการเงินของเฟด และ 3) ภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ที่จะสะท้อนผ่านดัชนี PMI ภาคการผลิตอุตสาหกรรมและภาคการบริการ ในเดือนกุมภาพันธ์
**ราคาทองคำ = สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย.
FX Highlight
-
ในระยะสั้นนี้ เงินบาทยังคงเผชิญปัจจัยกดดันฝั่งอ่อนค่า ทั้งความกังวลแนวโน้มการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องของเฟด รวมถึงแรงขายสินทรัพย์ไทย โดยเฉพาะหุ้นไทยจากนักลงทุนต่างชาติ
-
เราประเมินว่า เงินบาทมีแนวโน้มแกว่งตัว sideways Up และมีโอกาสที่เงินบาทจะอ่อนค่าทดสอบโซนแนวต้าน แถว 35.00 บาทต่อดอลลาร์
-
ควรจับตาทิศทางฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติโดยเฉพาะในฝั่งหุ้น หลังภาพรวมตลาดหุ้นไทยดูแย่ลงและเสี่ยงที่จะปรับฐานต่อในระยะสั้น (จับตาแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันของ SET Index)
-
ทั้งนี้ ตลาดการเงินมีแนวโน้มผันผวนสูงอยู่ โดยเฉพาะในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ และถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด
-
อย่างไรก็ดี หากราคาทองคำสามารถรีบาวด์ขึ้นมาได้บ้าง ก็อาจช่วยชะลอการอ่อนค่าของเงินบาทได้ จากโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรการรีบาวด์ของราคาทองคำ
-
ในเชิงเทคนิคัล ทั้งสัญญาณจาก RSI และ MACD อาจยังคงชี้ว่า เงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าลงได้ ทว่า จากการประเมินมูลค่าของเงินบาท เรามองว่า การอ่อนค่าของเงินบาทในรอบนี้ หากไม่ได้มีปัจจัยกดดันฝั่งอ่อนค่าเพิ่มเติม เงินบาทอาจอ่อนค่าได้มากสุดไม่เกินระดับ 35.75 บาทต่อดอลลาร์
Gold Highlight
-
ราคาทองคำยังคงอยู่ในช่วงปรับฐาน แต่เริ่มปรับตัวลงในอัตราชะลอลง สะท้อนผ่านความผันผวนของราคาทองคำที่ค่อยๆ ลดลง
-
ในระยะสั้น ราคาทองคำยังคงอยู่ในโหมด USD-Driven หรือถูกขับเคลื่อนด้วยปัจจัยเงินดอลลาร์เป็นหลัก ทำให้ราคาทองคำอาจยังไม่สามารถพลิกกลับมาปรับตัวขึ้นได้ จนกว่าตลาดจะคลายกังวลแนวโน้มการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องของเฟด หรือ มีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เข้ามากระทบตลาด ทำให้ผู้เล่นในตลาดเลือกที่จะถือทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
-
ในเชิงเทคนิคัล ราคาทองคำมีโอกาสย่อตัวลงต่อ แต่การปรับตัวลงของราคาทองคำ อาจชะลอลง หลัง RSI เริ่มเข้าโซน Oversold
-
เราคงมุมมองเดิมว่า หากราคาทองคำย่อตัว ก็อาจเป็นการพักฐาน เพื่อปรับตัวขึ้นต่อ โดยมีเป้าราคาทองคำในปีนี้ที่ระดับ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งผู้เล่นในตลาดอาจรอจังหวะ Buy on Dip ใกล้โซนแนวรับ
-
อนึ่ง เราจะประเมินสถานการณ์ใหม่อีกครั้ง หากราคาทองคำปรับตัวลงแรงต่อเนื่อง จนหลุดกรอบแนวรับเทรนด์ขาขึ้น แถว 1,815 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (Zone Fibonacci Retracement 50%)