DTAC: Final chance
• SET: คาด SET Index แกว่งตัว Sideways ถึง Sideways down ภายหลัง จากที่ Fed Funds futures ล่าสุดบ่งชี้ว่า นักลงทุนได้เพิ่มน้ำหนักความน่าจะเป็นของการขึ้นดอกเบี้ย Fed ในเดือนพ.ค.ขึ้นมาเป็น 90% แล้ว สูงที่สุดของรอบนี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่เงิน USD และ Bond yield สหรัฐฯ ยังคงเดินหน้าทําจุดสูงสุดใหม่ของรอบอย่างต่อเนื่อง และท่าให้เงินบาท ของเราเดินหน้าอ่อนค่าท่าจุดต่าสุดใหม่ด้วยเช่นกัน มองไม่เป็นผลดีมาก นัก ในแง่ของ Fund flow แต่จะกลายมาเป็น Sentiment เชิงบวกทางอ้อม ต่อกลุ่มหุ้นส่งออกของเราได้ ด้วยภาพการลงทุนในช่วงนี้น่าจะยังคงอึดอัด ในเชิงกลยุทธ์ เรายังคงแนะนํา Wait & See และรอการเข้าซื้อใหม่ในจุด ที่ได้เปรียบทาง Valuation นั่นก็คือระดับดัชนีที่ต่ํากว่า 1634 จุดในกรณี ฐานของเรา หรืออาจโฟกัสหุ้นบางตัวที่มีธีมเฉพาะตัวในระยะสั้น อย่างเช่น DTAC, SAWAD, SIRI (รายละเอียดด้านล่างนี้) • DTAC: หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว เราแนะนําให้เข้าเก็บสะสมหุ้น DTAC ก่อนขึ้นเครื่องหมาย XD เพื่อรับเงินปันผล ปรากฏว่าล่าสุดตัวหุ้นให้ปันผล ฟรีไปแล้ว และราคายังคงเดินหน้าขึ้นต่อให้ Capital gain อีก 2.5% WoW อย่างไรก็ดี สําหรับผู้ที่ยังไม่มีหุ้น เรามองว่ายังไม่สาย และมองว่าวันนี้จะ เป็นโอกาสสุดท้ายของสุดท้ายที่จะเข้าเก็บหุ้นตัวนี้อีกครั้ง ก่อนที่ตัว หุ้นจะหยุดูท่าการซื้อขายตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ. ไปจนถึงวันที่ 2 มี.ค. จากความมั่นใจ ว่าตลาดจะมีความคาดหวังเชิงบวกต่อการควบรวมกิจการ กันระหว่าง TRUE กับ DTAC ตามที่เราได้ออกบทวิเคราะห์ไปก่อนหน้านี้ ซึ่งน่าจะทําให้ราคาของหุ้นใหม่ที่จะเข้ามาซื้อขาย ส่งมอบผลตอบแทน ส่วนเกินได้อีกราว 5-10% เป็นอย่างน้อย
Index rebalancing: ส่วนทางด้านผลกระทบจากการควบรวมที่จะมีผล ต่อการเปลี่ยนแปลงของดัชนีต่างๆนั้น ในส่วนของดัชนีใหญ่อย่าง MSCI ที่มีหุ้น TRUE เป็นสมาชิกอยู่แล้ว คาดว่าหลังจากการแลกหุ้นเสร็จสิ้นจน ทําให้หุ้น TRUE ใหม่มีขนาด Market cap ใหญ่มากขึ้น น้ําหนักของตัวหุ้น ในดัชนีมีโอกาสที่จะถูกปรับขึ้นในช่วงถัดไปได้เช่นกัน ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง มองเป็น Upside risk ที่สําคัญในแง่ของเม็ดเงินต่างชาติที่อาจจะไหลเข้า ได้อีก ส่วนในรายของดัชนีบ้านเรานั้น เนื่องจาก TRUE และ DTAC เป็นสมาชิกของดัชนีใหญ่อย่าง SET50 และ SET100 ทั้งคู่อยู่แล้ว การควบ รวมกันเหลือเพียง 1 บริษัทจะทําให้ตลาดฯต้องมีการนําเข้าหุ้นใหม่ในดัชนี อย่างละ 1 ตัว ซึ่งจากการตรวจสอบขนาด Market cap ของรายชื่อ หลักทรัพย์สํารองล่าสุด จะพบว่าตัวหุ้นที่มีโอกาสถูกนําเข้าในดัชนี SET50 และ SET100 จะเป็นรายชื่อตามเดิมซึ่งได้แก่ SAWAD และ SIRI ตามลําาดับ มองเป็นอีกกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจสําหรับการเก็งกําไรในช่วง 1-2 สัปดาห์ข้างหน้านี้
บทวิเคราะห์วันนี้
แนวรับ 1,644 แนวต้าน 1,667
• BVG (ชื่อ ราคาเป้าหมาย 5.70 บาท) ผู้นํา InsurTech ในไทย เตรียมขยายธุรกิจไปอาเชียน
• PTT (BK:PTT) (ซื้อเก็งกําไร ราคาเป้าหมาย 36.50 บาท) กําไรสุทธิ 4Q22 ฟื้น 101% QoQ อานิงสงสต้นทุน Gas ลดลง คาดแนวโน้ม 1Q23 ยังจะดีขึ้น QoQ ต่อ
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities