Economic Highlight
ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ผลการประชุมของบรรดาธนาคารกลางหลัก อาทิ เฟด, ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) และ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) นอกจากนี้ ตลาดจะรอจับตารายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ รวมถึง รายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน อาทิ Amazon, Apple (NASDAQ:AAPL), Alphabet เป็นต้น ซึ่งอาจส่งผลต่อบรรยากาศในตลาดการเงินได้
FX Highlight
-
เงินบาทมีโอกาสทยอยแข็งค่าขึ้นได้บ้าง หากเฟดขึ้นดอกเบี้ยเพียง +25bps ตามคาด ขณะที่บรรดาธนาคารกลางหลักอื่นๆ ต่างขึ้นดอกเบี้ย +50bps
-
อย่างไรก็ดี ควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้ผลการประชุมเฟดและถ้อยแถลงของประธานเฟดในช่วง Press Conference โดยเงินดอลลาร์อาจรีบาวด์ขึ้นได้บ้าง หรือ ตลาดการเงินอาจปิดรับความเสี่ยง หากประธานเฟดย้ำจุดยืนเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง หรือ แสดงความกังวลต่อแนวโน้มเงินเฟ้อมากกว่าคาด
-
นอกจากนี้ แรงขายบอนด์ระยะสั้นหลัง กนง. ส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง ก็อาจเป็นปัจจัยกดดันเงินบาทได้บ้างเช่นกัน
-
ส่วนฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติในตลาดหุ้นไทยก็อาจไม่ได้เป็นฝั่งซื้อสุทธิมากนัก เราประเมินว่า นักลงทุนต่างชาติอาจยังไม่รีบกลับเข้าซื้อหุ้นไทยมากนัก โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ ซึ่งภาพเทคนิคัลและ Market Breadth ของหุ้นใหญ่ (ดัชนี SET50) ดูไม่สดใส เมื่อเทียบกับหุ้นขนาดเล็กและกลาง
-
ทั้งนี้ ควรติดตามรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนทั้งในไทยและต่างประเทศ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อบรรยากาศในตลาดการเงิน อาทิ ตลาดอาจปิดรับความเสี่ยง (Risk-Off) หากรายงานผลประกอบการส่วนใหญ่ออกมาแย่กว่าคาด
-
ในเชิงเทคนิคัล ทั้งสัญญาณจาก RSI และ MACD อาจยังคงชี้ว่า เงินบาทมีแนวโน้มแกว่งตัว sideways ในระยะสั้น โดยล่าสุด เกิดสัญญาณ MACD Cross-over ส่วน RSI ก็ทยอยปรับตัวสูงขึ้น ทำให้เราคงเชื่อใน มุมมองเดิมของเราตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม ซึ่งเราได้ประเมินจุดต่ำสุดของเงินบาทในระยะสั้นแถว 32.50 บาทต่อดอลลาร์
Gold Highlight
-
ราคาทองคำมีแนวโน้มเคลื่อนไหว Sideways Up โดยมีโอกาสเผชิญแรงขายทำกำไรมากขึ้นได้ หากราคาปรับตัวใกล้โซนแนวต้าน
-
อนึ่ง ราคาอาจพอได้แรงหนุน หากบรรยากาศในตลาดการเงินโดยรวมไม่กล้าเปิดรับความเสี่ยง หรือเฟดเริ่มส่งสัญญาณพร้อมชะลอการขึ้นดอกเบี้ย สวนทางกับแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางหลักอื่นๆ
-
นอกเหนือจากปัจจัยดังกล่าว ผู้เล่นในตลาดอาจรอจับตารายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน ซึ่งมีโอกาสกระทบต่อบรรยากาศในตลาดการเงินได้
-
ในเชิงเทคนิคัล ทองคำยังมีโอกาสเผชิญแรงขายทำกำไร และแกว่งตัว sideways โดย RSI เริ่มปรับตัวลดลง ขณะเดียวกัน MACD ก็อาจเสี่ยงเกิดภาพ Cross-Over (Sell signal)
-
เราคงมุมมองเดิมว่า หากราคาทองคำย่อตัว ก็อาจเป็นการพักฐาน เพื่อปรับตัวขึ้นต่อ โดยมีเป้าราคาทองคำในปีนี้ที่ระดับ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งผู้เล่นในตลาดอาจรอจังหวะ Buy on Dip ใกล้โซนแนวรับ
Economics Highlight