ตลาดจะรอติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผ่านรายงานเงินเฟ้อ PCE, GDP ไตรมาสที่ 4 และดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการ ส่วนในฝั่งยุโรป ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น รายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการของยูโรโซน สำหรับในฝั่งไทย ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และนอกเหนือจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าว รายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน อาทิ Microsoft, ASML, Tesla (NASDAQ:TSLA), Chevron ก็อาจส่งผลต่อบรรยากาศในตลาดการเงินได้เช่นกัน
FX Highlight
-
เงินบาทมีโอกาสทยอยแข็งค่าขึ้นทดสอบโซนแนวรับได้ หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาแย่กว่าคาด ในขณะที่รายงานข้อมูลเศรษฐกิจในฝั่งยุโรปออกมาดีกว่าคาด กดดันให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง
-
แม้เงินบาทอาจแข็งค่าขึ้น แต่จะเริ่มเห็นว่า การแข็งค่าของเงินบาทเริ่มชะลอลง สอดคล้องกับภาพการทยอยขายทำกำไรของนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะการขายบอนด์ระยะสั้น ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นการขายทำกำไร Short USDTHB
-
ควรติดตามรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนทั้งในไทยและต่างประเทศ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อบรรยากาศในตลาดการเงิน อาทิ ตลาดอาจปิดรับความเสี่ยง (Risk-Off) หากรายงานผลประกอบการส่วนใหญ่ออกมาแย่กว่าคาด
-
ทั้งนี้ ควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานเงินเฟ้อ PCE ของสหรัฐฯ โดยต้องระวังในกรณีที่อัตราเงินเฟ้อ PCE ไม่ได้ชะลอลงมากอย่างที่ตลาดคาด เพราะปัจจุบัน ตลาดได้รับรู้มุมมองเฟดชะลอการขึ้นดอกเบี้ย ตามการชะลอตัวต่อเนื่องของเงินเฟ้อ ไปมากแล้ว
-
ในเชิงเทคนิคัล ทั้งสัญญาณจาก RSI และ MACD อาจยังคงชี้ว่า เงินบาทมีแนวโน้มแกว่งตัว sideways ในระยะสั้น อนึ่ง RSI อาจเกิดภาพ Bullish Divergence ได้ หาก RSI ไม่ได้ย่อตัวลง แม้ว่า เงินบาทจะแข็งค่าทดสอบแนวรับสำคัญ
Gold Highlight
-
ราคาทองคำมีแนวโน้มเคลื่อนไหว Sideways Up โดยมีโอกาสเผชิญแรงขายทำกำไรมากขึ้นได้ หากราคาปรับตัวใกล้โซนแนวต้าน
-
อนึ่ง ราคาอาจพอได้แรงหนุน หากบรรยากาศในตลาดการเงินโดยรวมไม่กล้าเปิดรับความเสี่ยง หรือรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาแย่กว่าคาด เพิ่มความมั่นใจให้กับผู้เล่นในตลาดต่อมุมมองเฟดชะลอการขึ้นดอกเบี้ย
-
นอกเหนือจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ควรติดตามประเด็นการขยายเพดานหนี้สหรัฐฯ โดยในอดีตที่ผ่านมา ราคาทองคำมักจะปรับตัวขึ้นได้ ในช่วงที่ตลาดกังวลปัญหาเพดานหนี้สหรัฐฯ (ความกังวลอาจพุ่งสูงขึ้นมากในช่วงใกล้เส้นตายต้นเดือนมิถุนายน)
-
ในเชิงเทคนิคัล ทองคำยังมีโอกาสเผชิญแรงขายทำกำไรใกล้แนวต้านของ Fibonacci Retracement อีกทั้ง RSI ที่ยังคงอยู่ในโซน Overbought ก็เสี่ยงที่จะเกิดภาพ Bearish Divergence ได้
-
เราคงมุมมองเดิมว่า หากราคาทองคำย่อตัว ก็อาจเป็นการพักฐาน เพื่อปรับตัวขึ้นต่อ โดยมีเป้าราคาทองคำในปีนี้ที่ระดับ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งผู้เล่นในตลาดอาจรอจังหวะ Buy on Dip ใกล้โซนแนวรับ
FX Highlight
-
เงินบาทมีโอกาสทยอยแข็งค่าขึ้นทดสอบโซนแนวรับได้ หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาแย่กว่าคาด ในขณะที่รายงานข้อมูลเศรษฐกิจในฝั่งยุโรปออกมาดีกว่าคาด กดดันให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง
-
แม้เงินบาทอาจแข็งค่าขึ้น แต่จะเริ่มเห็นว่า การแข็งค่าของเงินบาทเริ่มชะลอลง สอดคล้องกับภาพการทยอยขายทำกำไรของนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะการขายบอนด์ระยะสั้น ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นการขายทำกำไร Short USDTHB
-
ควรติดตามรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนทั้งในไทยและต่างประเทศ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อบรรยากาศในตลาดการเงิน อาทิ ตลาดอาจปิดรับความเสี่ยง (Risk-Off) หากรายงานผลประกอบการส่วนใหญ่ออกมาแย่กว่าคาด
-
ทั้งนี้ ควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานเงินเฟ้อ PCE ของสหรัฐฯ โดยต้องระวังในกรณีที่อัตราเงินเฟ้อ PCE ไม่ได้ชะลอลงมากอย่างที่ตลาดคาด เพราะปัจจุบัน ตลาดได้รับรู้มุมมองเฟดชะลอการขึ้นดอกเบี้ย ตามการชะลอตัวต่อเนื่องของเงินเฟ้อ ไปมากแล้ว
-
ในเชิงเทคนิคัล ทั้งสัญญาณจาก RSI และ MACD อาจยังคงชี้ว่า เงินบาทมีแนวโน้มแกว่งตัว sideways ในระยะสั้น อนึ่ง RSI อาจเกิดภาพ Bullish Divergence ได้ หาก RSI ไม่ได้ย่อตัวลง แม้ว่า เงินบาทจะแข็งค่าทดสอบแนวรับสำคัญ
Gold Highlight
-
ราคาทองคำมีแนวโน้มเคลื่อนไหว Sideways Up โดยมีโอกาสเผชิญแรงขายทำกำไรมากขึ้นได้ หากราคาปรับตัวใกล้โซนแนวต้าน
-
อนึ่ง ราคาอาจพอได้แรงหนุน หากบรรยากาศในตลาดการเงินโดยรวมไม่กล้าเปิดรับความเสี่ยง หรือรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาแย่กว่าคาด เพิ่มความมั่นใจให้กับผู้เล่นในตลาดต่อมุมมองเฟดชะลอการขึ้นดอกเบี้ย
-
นอกเหนือจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ควรติดตามประเด็นการขยายเพดานหนี้สหรัฐฯ โดยในอดีตที่ผ่านมา ราคาทองคำมักจะปรับตัวขึ้นได้ ในช่วงที่ตลาดกังวลปัญหาเพดานหนี้สหรัฐฯ (ความกังวลอาจพุ่งสูงขึ้นมากในช่วงใกล้เส้นตายต้นเดือนมิถุนายน)
-
ในเชิงเทคนิคัล ทองคำยังมีโอกาสเผชิญแรงขายทำกำไรใกล้แนวต้านของ Fibonacci Retracement อีกทั้ง RSI ที่ยังคงอยู่ในโซน Overbought ก็เสี่ยงที่จะเกิดภาพ Bearish Divergence ได้
-
เราคงมุมมองเดิมว่า หากราคาทองคำย่อตัว ก็อาจเป็นการพักฐาน เพื่อปรับตัวขึ้นต่อ โดยมีเป้าราคาทองคำในปีนี้ที่ระดับ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งผู้เล่นในตลาดอาจรอจังหวะ Buy on Dip ใกล้โซนแนวรับ