SET: ตลาดหุ้นไทยนั้นระยะสั้นยังคงดูแข็งแกร่ง แม้ว่าเมื่อวานนี้จะปรับตัว ลง แต่เป็นผลกระทบจากหุ้น DELTA และกลุ่ม Oil & Gasเท่านั้น แถมล่าสุดเงินบาทยังปรับตัวแข็งค่าทําสถิติใหม่ของรอบที่ 34.0 บาท/ จากยอดการซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติในตลาดตราสารหนี้ เป็นสําคัญ ถือเป็นสกุลเงินในเอเชียที่แข็งค่ามากที่สุดในปีนี้ แต่ในทาง กลับกัน จะยิ่งทําให้ภาคการส่งออกของไทยเผชิญความท้าทายที่มากขึ้น
• ส่วนในวันนี้คาดว่าการปรับตัวจะผสมผสาน โดยกลุ่มหุ้น Domestic และ Tourism-related น่าจะ Outperform ตลาดต่อไป ส่วนกลุ่ม Oil & Gas อาจย่อลงต่อจากราคาน้ํามันดิบที่ลงต่อเมื่อคืนนี้ มองปัจจัยดังกล่าวเป็น ปัจจัยบวกต่อกลุ่ม Anti-Commodity ซึ่ง Top pick ของเราในกลุ่มนี้ ยังคงได้แก่ GPSC นอกจากนั้น เริ่มเห็นแรงซื้อเข้ามาในหุ้นปันผลขนาด ใหญ่อย่างเช่นกลุ่มสื่อสาร วัสดุก่อสร้าง และธนาคาร ซึ่งกลุ่มหุ้น High dividend นี้ เรายังคงมองเป็นธีมที่ปลอดภัยมากๆสําหรับการลงทุนในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ โดยมี Top pick ของเรา 3 ตัวในกลุ่มได้แก่ ADVANC, SCC, TISCO
Strategy & Picks: ในเชิงกลยุทธ์ สามารถถือครองหุ้นเพื่อ Let profit run สําหรับผู้ที่เข้าสะสมไปก่อนหน้านี้ที่บริเวณดัชนี SET ต่ํากว่า 1640 จุด โดยหุ้น Top pick ที่ยังคงแนะนําถือครองได้แก่ GLOBAL, PLANB, SC, STEC, กลุ่ม PF&REIT, GPSC, JMT, ADVANC, SCC, TISCO
Factors: สําหรับปัจจัยวันนี้ แนะน่าติดตามรายงานตัวเลขเงินเฟ้อของ ไทยประจําเดือนธ.ค. ล่าสุดตลาดคาดขยายตัว 5.9% และ 3.3% สําหรับ Headline และ Core CPI ตามลําดับ มองเช่นเดิมว่าหากตัวเลขจริงออกมา ใกล้เคียงหรือสูงกว่าตลาดคาด จะเป็นการเพิ่มน้ําหนักต่อการขึ้นดอกเบี้ย ของกนง.อีก 0.25% ในการประชุมวันที่ 25 ม.ค. นี้ นอกจากนั้น ติดตาม การประชุมร่วมระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวฯ สาธารณสุข และคมนาคมเพื่อเตรียมการรับมือกับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่จะเดินทางเข้ามาในช่วง ถัดไป หากไม่มีการกําหนดกฎระเบียบขั้นตอนการเดินทาง/ตรวจเชื่อ Covid ที่ยุ่งยากมากนัก คาดจะเป็นปัจจัยบวกโดยรวมต่อกลุ่ม Tourism-related ในบ้านเราต่อไปได้ เลือกกลุ่ม PF&REIT เป็น Top play สําหรับธีมนี้
• FOMC Minutes: รายงานการประชุม Fed ที่ออกมาเมื่อคืนนี้ไม่มีอะไรน่า ประหลาดใจมากนัก โดยแผนการของ Fed ยังคงเป็นลักษณะ Higher for longer เหมือนเดิม โดยจะยังคงดอกเบี้ยในระดับสูงจนกว่าเงินเฟ้อสหรัฐฯ จะลงมาเข้าใกล้กรอบเป้าหมายที่ 2.0% ที่สําคัญไม่มีกรรมการคนไหน มองเห็นการปรับลดดอกเบี้ยในปี 2023 นี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราประเมินไว้ว่าจะ กลายมาเป็นความเสี่ยงกดดันตลาดหุ้นในช่วง 2Q-3Q จากความพลาดหวัง ทางด้านนโยบายที่ตลาดคาดหวังไว้สูงนั่นเอง
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities