สรุป ราคาทองคําวานนี้ปิดทะยานขึ้น 30.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคําปรับตัวขึ้นแรงตามค่าเงินเยนที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนที่ 130.58 เมื่อเทียบกับดอลลาร์ และเป็น การพุ่งขึ้นในวันเดียวที่มากที่สุดในรอบ 24 ปี หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOI) สร้างความประหลาดใจให้กับตลาด ด้วยปรับแผนการควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทน (yield curve control policy) ด้วยการขยายกรอบบนของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของรัฐบาลญี่ปุ่นให้เคลื่อนไหวในช่วง -0.5% ถึง +0.5% จากเดิมที่อยู่ในกรอบ -0.25% ถึง +0.25% สถานการณ์ ดังกล่าว กดดันดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.66% จนเป็นปัจจัยหลักที่หนุนให้ราคาทองคําทะยานขึ้นแรงจากระดับต่ําสุดในระหว่างวันที่ 1,783.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ประกอบกับราคาทองคําได้รับ แรงหนุนจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่าการอนุญาตก่อสร้างบ้านดิ่งลง 11.2% สู่ระดับ 1.342 ล้านยูนิตในเดือนพ.ย. ต่ํากว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.48 ล้านยูนิต สะท้อนการ ชะลอตัวของภาคอสังหาของสหรัฐซึ่งเป็นปัจจัยกดดันดอลลาร์เพิ่มเติม ปัจจัยที่กล่าวมาหนุนให้ราคาทองทําทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งจนทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,820.73 ดอลลาร์ต่อ ออนซ์ ถึงแม้จะเผชิญกับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของรัฐบาลสหรัฐที่พุ่งสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดในเดือนนี้ที่ 3.711% ตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของญี่ปุ่น ก็ตาม ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคําเพิ่ม +1.74 ตัน สําหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก CB และยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐ
หากราคาสามารถรักษาระดับได้ ราคาอาจขยับขึ้นช่วงสั้น หรือมีลุ้นที่ราคาจะดีดขึ้นทดสอบแนว ต้านโซนที่ 1,824-1,830 ดอลลาร์ต่อออนซ์แต่หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านได้อาจทำให้เกิดแรงขายทำกำไรออกมาสลับออกมาเพิ่ม และอาจทำให้ราคาปรับตัวลงทดสอบแนวรับ ที่ 1,803-1,785 ดอลลาร์ต่อออนซ์
คําแนะน่า เปิดสถานะขาย $1,824-1,830
จุดทํากําไร ซื้อคืนเพื่อทํากําไร $1,803-1,785
ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสถานะขายหากผ่าน $1,830
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th