รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

อัตราเงินเฟ้อที่กำลังคุกคามความน่าเชื่อถือของเฟด

เผยแพร่ 08/12/2565 10:35
อัพเดท 09/07/2566 17:31

Investing.com -- อัตราเงินเฟ้อ ดูเหมือนจะพลิกผันและตลาดกำลังเริ่มพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่นโยบายการเงินที่เข้มงวดของธนาคารกลางสหรัฐฯ จะเริ่มผ่อนปรนในไม่ช้า แต่คำถามที่สำคัญเกี่ยวกับความรวดเร็วของแรงกดดันด้านอัตราเงินเฟ้อที่อ่อนตัวลงทำให้เกิดความไม่แน่นอนที่ต้องไตร่ตรอง

สำหรับสถานการณ์ที่ดีที่สุด อาจหมายความได้ว่าแรงกดดันด้านราคาจะถอยลงอย่างรวดเร็วจากระดับสูงสุดล่าสุด แต่ไม่มีใครคิดว่านี่จะเป็นไปได้ แต่ก็ยังเร็วเกินไปที่จะสันนิษฐานว่ารายงานอัตราเงินเฟ้อที่จะเปิดเผยนั้นจะทำให้เห็นถึงการลดลงอย่างมั่นคง

สำหรับมุมมองอื่น อัตราเงินเฟ้อของผู้บริโภคสหรัฐยังคงสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของเฟดเมื่อเทียบเป็นรายปีจนถึงเดือนตุลาคม แม้ว่าแนวโน้มจะมีแววปรับลดลงเล็กน้อย แต่อัตราเงินเฟ้อ ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคสหรัฐฯ ซึ่งเป็นมาตรวัดแรงกดดันด้านราคาที่เฟดต้องการยังคงดูคงที่ที่ระดับประมาณ 5%

Core, Headline PCE

ความสงสัยคือ อะไรที่จะโน้มน้าวให้เฟดหยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ยชั่วคราว? ซึ่งนำไปสู่คำถามต่อไปว่า ข่าวตัวเลขอัตราเงินเฟ้อต้อง “ดี” ระดับไหนที่จะสามารถลดอัตราดอกเบี้ยได้ แม้ว่าจะยังคงมีการเก็งกำไรและจำลองสถานการณ์ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเส้นทางข้างหน้ายังคงมีความไม่แน่นอนสูง และเมื่อถึงจุดหนึ่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะสิ้นสุดลง นักลงทุนจะพิจารณาถึงสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทนเพราะความน่าเชื่อถือของเฟดอยู่ในระดับที่เห็นได้ครั้งสุดท้ายในช่วงปลายทศวรรษ 1970 และ 1980

อัตราเงินเฟ้อเหมือนบททดสอบความน่าเชื่อถือของเฟด และเมื่ออัตราเงินเฟ้อเริ่มอ่อนตัวลงก็แสดงให้เห็นว่าเฟดยังคงมีความสามารถ พูดสั้นๆ ว่า พอล โวคเคอร์ ได้ทำลายกลไกอัตราเงินเฟ้อเมื่อครั้งยังดำรงตำแหน่ง ส่งผลให้เฟดในยุคปัจจุบันต้องการที่ดำเนินรอยตามอาจทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ผลลัพธ์นั้น ถ้าพูดให้ชัดเจนก็คือ การที่จะเอาชนะเงินเฟ้อได้นั้นคือการวางแผนที่ดี หากว่าเฟดจะจบเกมนี้ได้ก็ต้องทำให้ตลาดมั่นใจว่า เฟดสามารถควบคุมอัตราเงินเฟ้อได้อย่างอยู่หมัด แต่ในสถานการณ์ตอนนี้ดูเหมือนว่านโยบายการเงินที่เฟดดำเนินอยู่นั้นตีความได้ว่านโยบายกระชับการเงินนั้นอาจจะเข้มงวดมากเกินไป

แล้วอะไรที่จะบ่งบอกถึงสัญญาณที่ชัดเจนสำหรับเฟดนั้นอาจจะเป็นอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน PCE ที่คงอยู่ต่ำกว่า 4% เป็นเวลาหลายเดือนซึ่งเป็นการคาดเดาคร่าว ๆ และตัวเลขนั้นจะมาเร็วแค่ไหนนั้น ก็ไม่มีใครรู้ซึ่งรวมถึงเฟดด้วย สำหรับคำแนะนำ เราสามารถใช้การคาดการณ์ของเฟดได้ ในเดือนกันยายน ธนาคารกลางคาดการณ์ว่า PCE หลักจะอยู่ที่ 4.5% ในปี 2022 และลดลงเหลือ 3.1% ในปีหน้า และ 2.3% ในปี 2024 ให้เรา ลองใช้สถานการณ์นี้เพื่อวิเคราะห์และอภิปราย

รายงานอัตราเงินเฟ้อที่สำคัญฉบับต่อไปจะเปิดเผยในสัปดาห์หน้าพร้อมกับการประกาศรายงานดัชนีราคาผู้บริโภคสำหรับเดือนพฤศจิกายน (13 ธันวาคม) จุดข้อมูลสำคัญที่ต้องจับตามองคือ CPI พื้นฐาน ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องที่ระดับบวก 6% ในเดือนตุลาคม เทียบกับระดับเดียวกันของปีที่แล้ว

Core, Headline CPI

ในขณะเดียวกัน ฟิวเจอร์สของกองทุนเฟดยังคงกำหนดราคาโดยมีความเป็นไปได้สูง (77%) ของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยโดยเพิ่มขึ้น 50 จุดพื้นฐานในการประชุม FOMC ครั้งต่อไปในวันที่ 14 ธันวาคม ซึ่งในทางตรงกันข้าม โอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนั้นแทบจะไม่เห็นเลย

Aneta Markowska นักเศรษฐศาสตร์ของ Jefferies คาดการณ์ว่า

“ฉันไม่คิดว่าเฟดจะสบายใจที่จะลดอัตราดอกเบี้ยจนกว่าการว่างงานจะเข้าใกล้ 5% หรืออัตราเงินเฟ้อลดลงอย่างมากที่ 3% โดยที่เงื่อนไขเหล่านั้นไม่น่าเป็นไปได้จนถึงปี 2024”

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าตลาดกระทรวงการคลังกำลังพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะหยุดชั่วคราวในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นหลังจากการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นตามที่คาดไว้ในวันที่ 14 ธ.ค. ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปี ซึ่งอ่อนไหวต่อนโยบาย เป็นตัวแทนในการทำนายอัตราเป้าหมายของกองทุนเฟดได้อยู่ในกรอบซื้อขายเมื่อเร็ว ๆ นี้ ซึ่งหมายความว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยใกล้เข้ามาแล้ว

2-Year Yield, Fed Funds Rate

มีเหตุผลที่จะสันนิษฐานว่าอุปสรรคทางเศรษฐกิจจะยังคงแข็งแกร่งขึ้นเนื่องจากผลกระทบของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะทวีความรุนแรงขึ้น อันที่จริงมีสัญญาณว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ไม่รุนแรงในสหรัฐฯ ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วตามที่ฉันได้วิเคราะห์เมื่อวานนี้ และจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้ออาจชะลอตัวลงอย่างรวดเร็วในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ชัดเจนคือเฟดให้ความสำคัญกับการเอาชนะอัตราเงินเฟ้ออย่างชัดเจน ความท้าทายคือการตัดสินใจว่าชัยชนะดังกล่าวจะเป็นไปได้เร็วเพียงใด และราคาสำหรับชัยชนะจะสูงเพียงใด

สถานการณ์ที่ดีที่สุดอาจกำลังก่อตัวขึ้น… เว้นแต่ว่าจะไม่เป็นเช่นนั้น Larry Summers อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลังบอกกับบลูมเบิร์กเมื่อวันศุกร์

“ผมสงสัยว่า [ผู้กำหนดนโยบายของเฟดกำลัง] จะต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าที่ตลาดกำลังตัดสินหรือมากกว่าที่พวกเขากำลังพูดอยู่ ความรู้สึกของผมคืออัตราเงินเฟ้อจะอยู่นานกว่าที่ผู้คนคาดการณ์ไว้”

หากเป็นเช่นนั้น ความเสี่ยงด้านความน่าเชื่อถือจะยังคงอยู่และเป็นจุดสนใจในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย