สรุป ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง -14.06 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ระหว่างวันราคาทองคําจะฟื้นตัวขึ้นทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,763.64 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ดี ราคาทองคําไม่สามาระรักษาช่วงบวกไว้ได้ โดยกลับมาได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดัชนีดอลลาร์ ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้นขานรับความเห็นในเชิง Hawkish จากเจ้าหน้าที่ธนาคาร กลางสหรัฐ (เฟด) ได้แก่ นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดเซนต์หลุยส์ ที่กล่าวในวันจันทร์ว่า เฟดจําเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเล็กน้อย และ “คง” อัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับดังกล่าว "ตลอดปีหน้าและในปี 2024" เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อและทําให้เงินเฟ้อกลับมาสู่เป้าหมายที่ 2% ขณะที่นายโธมัส บาร์กิน ประธานเฟดริชมอนด์ ระบุว่าแม้จะสนับสนุนการปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ยในอัตราที่ลดลง (Slower) แต่ระบุว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจนานขึ้น (Longer และดอกเบี้ยอาจสูงขึ้น (Higher) เพื่อลดอัตราเงินเฟ้อ และเฟตจําเป็นต้องแน่ใจว่าจะไม่ หยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไป และควรงดเว้นการส่งสัญญาณการผ่อนคลายนโยบายการเงินจนกว่าจะแน่ใจว่าอัตราเงินเฟ้ออยู่ภายใต้การควบคุม ถ้อยแถลงดังกล่าวสะท้อนมุมมอง ในเชิงสนับสนุนการเดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยไม่เร่งรีบผ่อนคลายนโยบายการเงิน ปัจจัยที่กล่าวมา กดดันให้ราคาทองคําร่วงลงจากระดับสูงสุดในระหว่างวัน สู่ระดับต่ําสุดบริเวณ 1,738.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองค่าลดลง -0.87 ตัน สําหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐจาก CB
ราคาสามารถรักษาระดับได้แต่เมื่อราคาปรับตัวขึ้นมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาเพิ่มขึ้น ระยะสั้นราคาทองคำยังมีลุ้นดีดขึ้นทดสอบแนวต้าน แต่หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านที่ 1,756-1,765 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ทำให้เกิดแรงขายทำกำไรออกมาสลับออกมาและอาจทำให้ราคาปรับตัวลงทดสอบ แนวรับที่ 1,729-1,711 ดอลลาร์ต่อออนซ์
คําแนะนํา เปิดสถานะขาย $1,756-1,765
จุดทํากําไร ซื้อคืนเพื่อทํากําไร $1,729-1,711
ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสถานะขายหากผ่าน $1,765
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th