รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

ตลาดหุ้นเอเชียร่วงลงอย่างหนักในวันนี้ จากความกังวลที่เฟดจะเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย

เผยแพร่ 14/09/2565 18:40
อัพเดท 09/07/2566 17:32

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดร่วงลงในวันนี้ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐที่ปิดดิ่งลงกว่า 1,200 จุดในวันอังคาร (13 ก.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยเงินเฟ้อพุ่งขึ้นสูงเกินคาด

ทั้งนี้ ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 28,132.70 จุด ร่วงลง 481.93 จุด หรือ -1.68%

หุ้นที่ปรับตัวลงในช่วงเช้านี้นำโดยกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า, กลุ่มผลิตภัณฑ์โลหะ และกลุ่มเครื่องมือชั่งตวงวัด

ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดร่วงลงในวันนี้ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดดิ่งลงในวันอังคาร (13 ก.ย.) หลังได้รับแรงกดดันจากตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนส.ค.ที่สูงเหนือความคาดหมายของสหรัฐ ทำให้นักลงทุนวิตกว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่

ทั้งนี้ ดัชนีฮั่งเส็งเปิดที่ 18,933.30 จุด ร่วงลง 393.56 จุด หรือ -2.04%

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดในแดนลบตามทิศทางตลาดหุ้นเอเชียที่เปิดตลาดร่วงลงตามกันในวันนี้ โดยถูกกดดันจากการที่ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐปิดร่วงลงอย่างรุนแรงในวันอังคาร (13 ก.ย.) หลังตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนส.ค.ของสหรัฐสูงเหนือความคาดหมาย ทำให้นักลงทุนวิตกว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่

ทั้งนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดที่ 3,224.68 จุด ร่วงลง 39.12 จุด หรือ -1.20%

จีนรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ต่ำกว่า 1,000 รายติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ขณะที่ทางการจีนยังคงเดินหน้าใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Zero-COVID) ก่อนการประชุมสมัชชาใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในเดือนหน้า

จีนพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 958 รายในวันอังคาร (13 ก.ย.) หลังพบ 915 รายในวันจันทร์ (12 ก.ย.) โดยรวมถึง 18 รายในกรุงปักกิ่ง ซึ่งพบการแพร่ระบาดมากขึ้นในวิทยาลัยและโรงเรียนมัธยมในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยผู้ติดเชื้อในกรุงปักกิ่งทั้งหมดได้ถูกแยกกักตัวแล้ว

ทั้งนี้ ยอดผู้ติดเชื้อโควิดรายวันทั่วประเทศปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง จากระดับสูงสุดเมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ 3,424 ราย

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ทางการจีนได้คุมเข้มมาตรการสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณรอบกรุงปักกิ่งก่อนการประชุมผู้นำระดับสูงของจีน โดยพื้นที่ใกล้กรุงปักกิ่งเผชิญกับมาตรการล็อกดาวน์ การตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เข้มงวดขึ้น ตลอดจนการคุมเข้มการเดินทางภายในประเทศในช่วงเดือนหน้า

พื้นที่ประมาณครึ่งหนึ่งของกรุงปักกิ่งซึ่งมีประชากร 21 ล้านคนนั้น ได้เริ่มอนุญาตให้ผู้อยู่อาศัยเดินทางออกจากบ้านหรือบริเวณที่อยู่อาศัยแล้ว อย่างไรก็ตาม ธุรกิจที่ไม่มีความจำเป็นส่วนใหญ่รวมถึงสถานบันเทิงและโรงเรียนยังคงปิดทำการ ส่วนเขตที่มีประชากรอาศัยมากที่สุดอย่างน้อย 7 เขตนั้นยังคงถูกล็อกดาวน์ต่อไป

พายุไต้ฝุ่น "หมุ่ยฟ้า" ทวีกำลังแรงขึ้นหลังเคลื่อนตัวมายังทะเลจีนตะวันออกวันนี้ (14 ก.ย.) ส่งผลให้เที่ยวบินขาออกจากเมืองเซี่ยงไฮ้หลายร้อยเที่ยวถูกยกเลิก และส่งผลกระทบต่อท่าเรือที่เมืองหนิงโบและเมืองโจวซานใช้ร่วมกัน

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติจีน (CMA) เปิดเผยว่า ขณะนี้มณฑลเจ้อเจียงได้ประกาศยกระดับมาตรการรับมือพายุฉุกเฉินขึ้นสู่ระดับสูงสุด หลังพายุไต้ฝุ่นหมุ่ยฟ้าซึ่งคาดว่าจะเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็วลม 20-25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (12-15 ไมล์ต่อชั่วโมง) ทวีกำลังแรงขึ้นและเคลื่อนตัวมายังบริเวณชายฝั่งทางใต้ของโจวซาน

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า พายุไต้ฝุ่น "หมุ่ยฟ้า" เป็นพายุลูกที่ 12 ของจีนในปีนี้ ซึ่งทาง CMA คาดว่าจะขึ้นฝั่งในช่วงบ่ายหรือคืนวันพุธ (14 ก.ย.) และมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดน้ำท่วมในบริเวณแม่น้ำขนาดเล็กและขนาดกลางในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเจ้อเจียง และน้ำท่วมขังในภาคตะวันออกและตอนเหนือของเจ้อเจียง เซี่ยงไฮ้ พื้นที่ทางใต้ของมณฑลเจียงซูและพื้นที่อื่นๆ

ขณะเดียวกัน เซี่ยงไฮ้ได้ออกประกาศเตือนประชาชนเกี่ยวกับลมกรรโชกแรงและฝนตกหนัก ซึ่งคาดวาจะเกิดขึ้นจนถึงวันพฤหัสบดี

สื่อของทางการจีนรายงานว่า ขณะนี้ เที่ยวบินมากกว่าครึ่งของสนามบินเซี่ยงไฮ้ ผู่ตง และสนามบินหงเฉียวรวมกว่า 589 เที่ยวจะถูกปรับลดเที่ยวหรือยกเลิก เนื่องจากสภาพอากาศที่เลวร้าย

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เจ้อเจียงได้ประกาศระดับเตือนภัยสภาพอากาศสีแดง เนื่องจากอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบอย่างหนักในวันนี้ โดยเคลื่อนไหวตามการร่วงลงอย่างรุนแรงของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเมื่อวันอังคาร (13 ก.ย.) หลังได้รับแรงกดดันจากตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนส.ค.ที่สูงเหนือความคาดหมายของสหรัฐ ทำให้นักลงทุนวิตกว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 28,132.70 จุด ร่วงลง 481.93 จุด หรือ -1.68%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 18,933.30 จุด ลดลง 393.56 จุด หรือ -2.04% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,224.68 จุด ลดลง 39.12 จุด หรือ -1.20%

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปีของสหรัฐพุ่งแตะ 3.79% สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2550 ขณะที่ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วง 1,276.37 จุด หรือ 3.94% แตะที่ 31,104.97 ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลง 4.32% แตะที่ 3,932.69 และดัชนี Nasdaq Composite ลบ 5.16% ปิดที่ 11,633.57

ยอดคำสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานในญี่ปุ่นพุ่งขึ้น 5.3% ในเดือนก.ค.เมื่อเทียบรายเดือน สูงเหนือความคาดหมายที่การหดตัว 0.8% ในผลสำรวจที่จัดทำโดยสำนักข่าวรอยเตอร์ หลังปรับตัวขึ้น 0.9% ในเดือนมิ.ย.

เมื่อเทียบกับเดือนก.ค. 2564 ยอดคำสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานปรับตัวขึ้นกว่า 12% สูงเหนือการคาดการณ์ที่การเติบโต 6.6%

นางเคธี วูด ซีอีโอของบริษัท Ark Investment Management ได้แสดงความกังวลว่า การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อฉุดเงินเฟ้อให้ต่ำลงนั้น อาจเป็นการดำเนินการที่ผิดพลาด พร้อมกับกล่าวว่า เธอมีความกังวลมากขึ้นว่าสหรัฐอาจเผชิญกับภาวะเงินฝืด

ดัชนีหลักทั้ง 3 ตัวของตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งลงเป็นเปอร์เซ็นต์ในวันเดียวรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2563 หลังสหรัฐเปิดเผย ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พุ่งขึ้น 8.3% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.1% โดยขณะนี้ตลาดคาดการณ์ว่า มีโอกาส 100% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมเดือนนี้ และมีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงถึง 1.00% ในการประชุมครั้งนี้

อย่างไรก็ดี นางวูดกล่าวว่า การร่วงลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์และอัตราค่าระวางเรือ รวมทั้งราคาทองคำที่เริ่มมีเสถียรภาพ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้บ่งชี้ว่า ปัญหาห่วงโซ่อุปทานซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ตัวเลขเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นั้น กำลังบรรเทาลง ขณะเดียวกันเธอกล่าวว่า การที่เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะถดถอยก็จะทำให้แรงกดดันด้านเงินเฟ้อลดน้อยลงด้วย

"ด้วยเหตุผลดังกล่าวนั้น หากเฟดยังคงเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก ก็ถือเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าการดำเนินนโยบายการเงินของเฟดกำลังมาผิดทาง" นางวูดกล่าว

นอกจากนี้ นางวูดกล่าวว่า Ark ประมาณการว่ามูลค่าตลาดของหุ้นในกลุ่มนวัตกรรมทั่วโลกขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 8 ล้านล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 200 ล้านล้านดอลลาร์ภายใน 8-10 ปีข้างหน้า

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ราคาหุ้น ARK Innovation fund ร่วงลง 5.5% ในวันอังคาร (13 ก.ย.) ขณะที่ราคาหุ้นของบริษัทที่ Ark ถือหุ้นอยู่ ซึ่งรวมถึงหุ้นคอยน์เบส โกลบอล และหุ้นเทเลดอค เฮลธ์ อิงค์ ร่วงลงกว่า 6%

ขณะนี้ นักลงทุนบางส่วนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1% ในการประชุมเดือนก.ย. โดยข้อมูลจากการติดตามการคาดการณ์ดอกเบี้ย CME FedWatch ระบุว่า โอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 1% เพิ่มเป็น 33% จากเดิม 0% และโอกาสที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ลดลงแตะ 67% จาก 91% ในวันก่อนหน้า

ดัชนี Sensex ตลาดหุ้นอินเดียเปิดตลาดร่วงหนัก นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังสหรัฐเปิดเผยเงินเฟ้อพุ่งขึ้นสูงเกินคาด ส่งผลให้นักลงทุนวิตกว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจเดินหน้าเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เป็นครั้งที่ 3 ในสัปดาห์หน้า

ดัชนี Sensex ตลาดหุ้นอินเดียเปิดตลาดวันนี้ที่ 59,417.12 จุด ร่วงลง 1,153.96 จุด หรือ -1.91%

หุ้น Infosys ดิ่งลง -3.76%, หุ้น Tech Mahindra ร่วงลง -3.60% และหุ้น TCS ร่วง 3.16%

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดเช้าร่วงลงในวันนี้มากกว่า 2% ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐที่ปิดดิ่งลงกว่า 1,200 จุดในวันอังคาร (13 ก.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยเงินเฟ้อพุ่งสูงเกินคาด ส่งผลให้ตลาดวิตกว่าสหรัฐอาจเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าที่ระดับ 27,991.82 จุด ร่วงลง 622.81 จุด หรือ -2.18%

หุ้นที่ปรับตัวลงในช่วงเช้านี้นำโดยกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า, กลุ่มผลิตภัณฑ์โลหะ และกลุ่มผลิตภัณฑ์ยาง

ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรซึ่งเป็นมาตรวัดการลงทุนของภาคเอกชนของญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นในเดือนก.ค. ซึ่งเพิ่มความหวังว่าการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของภาคธุรกิจอาจช่วยชดเชยผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกและการอ่อนค่าของเงินเยน โดยที่ผ่านมานั้นเงินเยนที่อ่อนค่าส่งผลให้ต้นทุนการดำเนินงานของภาคธุรกิจญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้น

สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานซึ่งไม่รวมเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมต่อเรือและสาธารณูปโภคไฟฟ้า พุ่งขึ้น 5.3% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบเป็นรายเดือน

ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรเดือนก.ค.ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ว่าจะหดตัว 0.8% และดีกว่าในเดือนมิ.ย.ที่ขยับขึ้นเพียง 0.9%

ทั้งนี้ การพุ่งขึ้นของยอดสั่งซื้อเครื่องจักรอาจช่วยให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นว่า การลงทุนในภาคเอกชนจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศให้ฟื้นตัว

เมื่อแยกเป็นรายภาคส่วนพบว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรจากบริษัทในภาคการผลิตปรับตัวลง 5.4% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ขณะที่ยอดสั่งซื้อจากบริษัทในภาคบริการพุ่งขึ้น 15.1% โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจการขนส่งและไปรษณีย์

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงบริเวณกรอบกลาง 144 เยนในการซื้อขายที่ตลาดโตเกียวเช้านี้ หลังจากเจ้าหน้าที่คลังญี่ปุ่นออกมาเตือนว่าจะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อรับมือกับความผันผวนของเงินเยน

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ณ เที่ยงวันนี้ตามเวลาโตเกียวดอลลาร์เคลื่อนไหวที่ 144.38-144.39 เยน เทียบกับ 144.57-144.67 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และ 142.25-142.26 เยนที่ตลาดโตเกียวเมื่อเวลา 17.00 น.ของเมื่อวานนี้

ยูโรเคลื่อนไหวที่ 0.9984-0.9988 ดอลลาร์และ 144.15-144.22 เยน เทียบกับ 0.9963-0.9973 ดอลลาร์และ 144.09-144.19 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และ 1.0146-1.0148 ดอลลาร์และ 144.33-144.37 เยนที่ตลาดโตเกียวของเมื่อวานนี้

ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าปรับตัวลง ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดดิ่งลงในวันอังคาร (13 ก.ย.) หลังได้รับแรงกดดันจากตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนส.ค.ที่สูงเหนือความคาดหมายของสหรัฐ ทำให้นักลงทุนวิตกว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่

ดัชนีฮั่งเส็งปิดภาคเช้าที่ระดับ 18,834.63 จุด ลดลง 492.23 จุด หรือ -2.55%

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 8.3% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.1%

ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 6.3% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.1%

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าลบในวันนี้ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐที่ปิดดิ่งลงกว่า 1,200 จุดในวันอังคาร (13 ก.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยเงินเฟ้อพุ่งสูงเกินคาด ส่งผลให้ตลาดวิตกว่าสหรัฐอาจเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 27,991.82 จุด ร่วงลง 622.81 จุด หรือ -2.18%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 18,834.63 จุด ลดลง 492.23 จุด หรือ -2.55% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,230.49 จุด ลดลง 33.31 จุด หรือ -1.02%

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปีของสหรัฐพุ่งแตะ 3.79% สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2550 ขณะที่ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วง 1,276.37 จุด หรือ 3.94% แตะที่ 31,104.97 ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลง 4.32% แตะที่ 3,932.69 และดัชนี Nasdaq ลบ 5.16% ปิดที่ 11,633.57

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค เพิ่มขึ้น 8.3% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.1%

เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนส.ค. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าลดลง 0.1%

ขณะนี้ นักลงทุนบางส่วนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1% ในการประชุมเดือนก.ย. โดยข้อมูลจากการติดตามการคาดการณ์ดอกเบี้ย CME FedWatch ระบุว่า โอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 1% เพิ่มเป็น 33% จากเดิม 0% และโอกาสที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ลดลงแตะ 67% จาก 91% ในวันก่อนหน้า

"สืบเนื่องจากที่เราคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในเดือนก.ย.อย่างแน่นอน หลังการเปิดเผยตัวเลข CPI จึงไม่มีเหตุผลที่เฟดจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่อีกรอบ" นายเควิน คัมมินส์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของบริษัทแนตเวสต์ มาร์เก็ตส์กล่าว

"ขณะนี้เราคาดการณ์ว่าคณะกรรมการกำกับนโยบายการเงินเฟด (FOMC) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในเดือนพ.ย. เช่นเดียวกับในเดือนก.ค. จากการคาดการณ์เดิมที่ 0.25% และปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.50% ในเดือนธ.ค. สู่ระดับ 4.25% - 4.50% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์เดิมที่ 0.25%"

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลงเกือบ 3% ในวันนี้ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐที่ปิดดิ่งลงกว่า 1,200 จุดในวันอังคาร (13 ก.ย.) และยังถูกกดดันจากการที่เงินเยนฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ หลังจากรมว.คลังญี่ปุ่นออกมาเตือนว่าจะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อรับมือกับความผันผวนของค่าเงินเยน

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 27,818.62 จุด ร่วงลง 796.01 จุด หรือ -2.78%

หุ้นที่ปรับตัวลงในวันนี้นำโดยกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า, กลุ่มผลิตภัณฑ์ยาง และกลุ่มเครื่องมือชั่งตวงวัด

นายมาซาโตะ คันดะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังฝ่ายกิจการต่างประเทศของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า เขามีความวิตกเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยน และได้เตือนเกี่ยวกับการอ่อนค่าลงอย่างรุนแรงของเงินเยนเมื่อคืนนี้ (13 ก.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเกินคาด

นายคันดะกล่าวว่า "เรากำลังจับตาความเคลื่อนไหวของเงินเยนอย่างเร่งด่วน และเราจะดำเนินการอย่างเหมาะสมกับความเคลื่อนไหวของสกุลเงินโดยไม่ตัดทางเลือกใดๆ"

ดอลลาร์พุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับเยน รวมถึงสกุลเงินยูโรและสกุลเงินอื่น ๆ ในวันอังคาร (13 ก.ย.) หลังตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐที่สูงกว่าคาดบ่งชี้ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจยังคงจำเป็นจะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เงินเยนญี่ปุ่นอ่อนค่าลงแตะ 145 เยนเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดครั้งใหม่ในรอบ 24 ปี ทำให้มีความกังวลเกี่ยวกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น และกระตุ้นให้ผู้กำหนดนโยบายต้องพยายามจูงใจไม่ให้นักลงทุนเทขายเงินเยน

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากระบุว่า ผู้กำหนดนโยบายของญี่ปุ่นมีเครื่องมีที่มีประสิทธิภาพเพียงไม่กี่อย่างที่จะแก้ไขปัญหาการอ่อนค่าของเงินเยน ซึ่งถูกมองว่าเกิดจากนโยบายการเงินที่แตกต่างกันระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐ

ขณะที่เฟดใช้วิธีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อรับมือกับเงินเฟ้อ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กลับยังคงดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจที่เปราะบาง

สำนักข่าวเกียวโดรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้ดำเนินการตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Rate Check) ด้วยการสอบถามทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในตลาดปริวรรตเงินตราเกี่ยวกับการซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวถูกมองว่าเป็นสัญญาณล่วงหน้าที่บ่งชี้ว่าจะมีการเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราโดยตรง

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของ BOJ มีขึ้น หลังจากนายชูนิชิ ซูซูกิ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นกล่าวว่า ญี่ปุ่นจะใช้ทุกทางเลือก ซึ่งรวมถึงการเข้าแทรกแซงตลาดโดยตรง หากเงินเยนยังคงทรุดตัวลงอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องเมื่อเทียบกับดอลลาร์

เงินเยนได้รับแรงกดดันอย่างหนักหลังจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนส.ค.ของสหรัฐพุ่งขึ้น 8.3% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 8.1% ซึ่งส่งผลให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปอีกเป็นเวลานาน

"เงินเยนมีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและเป็นการเคลื่อนไหวฝั่งเดียว (one-sided move) ซึ่งทำให้เรากังวลอย่างมาก หากเงินเยนยังคงเคลื่อนไหวในลักษณะนี้ต่อไป เราก็จะใช้มาตรการตอบสนองในทุกทางเลือก" นายซูซูกิกล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันนี้

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การแทรกแซงตลาดด้วยการเข้าซื้อเงินเยนเป็นหนึ่งในทางเลือกของรัฐบาลด้วยหรือไม่ นายซูซูกิตอบว่า "เรามีการหารือกันเกี่ยวกับการใช้ทุกทางเลือก ดังนั้นคำถามที่ว่า เราจะแทรกแซงตลาดด้วยวิธีการเข้าซื้อเงินเยนหรือไม่ นั่นก็ถือเป็นหนึ่งในทางเลือกของรัฐบาลด้วย"

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดร่วงลงในวันนี้ ตามทิศทางตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ทรุดตัวลงอย่างหนัก หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์

ดัชนี S&P/ASX 200 ปิดที่ 6,828.60 จุด ร่วงลง 181.10 จุด หรือ -2.58% และดัชนี All Ordinaries ปิดที่ 7,071.80 จุด ร่วงลง 181.90 จุด หรือ -2.51%

ดัชนีดาวโจนส์, S&P500 และ Nasdaq ต่างก็ร่วงลงเป็นเปอร์เซ็นต์ในวันเดียวรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2563 หลังสหรัฐเปิดเผย ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พุ่งขึ้น 8.3% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.1%

ข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาส 100% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมเดือนก.ย. และมีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงถึง 1.00% ในการประชุมครั้งนี้ด้วย

ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวลดลงกว่า 1.5% ในวันนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยเงินเฟ้อพุ่งสูงเกินคาด ส่งผลให้ตลาดวิตกว่าสหรัฐอาจเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ (KOSPI) ปิดวันนี้ที่ 2,411.42 จุด ลดลง 38.12 จุด หรือ 1.56%

ขณะนี้ นักลงทุนบางส่วนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1% ในการประชุมเดือนก.ย. โดยข้อมูลจากการติดตามการคาดการณ์ดอกเบี้ย CME FedWatch ระบุว่า โอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 1% เพิ่มเป็น 33% จากเดิม 0% และโอกาสที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ลดลงแตะ 67% จาก 91% ในวันก่อนหน้า

ศาลเกาหลีใต้ออกหมายจับนายโด ควอน ผู้ก่อตั้งบริษัทเทอร์ราฟอร์ม แลบส์ (Terraform Labs) ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวการสำคัญที่ทำให้ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีเผชิญกับความผันผวนอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ศาลกรุงโซลได้ออกหมายจับนายโด ควอน และบุคคลอื่น ๆ อีก 5 คนในหลายข้อหา ซึ่งรวมถึงการละเมิดกฎหมายตลาดทุนของเกาหลีใต้ ขณะที่สำนักงานอัยการเกาหลีใต้ระบุว่า ขณะนี้ผู้ที่ถูกออกหมายจับทั้ง 6 คนอยู่ในประเทศสิงคโปร์

วิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นกับแพลตฟอร์มเทอร์รา (Terra) ในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา รวมทั้งการล่มสลายของสเตเบิลคอยน์เทอร์รายูเอสดี (TerraUSD) ได้สั่นคลอนความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล และจนถึงขณะนี้อุตสาหกรรมดังกล่าวยังฟื้นตัวขึ้นไม่มากนัก

ต่อมาในเดือนก.ค. อัยการเกาหลีใต้ได้บุกค้นบ้านของนายดาเนียล ชิน ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทเทอร์ราฟอร์ม แลบส์ ภายใต้ปฏิบัติการตรวจสอบกิจกรรมผิดกฎหมายที่อยู่เบื้องหลังการล่มสลายของสเตเบิลคอยน์ TerraUSD

นอกจากนี้ อัยการยังกำลังตรวจสอบว่า นายโด ควอน ผู้ก่อตั้งบริษัทเทอร์ราฟอร์ม แลบส์ กระทำการหลบเลี่ยงภาษีหรือไม่ หลังพบว่าเขาโยกย้ายกำไรจากการซื้อขายคริปโทฯ ไปยังบัญชีในต่างประเทศ

ในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา เหรียญสเตเบิลคอยน์ TerraUSD ทรุดตัวลงอย่างหนัก ส่งผลให้เหรียญเทเธอร์ (Tether) ซึ่งเป็นสเตเบิลคอยน์สกุลใหญ่ที่สุดในโลก ร่วงหลุดจากมูลค่า 1 ดอลลาร์ที่ตรึงไว้กับดอลลาร์สหรัฐ

หน่วยงานทั่วโลกซึ่งรวมถึงสหรัฐและยุโรปต่างก็ออกมาเตือนถึงอันตรายของสเตเบิลคอยน์ โดยนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐได้เตือนก่อนหน้านี้ว่า การทรุดตัวลงอย่างหนักของราคาเหรียญสเตเบิลคอยน์ UST ถือเป็นหลักฐานที่บ่งชี้ว่า สเตเบิลคอยน์เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีความเสี่ยง ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เตือนว่า รัฐบาลของประเทศยูโรโซนต้องเร่งกำกับดูแลสเตเบิลคอยน์อย่างเร่งด่วน ก่อนที่จะสร้างความเสี่ยงต่อเสถียรภาพด้านการเงิน

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดลบในวันนี้ ตามทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลกที่ร่วงลงในวันนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาด ซึ่งส่งผลให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระดับที่รุนแรงขึ้น

ทั้งนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 3,237.54 จุด ลดลง 26.26 จุด หรือ -0.80%

สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พุ่งขึ้น 8.3% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 8.1%

ข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาส 100% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมเดือนก.ย. และมีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงถึง 1.00% ในการประชุมครั้งนี้ด้วย

กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวเปิดเผยว่า รายได้รวมภาคการท่องเที่ยวจีนในช่วงหยุดยาวเทศกาลไหว้พระจันทร์ ยังคงต่ำกว่าช่วงก่อนโควิด-19 ระบาด

กระทรวงฯ ระบุว่า รายได้รวมในภาคการท่องเที่ยวจีนตลอดช่วงหยุดยาว 3 วันแตะที่ 2.868 หมื่นล้านหยวน (4.16 พันล้านดอลลาร์) คิดเป็นเพียง 60.6% ของรายได้การท่องเที่ยวในช่วงก่อนโควิด-19 ระบาดในปี 2562 นอกจากนี้ตัวเลขดังกล่าวยังลดลง 22.8% จากปีที่แล้ว

นายติง ลู่ หัวหน้านักวิเคราะห์ของบริษัทโนมูระในจีนกล่าวเมื่อวันจันทร์ (12 ก.ย.) ว่า ตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าช่วงวันหยุดยาวก่อนหน้านี้ในช่วงต้นเดือนมิ.ย. และชี้ว่า สาเหตุหลักมาจากการมาตรการสกัดกั้นโควิด-19 ที่เข้มงวด เนื่องจากประชาชนได้รับคำแนะนำให้อยู่ในพื้นที่และหลีกเลี่ยงการเดินทางโดยไม่จำเป็นในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์และวันชาติ (1-7 ตุลาคม)

ทั้งนี้ ภาคการท่องเที่ยวจีนซบเซาลงตั้งแต่ที่เผชิญกับการระบาดของโควิด-19 ในช่วงต้นปี 2563 โดยทางกระทรวงฯ ระบุว่า รายได้รวมภาคการท่องเที่ยวตลอดปีที่แล้ว คิดเป็นประมาณครึ่งหนึ่งของเมื่อปี 2562

ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดร่วงในวันนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยเงินเฟ้อพุ่งสูงเกินคาด ทำให้นักลงทุนวิตกว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่

ดัชนีฮั่งเส็งปิดตลาดที่ระดับ 18,847.10 จุด ลดลง 479.76 จุด หรือ -2.48%

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 8.3% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.1%

ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 6.3% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.1%

ทั้งนี้ นักลงทุนเริ่มคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยแรงถึง 1.00% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย.นี้ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลข CPI ที่สูงกว่าคาด โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 32% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% สู่ระดับ 3.25-3.50% ในการประชุมเดือนนี้ และให้น้ำหนัก 82% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75%

เว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์สเตรท ไทม์สรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า บริษัทเทนเซ็นต์ มิวสิค เอ็นเทอร์เทนเมนต์ กรุ๊ป (Tencent Music Entertainment Group) กำลังเดินหน้าผลักดันแผนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง โดยมีเป้าหมายที่จะเริ่มการซื้อขายเร็วที่สุดในสัปดาห์หน้า

แหล่งข่าวระบุว่า บริษัทเทนเซ็นต์ มิวสิค เอ็นเทอร์เทนเมนต์ กรุ๊ป ซึ่งปัจจุบันมีการซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กอยู่แล้ว กำลังทำงานร่วมกับคณะที่ปรึกษาเพื่อเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งที่สอง โดยอาจเริ่มซื้อขายได้ในช่วงไม่กี่วันข้างหน้า อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา และรายละเอียดต่าง ๆ สามารถเปลี่ยนแปลงได้

ขณะนี้ เทนเซ็นต์ มิวสิคยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องดังกล่าว

เทนเซ็นต์ มิวสิคเปิดเผยเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมาว่า ได้วางแผนที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง เช่นเดียวกับบริษัทจีนจำนวนมากที่เร่งดำเนินการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งอื่น เพราะความสัมพันธ์ตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐ ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่หุ้นจีนจะถูกถอดออกจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ

อย่างไรก็ตาม การจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกงของเทนเซ็นต์จะเป็นการนำหุ้นเดิมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง โดยไม่มีการเสนอขายหุ้นใหม่เพื่อระดมเงินทุนแต่อย่างใด

นี่คือโฆษณาของบุคคลที่สาม ไม่ใช่ข้อเสนอหรือคำแนะนำจาก Investing.com ดูการเปิดเผยข้อมูลที่นี่หรือ หรือลบโฆษณา

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย