👁 ค้นพบหุ้นชนะตลาดเหมือนกับนักลงทุนมือโปรด้วยข้อมูลเชิงลึกจาก AI มหกรรมลดราคา Cyber Monday จะหมดเขตเร็ว ๆ นี้!รับส่วนลด

ภาพรวมของตลาดสกุลเงินที่มีความผันผวนอย่างมากในวันนี้

เผยแพร่ 08/09/2565 21:05
อัพเดท 09/07/2566 17:32
EUR/USD
-
USD/JPY
-
USD/CHF
-
EUR/JPY
-
EUR/CHF
-
GBP/JPY
-
GBP/CHF
-
CHF/JPY
-
AUD/JPY
-
CAD/JPY
-
NZD/JPY
-
XAU/USD
-
GC
-

เริ่มจากในช่วงเช้า คู่สกุลเงิน USDJPY EURJPY GBPJPY CADJPY AUDJPY NZDJPY และ CHFJPY ได้มีการย่อตัวลงทั้งหมดจากการแข็งค่าของสกุลเงินเยน JPY จากการประกาศตัวเลข GDP ของญี่ปุ่นในเมื่อเช้านี้ที่ออกมาดีกว่าคาด

รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า เศรษฐกิจของญี่ปุ่นไตรมาส 2/65 ปรับตัวขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้เบื้องต้น เนื่องจากการยกเลิกข้อจำกัดด้านโควิด-19 กระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภคและภาคธุรกิจ

รายงานระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของญี่ปุ่นในไตรมาสสอง ขยายตัว 3.5% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้เบื้องต้นว่าเพิ่มขึ้น 2.2% เมื่อเทียบรายปี แม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ เช่น ภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว และราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น

ขณะเดียวกัน ตัวเลขดังกล่าวยังสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์เฉลี่ยที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.9% และเทียบเท่ากับการขยายตัวรายไตรมาสจริงที่ 0.9% จากไตรมาสก่อนหน้า

ข้อมูลยังบ่งชี้ว่า อุปสงค์ในประเทศฟื้นตัวเล็กน้อย หลังจากที่รัฐบาลยกเลิกมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยการบริโภคในภาคเอกชนขยายตัว 1.2% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากตัวเลขคาดการณ์เบื้องต้นที่ว่าจะเพิ่มขึ้น 1.1%

ส่วนการใช้จ่ายในการลงทุนเพิ่มขึ้น 2.0% ซึ่งปรับขึ้นจากตัวเลขคาดการณ์เบื้องต้นว่าจะเพิ่มขึ้น 1.4% และมากกว่าตัวเลขคาดการณ์เฉลี่ยที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.8%

ในขณะที่ช่วงบ่ายที่ผ่านมา สกุลเงินเยน JPY เริ่มกลับมาอ่อนค่าอีกครั้ง จากการที่ตลาดหุ้นเอเชียโดยรวมยังปิดบวก โดยเฉพาะตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ได้ปิดพุ่งขึ้นเป็นอย่างมากในวันนี้

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งขึ้นในวันนี้ โดยปรับตัวขึ้นตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ที่ปิดบวกในวันพุธ (7 ก.ย.) และจากแรงช้อนซื้อหุ้นร่วงหลังดัชนีนิกเกอิปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือนครึ่งเมื่อวานนี้

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 28,065.28 จุด พุ่งขึ้น 634.98 จุด หรือ +2.31%

หุ้นที่ปรับตัวขึ้นในวันนี้นำโดยกลุ่มขนส่งทางอากาศ, กลุ่มเภสัชกรรม รวมถึงกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า

การที่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดพุ่งขึ้นอย่างมากในวันนี้ ทำให้สกุลเงินเยนถูกเทขายในฐานะสกุลเงินปลอดภัย

และจากการที่ดัชนีนิกเกอิฟิวเจอร์สยังมีการทรงตัวอยู่ได้ในระดับสูงในขณะนี้ หลังจากที่ได้มีการพุ่งขึ้นมาในช่วงเช้า ทำให้สกุลเงินเยนถูกเทขายในฐานะสกุลเงินปลอดภัยเช่นกัน

จึงทำให้คู่สกุลเงิน EURJPY GBPJPY USDJPY กลับมาฟื้นตัวขึ้นอีกรอบ จากการอ่อนค่าลงอีกครั้งของสกุลเงินเยน JPY

ในขณะที่ AUDJPY NZDJPY ยังมีการร่วงลงอย่างต่อเนื่อง จากการที่สกุลเงิน AUD และ NZD ได้มีการอ่อนค่าลงตามการร่วงลงของตลาดหุ้นจีน

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดลบในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่า การที่จีนยังคงเดินหน้าล็อกดาวน์เมืองสำคัญเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศ

ทั้งนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 3,235.59 จุด ลดลง 10.71 จุด หรือ -0.33%

เฉิงตูซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลเสฉวนในประเทศจีนได้ประกาศขยายเวลาล็อกดาวน์พื้นที่ส่วนใหญ่อย่างไม่มีกำหนดในวันนี้ (8 ก.ย.) โดยหวังที่จะสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ภายในเมืองซึ่งมีประชากรราว 21.2 ล้านคน

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ในเมืองเฉิงตูระบุว่า ผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ซึ่งยังคงมีการล็อกดาวน์นั้น จะต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อทุกวัน และจะมีการปูพรมตรวจหาเชื้อให้กับผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ซึ่งได้ประกาศยุติการล็อกดาวน์แล้วในวันที่ 9 และ 11 ก.ย.

และสกุลเงิน AUD และ NZD ยังได้อ่อนค่าตั้งแต่ในช่วงเช้าที่ผ่านมาจากการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของออสเตรเลียที่ออกมาแย่ในช่วงเช้าที่ผ่านมา

สำนักงานสถิติออสเตรเลียเปิดเผยวันนี้ (8 ก.ย.) ว่า ยอดเกินดุลการค้าออสเตรเลียหดตัวเกินคาดในเดือนก.ค. เนื่องจากการส่งออกแร่เหล็กและถ่านหินได้ชะลอตัวลงหลังจากที่พุ่งแรงมาก่อนหน้านี้ ขณะที่ชาวออสเตรเลียเริ่มออกเดินทางและใช้จ่ายในต่างประเทศมากขึ้น

ข้อมูลระบุว่า ออสเตรเลียมียอดเกินดุลการค้าสินค้าและบริการอยู่ที่ 8.7 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (5.66 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ลดลงจากเมื่อเดือนมิ.ย.ที่เกินดุล 1.71 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย และต่ำกว่าที่คาดการณ์ที่ 1.45 หมื่นล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ ยอดส่งออกปรับตัวลดลง 9.9% เนื่องจากการส่งออกแร่เหล็กและถ่านหินดิ่งลง 15% และ 17% ตามลำดับ ส่วนยอดนำเข้าปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.2% เนื่องจากชาวออสเตรเลียซื้อรถยนต์และเสื้อผ้ามากขึ้น และเดินทางออกสู่ต่างประเทศมากขึ้นหลังข้อจำกัดด้านการควบคุมโควิด-19 สิ้นสุดลง

และจากการร่วงลงของตลาดหุ้นจีนจากความวิตกเกี่ยวกับมาตรการล็อกดาวน์ในจีนและตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ออกมาแย่ และการร่วงลงของตลาดหุ้นยุโรปที่มีความวิตกว่าการขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในคืนนี้จะทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ทำให้สกุลเงินยูโรและสกุลเงินปอนด์ได้มีการอ่อนค่าลงเช่นกันในช่วงบ่ายที่ผ่านมา

และทำให้ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ DXY มีการฟื้นตัวขึ้นมาได้บ้างเล็กน้อย

ในขณะที่สกุลเงินฟรังก์สวิส CHF ได้แข็งค่าขึ้นจาก 2 ปัจจัยในวันนี้

1. อัตราการว่างงานของสวิตเซอร์แลนด์ออกมาลดลง ทำให้สกุลเงิน CHF มีการแข็งค่าขึ้น

2. ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลง หนุนสกุลเงิน CHF ให้มีการแข็งค่าขึ้นในฐานะสกุลเงินปลอดภัย

จากการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงิน CHF ได้ส่งผลให้คู่สกุลเงิน USDCHF EURCHF GBPCHF มีการร่วงลงทั้งหมด

ในขณะที่คู่สกุลเงิน CHFJPY มีการพุ่งขึ้นอย่างชัดเจน

และจากการร่วงลงของตลาดหุ้นจีนในตอนนี้จากความวิตกเกี่ยวกับมาตรการล็อกดาวน์ในจีนและตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ออกมาแย่ และการร่วงลงของตลาดหุ้นยุโรปที่มีความวิตกว่าการขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในคืนนี้จะทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ทำให้ราคาน้ำมันมีการปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน

และในคืนนี้จะเป็นคืนโลกแตกอีกคืนหนึ่งนะครับ

ในเวลา 19:15 ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งในการประชุมวันนี้ (8 ก.ย.) เพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อที่พุ่งสูงจนเกินควบคุม โดยคาดว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้จะเป็นการดำเนินการครั้งใหญ่เป็นประวัติการณ์ จึงจะส่งผลให้ตลาดหุ้นยุโรป สกุลเงินยูโร และราคาทองคำมีความผันผวนเป็นอย่างมาก

ในเวลา 19:45 นางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป จะออกมาแถลงการณ์ต่อสื่อมวลชน ซึ่งจะทำให้ตลาดมีความผันผวนอย่างมากเช่นเดียวกัน

ในเวลา 20:15 จับตาถ้อยแถลงของ นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมประจำปีของสถาบันคาโต (Cato Institute) ซึ่งเป็นรอบสุดท้ายก่อนการประชุมคณะกรรมการ กำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% อีกครั้งในเดือนนี้ ซึ่งจะทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐ สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ราคาทองคำ ราคาน้ำมัน รวมไปถึง BTC มีความผันผวนเป็นอย่างมากอีกครั้ง

ในเวลา 21:15 นางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรปจะออกมาแถลงการณ์อีกครั้ง

ในเวลา 22:00 จะมีการประกาศรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอลคาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจะลดลง 1.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 2 ก.ย. ซึ่งจะส่งผลให้ราคาน้ำมันจะมีความผันผวนเป็นอย่างมาก

อย่าลืมติดตามข่าวในคืนนี้กันด้วยนะครับ!!!

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย