ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นเอเชียตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา รวมไปถึงความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นยุโรปในช่วงบ่ายที่ผ่านมานี้ ได้ส่งผลต่อราคาทองคำ และ BTC อย่างเห็นได้ชัด
โดยตลาดหุ้นที่มีความผันผวนมากเป็นพิเศษในวันนี้ก็คือตลาดหุ้นจีนนั่นเอง ซึ่งได้ร่วงลงในช่วงเช้า ก่อนที่จะมาฟื้นตัวขึ้นในช่วงบ่าย
เราไปไล่เรียงเหตุการณ์ตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้กันเลยครับ
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวกเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นที่ปรับตัวลงอย่างหนักในวันแรกของสัปดาห์ โดยได้รับแรงกดดันจากการแสดงความเห็นของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป เพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 28,086.72 จุด เพิ่มขึ้น 207.76 จุด หรือ +0.75%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,062.73 จุด เพิ่มขึ้น 39.51 จุด หรือ +0.20% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,240.18 จุด ลดลง 0.55 จุด หรือ -0.02%
ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ โดยดัชนี S&P500 ลบ 0.67% แตะที่ 4,030.61 และดัชนี Nasdaq ร่วง 1.02% แตะที่ 12,017.67
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลง 184.41 จุด หรือ 0.57% แตะที่ 32,098.99 โดยดาวโจนส์ร่วงกว่า 300 จุดในช่วงแรกของรอบการซื้อขาย ก่อนปรับตัวขึ้นในช่วงสั้น ๆ ส่วนหุ้นฟิวเจอร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเล็กน้อย หลังร่วงติดต่อกันเป็นวันที่ 2
"ดูเหมือนว่านักลงทุนจะยังคงอยู่ระหว่างซึมซับผลลัพธ์จากการกล่าวสุนทรพจน์ของนายพาวเวล โดยเขาไม่เพียงแต่ปฏิเสธแนวคิดเรื่องการใช้นโยบายการเงินเชิงผ่อนคลายเท่านั้น แต่ยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และดำเนินนโยบายการเงินแบบเข้มงวด เพื่อฉุดเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมาย" นายโรดริโก คาทริล นักกลยุทธ์ของเนชันแนล ออสเตรเลีย แบงก์กล่าวในวันนี้
นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจจีน ท่ามกลางมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ครั้งใหม่ ซึ่งส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ภายในประเทศ และภาวะขาดแคลนพลังงานท่ามกลางคลื่นความร้อนสูงนั้นส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตด้วย
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดบวกในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นที่ปรับตัวลง หลังจากดัชนีนิกเกอิร่วงลงอย่างรุนแรงเมื่อวานนี้ และเงินเยนที่อ่อนค่าลงช่วยหนุนหุ้นกลุ่มส่งออก
เงินเยนทรุดตัวลงใกล้แตะระดับทางจิตวิทยาที่ 140 เยนต่อดอลลาร์ในช่วงเช้านี้ โดยตลาดยังขานรับการคาดการณ์ว่า ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างญี่ปุ่นกับสหรัฐจะทิ้งช่วงห่างมากขึ้น เนื่องจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เดินหน้าใช้นโยบายการเงินเชิงผ่อนคลายพิเศษ ในขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลให้มีกระแสคาดการณ์ว่าทางการญี่ปุ่นอาจจะเข้าแทรกแซงตลาดเพื่อพยุงค่าเงินเยน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า หากเงินเยนทรุดตัวลงแตะระดับ 140 เยนต่อดอลลาร์ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 24 ปี ก็อาจทำให้กระทรวงการคลังญี่ปุ่น, ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และสำนักงานบริการด้านการเงินของญี่ปุ่น (FCA) จัดการประชุมฉุกเฉินเพื่อใช้มาตรการแทรกแซงตลาด เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นในเดือนมิ.ย.ปีนี้
เงินเยนร่วงลงเกือบ 4% แล้วในเดือนนี้ และเคลื่อนไหวที่ระดับ 138.50 เยนต่อดอลลาร์ในช่วงเช้านี้ เนื่องจากเทรดเดอร์เริ่มหันมาจับตาส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของญี่ปุ่นและประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
นายเดวิด หลู ผู้อำนวยการบริษัทเอ็นบีซี ไฟแนนเชียล มาร์เก็ตส์ เอเชียกล่าวว่า "มีความเป็นไปได้ว่าทางการญี่ปุ่นจะเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราในขณะที่เงินเยนดิ่งลงใกล้ระดับ 140 เยนต่อดอลลาร์ แต่ผมเชื่อว่าการแทรกแซงดังกล่าวอาจจะไม่มีประสิทธิภาพมากนักในเวลานี้ เนื่องจากดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอย่างมากเนื่องจากมุมมมองด้านนโยบายการเงินของเจ้าหน้าที่เฟด
นายพาวเวลกล่าวในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮลเมื่อวันศุกร์ (26 ส.ค.) ว่า ภารกิจของเฟดในการต่อสู้กับเงินเฟ้อยังไม่เสร็จสิ้น โดยเฟดจะยังคุมเข้มนโยบายการเงินต่อไป ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐ
นอกจากนี้ นายพาวเวลกล่าวว่า เฟดยังคงจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป และเฟดจะไม่ตัดทางเลือกในการ "ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่มากกว่าปกติ" ในเดือนก.ย.
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดบวกในวันนี้ ซึ่งเป็นผลจากแรงซื้อคืนหุ้นหลังจากตลาดปิดลบเมื่อวานนี้
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดลบในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจจีน ท่ามกลางมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ครั้งใหม่ซึ่งส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ภายในประเทศ และภาวะขาดแคลนพลังงานท่ามกลางคลื่นความร้อนสูงนั้นส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตด้วย
ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยสภาธุรกิจสหรัฐ-จีน (US-China Business Council) พบว่า มุมมองเชิงบวกที่บริษัทสหรัฐมีต่อจีนนั้น ลดลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากมาตรการโควิดเป็นศูนย์ที่ริเริ่มโดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้ส่งผลให้บริษัทจำนวนมากกว่าครึ่งหนึ่งที่ดำเนินธุรกิจในประเทศจีน ต้องชะลอหรือยกเลิกการลงทุนในจีน
ผลสำรวจระบุว่า การใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้สร้างความวิตกกังวลให้กับบริษัทสหรัฐที่เข้าไปลงทุนในประเทศจีนมากกว่าความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐ โดยบรรดาบริษัทที่เข้าร่วมการสำรวจครั้งนี้ มีเพียง 51% เท่านั้นที่แสดงมุมมองด้านบวกต่อแนวโน้มธุรกิจในระยะเวลา 5 ปีในประเทศจีน ซึ่งตัวเลขดังกล่าวลดลงจาก 69% ในการสำรวจเมื่อปีที่แล้ว
สภาธุรกิจสหรัฐ-จีน ซึ่งเป็นองค์กรเอกชนตัวแทนของบริษัทสหรัฐกว่า 270 แห่งที่ดำเนินธุรกิจในจีนระบุว่า "มีความเป็นไปได้อย่างมากว่าบริษัทสหรัฐในจีนจะถูกบังคับให้ต้องระงับการผลิตบางส่วนภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ และการใช้มาตรการควบคุมนี้จะส่งผลกระต่ออุปสงค์ของผู้บริโภค ซึ่งจะบั่นทอนความเชื่อมั่นด้านการลงทุนในภาคธุรกิจ โดยบริษัทสหรัฐจำนวนมากถึง 96% ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์คุมโควิด และมีบริษัทมากกว่าครึ่งหนึ่งที่ต้องระงับหรือเลื่อนแผนการลงทุนในจีนออกไป"
นอกจากนี้ ผลการสำรวจระบุว่า การลงทุนใหม่โดยบริษัทสหรัฐในจีนนั้นคาดว่าจะชะลอตัวลงในปี 2566 เนื่องจากผลกระทบของมาตรการควบคุมโควิด-19 และนโยบายอื่น ๆ ของจีน ซึ่งรวมถึงมาตรการด้านข้อมูลและความปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งจะยิ่งเพิ่มความยากลำบากในการขายผลิตภัณฑ์ให้กับหน่วยงานของรัฐ
และต่อไป เราไปดูความเคลื่อนไหวในตลาดในช่วงเที่ยงครับ ว่าตลาดหุ้นเอเชียนั้นปิดภาคเช้าอย่างไร
ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าผสมผสานในวันนี้ โดยหุ้นจีนปรับตัวลดลงก่อนการรายงานผลประกอบการของธนาคารรายใหญ่ในจีน ขณะที่หุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าบวก เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นราคาถูกที่ปรับตัวลงเมื่อวานนี้หลังนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า เฟดจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 28,162.52 จุด เพิ่มขึ้น 283.56 จุด หรือ +1.02% , ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 19,843.71 จุด ลดลง 179.51 จุด หรือ -0.90% และ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,222.28 จุด ลดลง 18.45 จุด หรือ -0.57%
นักลงทุนรอคอยรายงานผลประกอบการจากธนาคารอินดัสเทรียล แอนด์ คอมเมอร์เชียล แบงก์ ออฟ ไชน่า จำกัด, ธนาคารไชน่า คอนสตรักชัน แบงก์ โค และธนาคารแบงก์ออฟไชน่า โดยหุ้นทั้ง 3 เคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ ในวันนี้
ผลประกอบการของธนาคารรายใหญ่จะช่วยสร้างความชัดเจนว่าภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจของจีนนั้นจะส่งผลกระทบต่อธนาคารรายใหญ่ในประเทศอย่างไร โดยการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดโควิด-19 ,วิกฤตหนี้สินในภาคอสังหาริมทรัพย์ และภาวะขาดแคลนพลังงานจากผลพวงของภัยแล้งได้บั่นทอนกิจกรรมเศรษฐกิจจีนในปีนี้
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้นในวันนี้เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นราคาถูก โดยตลาดร่วงลงเมื่อวานนี้หลังนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า จะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อ
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าลดลงในวันนี้ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดลบในวันจันทร์ (29 ส.ค.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงความมุ่งมั่นที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แม้อาจจะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงก็ตาม
การที่ตลาดหุ้นจีนได้ร่วงลงในช่วงเช้า ได้ส่งผลให้สกุลเงินหยวน CNY นั้นได้อ่อนค่าอย่างมาก รวมไปทั้งสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย AUD ที่ได้มีการอ่อนค่าลงเช่นกัน
คู่สกุลเงิน AUDUSD AUDJPY AUDCHF ได้มีการปรับตัวลงทั้งหมดในช่วงเช้า
และจากการร่วงลงของตลาดหุ้นจีน สกุลเงินหยวน CNY และสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย AUD นั้น ได้ส่งผลราคาทองคำมีการปรับตัวลงด้วยเช่นกัน โดยได้ลงไปถึงระดับ 1,728$ เลยทีเดียว
ส่วนดัชนีดอลลาร์สหรัฐ DXY มีการฟื้นตัวขึ้นได้อีกครั้ง หลังจากทีได้ร่วงลงในเมื่อคืนนี้
ต่อมาในเวลา 14:00 ตลาดหุ้นยุโรปได้เปิดทำการ
ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดแดนบวกในวันนี้หลังปรับตัวลงติดต่อกัน 2 วัน โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคาร แม้ถูกบั่นทอนจากความวิตกกังวลเรื่องวิกฤตพลังงาน การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ดัชนี STOXX 600 เปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 423.22 จุด เพิ่มขึ้น 0.57 จุด หรือ +0.13% หลังร่วงลงประมาณ 2.5% ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา โดยได้รับแรงกดดันจากการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีเปิดวันนี้ที่ 12,919.43 จุด เพิ่มขึ้น 26.44 จุด หรือ +0.21% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสเปิดวันนี้ที่ 6,243.08 จุด เพิ่มขึ้น 20.8 จุด หรือ +0.33%
และในช่วงบ่าย ตลาดหุ้นจีนได้มีการฟื้นตัวขึ้นจากข่าวนี้เลยครับ
กระทรวงการคลังจีนเปิดเผยในวันนี้ว่า จีนจะใช้มาตรการกระตุ้นอุปสงค์ รวมทั้งสร้างเสถียรภาพด้านเงินเฟ้อและการจ้างงานในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ
การให้คำมั่นดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่คณะรัฐมนตรีจีนเพิ่งประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งครอบคลุมถึงการจัดสรรเงินทุนให้กับธนาคารนโยบายของรัฐ (State Policy Banks)
"จีนจะใช้พันธบัตรพิเศษของรัฐบาลท้องถิ่นเป็นเครื่องมือที่ก่อให้เกิดประโยชน์ และสนับสนุนการใช้เครื่องมือในการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่ธนาคารนโยบายในช่วงครึ่งหลังของปีนี้" กระทรวงการคลังจีนระบุในแถลงการณ์บนเว็บไซต์
กระทรวงการคลังจีนยังระบุด้วยว่า รายได้ด้านการคลังของจีนปรับตัวขึ้นในเดือนมิ.ย. เนื่องจากจีนผ่อนคลายความเข้มงวดในการควบคุมโรคโควิด-19 โดยใน 25 จังหวัดของจีนมีรายได้เพิ่มขึ้นในเดือนมิ.ย. หลังจากรายได้ชะลอตัวลงในเดือนเม.ย.และพ.ค.เนื่องจากการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
เมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1 ล้านล้านหยวน (1.46 แสนล้านดอลลาร์) โดยมีเป้าหมายที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจ รวมทั้งลดผลกระทบจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมโรคโควิด-19 และการทรุดตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งคณะรัฐมนตรีจีนออกแถลงการณ์ล่าสุดครอบคลุมถึงการจัดสรรเงินทุนมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์ให้กับธนาคารนโยบายของรัฐ เพื่อให้ธนาคารเหล่านี้นำเงินไปลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน และการจัดสรรเงินให้กับรัฐบาลท้องถิ่นมูลค่ารวม 5 แสนล้านหยวนเพื่อใช้ในการออกพันธบัตรพิเศษ
ทั้งนี้ การที่จีนยังคงใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการทรุดตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์เป็นเวลานานนับปีนั้น ได้ส่งผลให้เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลง และอาจทำให้รัฐบาลจีนพลาดเป้าหมายการผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโต 5.5% ในปีนี้
ก่อนที่จะมาพูดถึงว่าข่าวที่ออกมานี้ส่งผลต่อตลาดอย่างไร และไปสรุปกันก่อนครับว่าสุดท้ายแล้วตลาดหุ้นเอเชียในวันนี้ได้มีการปิดตลาดในช่วงบ่ายที่ผ่านมาอย่างไร
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดปรับตัวขึ้นในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นราคาถูก หลังตลาดร่วงลงเมื่อวานนี้จากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า เฟดจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกต่อไปเพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น
ทั้งนี้ ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 28,195.58 จุด เพิ่มขึ้น 316.62 จุด หรือ +1.14%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดบวกในวันนี้ โดยหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง นำโดยหุ้นวู้ดไซด์ เอเนอร์จี หลังจากบริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนช้อนซื้อหลังจากราคาหุ้นร่วงลงอย่างหนักเมื่อวานนี้
ดัชนี S&P/ASX 200 ปิดที่ 6,998.30 จุด เพิ่มขึ้น 32.80 จุด หรือ +0.47% และดัชนี All Ordinaries ปิดที่ 7,230.40 จุด เพิ่มขึ้น 37.00 จุด หรือ +0.51%
ดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้น 1.4% นำโดยหุ้นวู้ดไซด์ เอเนอร์จี ทะยานขึ้น 3.8% หลังจากบริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างปีเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า และเปิดเผยกำไรในช่วงครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้น 5 เท่าเนื่องจากราคาน้ำมันและก๊าซปรับตัวสูงขึ้น
ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดตลาดในแดนบวกวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนช้อนซื้อหุ้นที่ราคาร่วงหนัก ขณะที่พิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคุมเข้มนโยบายการเงินในเชิงรุก
ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ (KOSPI) ปิดวันนี้ที่ 2,450.93 จุด เพิ่มขึ้น 24.04 จุด หรือ +0.99%
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดลดลงในวันนี้ เนื่องจากหลายเมืองในจีนคุมเข้มมาตรการจำกัดโรคโควิด-19 เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้เกิดความวิตกว่าเศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวลงต่อไป
ทั้งนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดตลาดที่ระดับ 3,227.22 จุด ลดลง 13.51 จุด หรือ -0.42%
นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการคุมเข้มนโยบายการเงินทั่วโลกซึ่งอาจทำให้สภาพคล่องในตลาดจีนลดลง และทำให้จีนไม่มีโอกาสที่จะผ่อนคลายนโยบายการเงินลงอีก
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดลดลงในวันนี้ หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงความมุ่งมั่นที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แม้อาจจะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงก็ตาม
ดัชนีฮั่งเส็งปิดตลาดที่ระดับ 19,949.03 จุด ลดลง 74.19 จุด หรือ -0.37%
ทั้งนี้ นายพาวเวลกล่าวในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ภารกิจของเฟดในการต่อสู้กับเงินเฟ้อยังไม่เสร็จสิ้น โดยเฟดจะยังคุมเข้มนโยบายการเงินต่อไป ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐ
นายพาวเวลยังกล่าวด้วยว่า หลังจากเสร็จสิ้นการใช้มาตรการปรับขึ้นดอกเบี้ยแล้ว เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูงต่อไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งสวนทางกับที่ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
ถ้อยแถลงของนายพาวเวลส่งผลให้นักลงทุนปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมเดือนก.ย. โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนัก 66.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.00-3.25% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และให้น้ำหนักเพียง 33.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50%
ซึ่งจากข่าวที่ออกมาในช่วงบ่ายนี้เอง ได้ทำให้ตลาดหุ้นจีนมีการฟื้นตัวขึ้นได้ ในขณะที่สกุลเงินหยวน CNY มีการแข็งค่าขึ้นอย่างมาก และส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย AUD มีการพุ่งขึ้นตามไปด้วย
คู่สกุลเงิน AUDUSD AUDJPY AUDCHF ได้มีการพุ่งขึ้นทั้งหมด
และส่งผลให้ราคาทองคำมีการฟื้นตัวขึ้นได้ในช่วงบ่ายที่ผ่านมาเช่นกัน
และจากการฟื้นตัวขึ้นของตลาดหุ้นจีนได้ส่งผลให้ตลาดหุ้นยุโรปมีการพุ่งขึ้นในช่วงบ่ายเช่นเดียวกัน รวมทั้งตลาดหุ้นสหรัฐฟิวเจอร์สได้มีการพุ่งขึ้นด้วย เนื่องจากทั้งยุโรปและสหรัฐต่างก็เป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ไปยังประเทศจีน จึงทำให้ตลาดหุ้นทั้งสองได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นดีมานด์ของจีนตามไปด้วย
และจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นยุโรป ได้ส่งผลให้สกุลเงินยูโร EUR และสกุลเงินปอนด์ GBP มีการแข็งค่าขึ้น
คู่สกุลเงิน EURUSD GBPUSD ได้มีการพุ่งขึ้นในช่วงบ่ายที่ผ่านมา
และจากการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินยูโร EUR และสกุลเงินปอนด์ GBP ได้ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ DXY ร่วงลง และยิ่งเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำให้ฟื้นตัวขึ้นได้
ในขณะที่การพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฟิวเจอร์สในช่วงบ่าย ได้ส่งผลให้ BTC มีการฟื้นตัวขึ้นได้ในช่วงบ่ายที่ผ่านมาเช่นเดียวกัน
ส่วนทิศทางของตลาดหุ้นสหรัฐ ทองคำ BTC ในคืนนี้จะเป็นอย่างไรต่อ ต้องไปลุ้นการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในคืนนี้เวลา 20:00 และ 21:00 กันด้วยนะครับ!!!