เมื่อวานนี้ในช่วงเช้าราคาทองคำได้ขึ้นอย่างต่อเนื่องจากระดับ 1,749$ ขึ้นไปถึงระดับ 1,765$ ในช่วงบ่าย เรามาวิเคราะห์กันก่อนครับ ว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ราคาทองคำได้พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงแรก
สาเหตุที่ 1 - การพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นเอเชียในเมื่อวานนี้ โดยเฉพาะตลาดหุ้นจีนที่ปิดพุ่งขึ้น ได้ทำให้สกุลเงินหยวน CNY ได้มีการแข็งค่าขึ้นเป็นอย่างมาก รวมทั้งการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย AUD ในช่วงเช้า ได้หนุนราคาทองคำขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดดีดตัวขึ้นเมื่อวานนี้หลังจากที่ดัชนีปิดลบ 5 วันทำการติดต่อกัน ขานรับแรงซื้อหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภค หลังจากที่รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า กำลังพิจารณาการก่อสร้างโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์รุ่นใหม่
ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 28,479.01 จุด เพิ่มขึ้น 165.54 จุด หรือ +0.58%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดบวกเมื่อวานนี้ ตามทิศทางตลาดหุ้นเอเชียที่ดีดตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ในช่วงบ่าย หลังจากรัฐบาลจีนประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮลในวันนี้
ดัชนี S&P/ASX 200 ปิดที่ 7,048.10 จุด เพิ่มขึ้น 50 จุด หรือ +0.71% และดัชนี All Ordinaries ปิดที่ 7,291.90 จุด เพิ่มขึ้น 49.60 จุด หรือ +0.68%
รัฐบาลจีนประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1 ล้านล้านหยวน (1.46 แสนล้านดอลลาร์) โดยมีเป้าหมายที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจ รวมทั้งลดผลกระทบจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์ควบคุมโรคโควิด-19 และการทรุดตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งคณะรัฐมนตรีจีนออกแถลงการณ์ล่าสุดนี้ ครอบคลุมถึงการจัดสรรเงินทุนมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์ให้กับธนาคารนโยบายของรัฐ (State Policy Banks) เพื่อให้ธนาคารเหล่านี้นำเงินไปลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน และการจัดสรรเงินให้กับรัฐบาลท้องถิ่นมูลค่ารวม 5 แสนล้านหยวนเพื่อใช้ในการออกพันธบัตรพิเศษ
ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน หลังนักลงทุนได้รับความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายการเงินของธนาคารกลางเกาหลีใต้
ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ (KOSPI) ปิดที่ 2,477.26 จุด เพิ่มขึ้น 29.81 จุด หรือ +1.22%
ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 2.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้ (25 ส.ค.) ตามความคาดหมาย หลังปรับขึ้น 0.50% ในเดือนก.ค. เพื่อผ่อนคลายแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่พุ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางปัญหาต้นทุนนำเข้าพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์สำคัญอื่น ๆ ที่พุ่งสูงขึ้น
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดบวกเมื่อวานนี้ เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวรัฐบาลจีนประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 3,246.25 จุด เพิ่มขึ้น 31.04 จุด หรือ +0.97%
รัฐบาลจีนประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1 ล้านล้านหยวน (1.46 แสนล้านดอลลาร์) โดยมีเป้าหมายที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจ รวมทั้งลดผลกระทบจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์ควบคุมโรคโควิด-19 และการทรุดตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งคณะรัฐมนตรีจีนออกแถลงการณ์ล่าสุดนี้ ครอบคลุมถึงการจัดสรรเงินทุนมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์ให้กับธนาคารนโยบายของรัฐ (State Policy Banks) เพื่อให้ธนาคารเหล่านี้นำเงินไปลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน และการจัดสรรเงินให้กับรัฐบาลท้องถิ่นมูลค่ารวม 5 แสนล้านหยวนเพื่อใช้ในการออกพันธบัตรพิเศษ
สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของทางการจีนรายงานว่า ในการประชุมรัฐสภาจีนซึ่งมีนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงเป็นประธานนั้น รัฐสภาได้ให้คำมั่นว่าจะใช้เครื่องมือทุกด้านที่มีอยู่เพื่อรักษาขอบเขตของนโยบายอย่างเหมาะสม
ทั้งนี้ การที่จีนยังคงใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการทรุดตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์เป็นเวลานานนับปีนั้น ได้ส่งผลให้เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลง และอาจทำให้รัฐบาลจีนพลาดเป้าหมายการผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโต 5.5% ในปีนี้
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดพุ่งขึ้นเมื่อวานนี้จากแรงช้อนซื้อของนักลงทุน หลังจากระงับการซื้อขายภาคเช้า เนื่องจากหอสังเกตการณ์ฮ่องกง (Hong Kong Observatory) ได้ประกาศสัญญาณเตือนภัยจากพายุโซนร้อน "หมาอ๊อน" (Ma-on)
ดัชนีฮั่งเส็งปิดที่ 19,968.38 จุด เพิ่มขึ้น 699.64 จุด หรือ +3.63%
ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคบวกเมื่อวานนี้ โดยนักลงทุนจับตาธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จัดการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็กสันโฮล รัฐไวโอมิงในสัปดาห์นี้ เพื่อรอดูความชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด
ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกงประกาศระงับการซื้อขายภาคเช้าในเมื่อวานนี้ หลังจากหอสังเกตการณ์ฮ่องกง (Hong Kong Observatory) ได้ประกาศสัญญาณเตือนภัยจากพายุโซนร้อน "หมาอ๊อน" (Ma-on) ส่วนการซื้อขายในภาคบ่ายจะเริ่มขึ้นในเวลา 13.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น
ตลาดหุ้นฮ่องกงประกาศเลื่อนเปิดการซื้อขายในช่วงเช้าของเมื่อวานนี้ หลังจากหอสังเกตการณ์ฮ่องกง (Hong Kong Observatory) ได้ประกาศสัญญาณเตือนภัยหมายเลข 8 จากพายุโซนร้อน "หมาอ๊อน" (Ma-on) และตลาดจะเปิดทำการซื้อขายก็ต่อเมื่อหอสังเกตการณ์ฮ่องกงประกาศลดระดับสัญญาณการเตือนภัยพายุดังกล่าว
นอกจากนี้ เว็บไซต์ของหอสังเกตการณ์ฮ่องกงยังระบุว่า หอสังเกตการณ์อาจจะปรับลดระดับการเตือนภัยพายุหมาอ๊อนในช่วงเวลา 09.00-11.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น
ทั้งนี้ ตามกฎระเบียบของตลาดหุ้นฮ่องกงแล้ว การซื้อขายในภาคเช้าจะถูกระงับ หากสัญญาณเตือนภัยพายุยังคงมีผลในเวลา 09.00 น. และเมื่อพิจารณาจากรายงานสภาพอากาศล่าสุดแล้ว คาดว่าการซื้อขายในภาคบ่ายจะเริ่มขึ้นในเวลา 13.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนวันพุธ ขณะที่นักลงทุนรอดูความชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินของเฟดเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ
นายทาปาส สตริกแลนด์ ผู้อำนวยการด้านเศรษฐศาสตร์ของบริษัท NAB ระบุว่า ขณะนี้ นักลงทุนคาดการณ์ว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดจะแตะจุดสูงสุดที่ 3.80% ในเดือนมี.ค. 2566 ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 3.62% ในการคาดการณ์เมื่อสองสัปดาห์ก่อน
"ปฏิกิริยาของตลาดค่อนข้างสอดคล้องกับการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเร่งคุมเข้มนโยบายการเงินของเฟดตลอดช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา" นายทาปาสกล่าว
2. ตัวเลข GDP ของเยอรมนีออกมาดีเกินคาด ทำให้สกุลเงินยูโร EUR แข็งค่า กดดันดัชนีดอลลาร์ DXY ให้มีการย่อตัวลง หนุนราคาทองคำ
สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนี (Destatis) เปิดเผยในเมื่อวานนี้ (25 ส.ค.) ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2565 ขยายตัว 0.1% ในการประมาณการครั้งที่สอง เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งดีกว่าที่คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะซบเซาลงอันเนื่องมาจากภาวะเงินเฟ้อพุ่งสูง และความไม่แน่นอนจากกรณีรัสเซียรุกรานยูเครน
ตัวเลข GDP ล่าสุดนี้สูงกว่าการประมาณการครั้งแรกซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะซบเซาของเศรษฐกิจ ขณะที่ นักเศรษฐศาสตร์ในผลสำรวจของสำนักข่าววอลล์สตรีท เจอร์นัลก็คาดการณ์ถึงภาวะซบเซาเช่นเดียวกัน
เมื่อเทียบเป็นรายปี GDP ไตรมาส 2/2565 ของเยอรมนีขยายตัว 1.7% โดยได้รับการปรับค่าตามปฏิทินและเงินเฟ้อแล้ว ซึ่งสูงเหนือการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ในผลสำรวจของสำนักข่าววอลล์สตรีท เจอร์นัลที่คาดว่าจะขยายตัว 1.4%
3. ตลาดหุ้นยุโรปพุ่งขึ้นหลังการประกาศตัวเลข GDP ของเยอรมนี ยิ่งส่งผลให้สกุลเงินยูโร EUR ให้มีการแข็งค่าขึ้นต่อ หนุนราคาทองคำให้ขึ้นไปได้ถึง 1,765$
ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดแดนบวกเมื่อวานนี้ หลังข้อมูลชี้เศรษฐกิจเยอรมนีขยายตัวเหนือความคาดหมายของนักวิเคราะห์ในไตรมาส 2/2565 แต่ตลาดยังถูกกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินครั้งล่าสุดของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่กำลังจะเผยแพร่ออกมาในช่วงเย็นของเมื่อวานนี้
ดัชนี STOXX 600 เปิดตลาดเมื่อวานนี้ที่ระดับ 432.95 จุด เพิ่มขึ้น 0.90 จุด หรือ +0.21% โดยหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้น 1.2% สู่ระดับสูงสุดในรอบ 12 สัปดาห์ หลังราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้นจากความวิตกเรื่องภาวะอุปทานตึงตัวมากขึ้น
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีเปิดที่ 13,328.49 จุด เพิ่มขึ้น 108.43 จุด หรือ +0.82% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสเปิดที่ 6,432.16 จุด เพิ่มขึ้น 45.4 จุด หรือ +0.71%
สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนี (Destatis) เปิดเผยในเมื่อวานนี้ (25 ส.ค.) ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2565 ขยายตัว 0.1% ในการประมาณการครั้งที่สอง เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งดีกว่าการคาดการณ์ที่ว่า เศรษฐกิจจะซบเซาลงอันเนื่องมาจากภาวะเงินเฟ้อพุ่งสูง และความไม่แน่นอนจากกรณีรัสเซียรุกรานยูเครน
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลการประชุมนโยบายการเงินประจำเดือนก.ค.ของ ECB ที่กำลังจะถูกเผยแพร่ออกมาในเวลา 18:30 ของเมื่อวานนี้ โดย ECB ได้ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมดังกล่าว ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์
และอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ราคาทองคำได้ร่วงลงหลังจากนั้น ราคาทองคำได้มีการปรับตัวลงเรื่อยๆ และได้ร่วงลงไปถึงระดับ 1,752$ อีกครั้งในช่วงหัวค่ำของเมื่อวานนี้
1. ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญอีกตัวหนึ่งของเยอรมนีที่มีการประกาศออกมาในเวลา 15:00 ของเมื่อวานนี้ ออกมาดีกว่าคาดการณ์ แต่ต่ำกว่าตัวเลขครั้งก่อน ทำให้สกุลเงินยูโร EUR เริ่มอ่อนค่า กดดันให้ราคาทองคำเริ่มปรับตัวลง
ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2563 ท่ามกลางความไม่แน่นอนในระดับสุง อันเนื่องมาจากสงครามยูเครนและความวิตกกังวลว่าเศรษฐกิจจะตกต่ำในไตรมาส 3/2565
Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี ระบุในเมื่อวานนี้ (25 ส.ค.) ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเยอรมนีปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 แตะที่ 88.5 จากระดับ 88.7 ในเดือนก.ค.
ขณะที่ นักวิเคราะห์ในผลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเยอรมนีจะอยู่ที่ระดับ 86.8 ในเดือนส.ค.
2. รายงานการประชุมนโยบายทางการเงินของ ECB ที่ได้มีการเผยแพร่ออกมาในเวลา 18:30 ของเมื่อวานนี้ ทำให้สกุลเงินยูโร EUR มีการปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง กดดันราคาทองคำให้มีการปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน
การเปิดเผยรายงานการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) บ่งชี้ว่า ผู้กำหนดนโยบายดูเหมือนมีความวิตกมากขึ้นว่าเงินเฟ้อยังคงอยู่ที่ระดับสูงขณะที่ยูโรโซนเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
และในรายงานการประชุมนี้ยังบ่งบอกถึงความไม่ชัดเจนว่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% หรือไม่ในการประชุมในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ จึงได้กดดันสกุลเงินยูโร EUR ให้มีการปรับตัวลงเช่นกัน
3. การประกาศตัวเลข GDP ของสหรัฐในเวลา 19:30 เมื่อวานนี้ออกมาดีเกินคาด ส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ USD แข็งค่าขึ้นอย่างมากหลังการประกาศตัวเลข กดดันราคาทองคำให้ร่วงลง
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2 ในเมื่อวานนี้ โดยระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 0.6% หลังจากหดตัว 1.6% ในไตรมาส 1
ก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ระบุว่า GDP หดตัว 0.9% ในไตรมาส 2
การที่เศรษฐกิจหดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน ทำให้สหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค
อย่างไรก็ดี นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่า เขาไม่คิดว่าเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย เนื่องจากหลายภาคส่วนในระบบเศรษฐกิจยังคงมีความแข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงตลาดแรงงาน
4. ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ได้มีการประกาศออกมาในเวลา 19:30 เมื่อวานนี้เช่นเดียวกันออกมาดีเกินคาด ยิ่งส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นอย่างมาก และกดดันราคาทองคำให้ร่วงลงมาจนถึงระดับ 1,752$
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 243,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 255,000 ราย
ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง ลดลง 19,000 ราย สู่ระดับ 1.415 ล้านราย
และนี่ก็คือ 7 เหตุผลที่ทำให้ราคาทองคำได้พุ่งขึ้นไปถึง 1,765$ ในช่วงบ่าย ก่อนร่วงลงสู่ระดับ 1,752$ ในเวลาต่อมา!!!