เราไปเริ่มต้นที่ตลาดหุ้นสหรัฐกันก่อนนะครับ
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 600 จุดในวันจันทร์ (22 ส.ค.) โดยหุ้นทุกกลุ่มในตลาดดิ่งลง เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล ในสัปดาห์นี้ โดยคาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,063.61 จุด ร่วงลง 643.13 จุด หรือ -1.91%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,137.99 จุด ลดลง 90.49 จุด หรือ -2.14% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,381.57 จุด ร่วงลง 323.64 จุด หรือ -2.55%
ภาวะการซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างผันผวน โดยดัชนีความผันผวน CBOE หรือ CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก พุ่งขึ้นสู่ระดับ 23.90 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์
ทั้งนี้ นักลงทุนหันมาคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินเดือนก.ย. หลังก่อนหน้านี้คาดว่าจะปรับขึ้นเพียง 0.50%
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 54.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.00-3.25% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และให้น้ำหนักเพียง 45.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50%
ก่อนหน้านี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 68.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และให้น้ำหนักเพียง 31.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75%
หากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในเดือนก.ย. ก็จะส่งผลให้เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 3 หลังจากปรับขึ้น 0.75% ทั้งในเดือนมิ.ย.และก.ค.
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายต่างกล่าวสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในเดือนก.ย.
นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า เฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนก.ย. เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่ง
คำกล่าวของนายบูลลาร์ดสอดคล้องกับถ้อยแถลงของนางแมรี ดาลี ประธานเฟด สาขาซานฟรานซิสโก ซึ่งสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% หรือ 0.75% ในการประชุมเดือนก.ย.
หุ้นทุกกลุ่มปรับตัวร่วงลง นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยร่วงลง 2.84% และดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดิ่งลง 2.78%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีที่พุ่งทะลุ 3% เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นอินวิเดีย ร่วงลง 4.57% หุ้นแอมะซอน ร่วงลง 3.62% หุ้นไมโครซอฟท์ ร่วงลง 2.94% หุ้นแอปเปิล ดิ่งลง 2.3%
ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นทะลุ 3% ในวันนี้ ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 3.028% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.248%
หุ้นเอเอ็มซี เอนเตอร์เทนเมนท์ โฮลดิงส์ (AMC Entertainment Holdings) ทรุดตัวลง 41.92% เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังต่อรายงานข่าวที่ว่า ซีนีเวิลด์ กรุ๊ป (Cineworld Group) ซึ่งเป็นเครือโรงภาพยนตร์ที่มีสาขามากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกและเป็นคู่แข่งของเอเอ็มซี เตรียมประกาศล้มละลาย หลังประสบปัญหาอย่างหนักนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19
หุ้นซิกนิฟาย เฮลธ์ (Signify Health) ทะยานขึ้น 32.08% หลังจากมีรายงานว่า บริษัทยูไนเต็ดเฮลธ์, แอมะซอน, ซีวีเอส เฮลธ์ และออปชัน แคร์ เฮลธ์ ต่างก็ยื่นข้อเสนอซื้อกิจการซิกนิฟาย
นักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 25-27 ส.ค.นี้ ในหัวข้อ "Reassessing Constraints on the Economy and Policy" โดยนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด จะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในวันศุกร์ที่ 26 ส.ค.เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 21.00 น.ตามเวลาไทย
ทั้งนี้ คาดว่าในการประชุมแจ็กสัน โฮลปีนี้ เฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ ทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งการปรับลดขนาดงบดุล (QT) ของเฟด ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ด้วย ซึ่งรวมถึงยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ค., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2565 (ประมาณการครั้งที่ 2) และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.ค.
เราไปดูตลาดหุ้นในทางฝั่งยุโรปกันบ้าง
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันจันทร์ (22 ส.ค.) แตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 1 เดือน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับปริมาณก๊าซที่ตึงตัวจากรัสเซีย, สัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และแนวโน้มเศรษฐกิจที่อ่อนแอ
ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 433.17 จุด ลดลง 4.19 จุด หรือ -0.96% โดยระดับปิดวันนี้เป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค. ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,378.74 จุด ลดลง 117.09 จุด หรือ -1.80%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,230.57 จุด ลดลง 313.95 จุด หรือ -2.32% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,533.79 จุด ลดลง 16.58 จุด หรือ -0.22%
บริษัทก๊าซพรอมเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ (19 ส.ค.) ว่า รัสเซียจะระงับการส่งก๊าซธรรมชาติไปยังยุโรปเป็นเวลา 3 วันในช่วงสิ้นเดือนนี้ ซึ่งเพิ่มแรงกดดันต่อทวีปยุโรป ซึ่งต้องการเพิ่มปริมาณเชื้อเพลิงก่อนถึงฤดูหนาว
หุ้นยูนิเปอร์ ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำของเยอรมนีที่นำเข้าก๊าซจากรัสเซีย ร่วงลง 7.7% และหุ้นฟอร์ทัมซึ่งเป็นบริษัทแม่ ร่วงลง 4.4% ซึ่งส่งผลให้ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีร่วงลงต่ำสุดในรอบเกือบ 7 สัปดาห์
หุ้นเครดิต สวิส ลดลง 0.8% สู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ หลังแต่งตังนายดิซิท โจชิของดอยซ์แบงก์เป็นประธานเจ้าหน้าที่การเงิน และแต่งตั้งฟรานเซสกา แมคโดนาห์ เป็นประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ
หุ้นคาร์ฟูร์ของฝรั่งเศส ร่วงลง 0.9% หลังเปิดเผยว่าจะตรึงราคาสินค้า 100 รายการเพื่อช่วยเหลือประชาชนในการรับมือกับเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นในประเทศ
หุ้นซีนีเวิลด์ ผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์อันดับ 2 ของโลก ร่วง 21.4% หลังยืนยันยื่นขอล้มละลายตามมาตรา 11 ในสหรัฐ
หุ้นอาดิดาสของเยอรมนี ร่วงลง 5.2% หลังเปิดเผยว่า นายคาสปอร์ รอร์สเต็ด ซีอีโอจะลาออกจากตำแหน่งในปีหน้า
จุดสนใจของตลาดจะอยู่ที่การเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของยูโรโซนในวันอังคารนี้ และการเปิดเผยรายงานการประชุมครั้งก่อนของ ECB ในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะบ่งชี้ถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป
ตลาดหุ้นอังกฤษปิดลดลงในวันจันทร์ (22 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับวิกฤตค่าครองชีพที่ย่ำแย่ลง และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางต่าง ๆ เพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อ
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นอังกฤษปิดที่ 7,533.79 จุด ลดลง 16.58 จุด หรือ -0.22%
หุ้นกลุ่มสายการบิน, อุตสาหกรรม, ก่อสร้างบ้าน และค้าปลีก ร่วงลงมากที่สุด
แต่หุ้นกลุ่มส่งออกยังคงได้แรงหนุนจากค่าเงินปอนด์ที่ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่กลางเดือนก.ค.
บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนยังคงถูกกดดันจากการที่ธนาคารกลางรายใหญ่ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย, ราคาพลังงานในยุโรปพุ่งขึ้น และคนงานท่าขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์ของอังกฤษทำการประท้วงเป็นวันที่ 8 แล้ว
นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยของอังกฤษหลังข้อมูลเมื่อสัปดาห์ที่แล้วบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อพุ่งขึ้นเหนือระดับ 10%, ค่าแรงต่ำกว่าเงินเฟ้อ และความเชื่อมั่นผู้บริโภคดิ่งลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
นักเศรษฐศาสตร์ของซิตี้กรุ๊ปคาดว่า เงินเฟ้อในอังกฤษจะแตะระดับสูงสุดที่ 18% ในช่วงต้นปี 2566 ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางอังกฤษถึง 9 เท่า
นอกจากนี้ นักลงทุนวิตกกังวลก่อนการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่แจ๊กสัน โฮล รัฐไวโอมิ่งในสัปดาห์นี้
หุ้นวิซซ์ แอร์ ร่วงลง 9.8% หลังเปิดเผยว่า ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินจะลาออกจากตำแหน่ง
หุ้นซีนีเวิลด์ ผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์อันดับ 2 ของโลก ร่วงลง 21.4% หลังเปิดเผยว่ากำลังพิจารณาทางเลือกต่าง ๆ รวมถึงการยื่นขอล้มละลายในสหรัฐ
และเรามาดูตลาดหุ้นเอเชียในเช้านี้กันบ้างครับ
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดลบในวันนี้ โดยปรับตัวลงตามดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐที่ร่วงลงเมื่อคืนวานนี้ และนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์
ทั้งนี้ ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 28,580.20 จุด ลดลง 214.3 จุด หรือ -0.74%
หุ้นลบนำตลาดเช้านี้ได้แก่ กลุ่มอุปกรณ์การขนส่ง, กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า และกลุ่มประกัน
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดลบในวันนี้ โดยปรับตัวลงตามตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่เช้านี้หลังถูกกดดันจากการที่ตลาดหุ้นสหรัฐปิดร่วงลงเมื่อคืนวานนี้ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดตลาดที่ระดับ 3,274.43 จุด ลดลง 3.36 จุด หรือ -0.10%
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดตลาดลดลงเช้านี้ โดยปรับตัวลงตามดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐที่ปิดร่วงลงเมื่อคืนวานนี้ และตลาดยังคงถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นผลจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางต่าง ๆ เพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ ดัชนีฮั่งเส็งเปิดตลาดที่ระดับ 19,644.23 จุด ลดลง 12.75 จุด หรือ -0.06%
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบในวันนี้ หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.เมื่อคืนนี้ โดยได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเรื่องการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 28,580.20 จุด ลดลง 214.3 จุด หรือ -0.74%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 19,644.23 จุด ลดลง 12.75 จุด หรือ -0.06% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,274.43 จุด ลดลง 3.36 จุด หรือ -0.10%
นักลงทุนจะจับตาตลาดต่าง ๆ เพื่อประเมินปฏิกิริยาต่อการปรับตัวลงอย่างหนักหน่วงของตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ หลังดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงกว่า 600 จุด ซึ่งเป็นการทรุดตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. เนื่องจากนักลงทุนกลับมาวิตกกังวลเรื่องการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดอีกครั้ง ขณะที่ดัชนี S&P500 ร่วงประมาณ 2% เช่นเดียวกัน
"นักลงทุนหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเมื่อคืนนี้ โดยการขาดแคลนข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญทำให้เกิดความวิตกกังวล ก่อนที่นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดจะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮล วันศุกร์นี้" นายทาปาส สตริกแลนด์จากธนาคารเนชันแนล ออสเตรเลีย แบงก์กล่าว
ด้านดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของออสเตรเลียส่งสัญญาณหดตัวครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ค. ขณะที่สิงคโปร์เตรียมเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อในช่วงบ่ายวันนี้
ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่เปิดเผยในวันนี้ เกาหลีใต้เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค., ออสเตรเลียเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นเดือนส.ค.จากเอสแอนด์พี โกลบอล, ฝรั่งเศสเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นเดือนส.ค.จากเอสแอนด์พี โกลบอล, เยอรมนีเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นเดือนส.ค.จากเอสแอนด์พี โกลบอล, ธนาคารกลางอินโดนีเซียประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย, อียูเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นเดือนส.ค.จากเอสแอนด์พี โกลบอล, อังกฤษเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นเดือนส.ค.จากเอสแอนด์พี โกลบอล/ซีไอพีเอส และสหรัฐเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นเดือนส.ค.จากเอสแอนด์พี โกลบอล และยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ค.