รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

รายงานการประชุมเฟดเมื่อคืนนี้ ส่งผลต่อตลาดในวันนี้อย่างไร

เผยแพร่ 18/08/2565 20:17
อัพเดท 09/07/2566 17:32

เมื่อคืนนี้เวลา 01:00 ได้มีการเผยแพร่รายงานการประชุมนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ รายงานการประชุม FOMC ออกมานะครับ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 26-27 ก.ค. โดยระบุว่า กรรมการเฟดมีความมุ่งมั่นที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงที่สุดเท่าที่จำเป็น จนกว่าจะสามารถควบคุมเงินเฟ้อได้ แต่ในขณะเดียวกัน เฟดก็ส่งสัญญาณว่าอาจจะชะลอการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยเฟดตระหนักว่าเศรษฐกิจของสหรัฐในขณะนี้มีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะขาลง

รายงานการประชุมซึ่งเผยแพร่ในวันพุธ (17 ส.ค.) ตามเวลาสหรัฐระบุว่า กรรมการเฟดพบหลักฐานเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่บ่งชี้ว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในสหรัฐเริ่มลดน้อยลง อย่างไรก็ดี กรรมการเฟดมองว่า การเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจจะส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมของภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้ภาคส่วนเหล่านี้ลดการใช้จ่ายและอาจส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง

"แต่ถึงกระนั้นก็ตาม กรรมการเฟดย้ำว่า การชะลอตัวของอุปสงค์มีบทบาทสำคัญต่อการลดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ"

รายงานการประชุมยังระบุด้วยว่า แม้ปัญหาเงินเฟ้อเป็นประเด็นหลักที่สร้างความกังวล แต่เฟดเล็งเห็นว่า จำเป็นอย่างยิ่งที่กรรมการเฟดจะอภิปรายกันในช่วงหลายเดือนข้างหน้าว่า ควรจะชะลอการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด และทำอย่างไรจึงจะรู้ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่ผ่านมานั้นสามารถสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อได้อย่างเป็นรูปธรรม

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า มีแนวโน้มว่าเฟดอาจจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนหน้า หลังจากรายงานการประชุมเฟดระบุว่า "เมื่อพิจารณาถึงความจำเป็นที่จะต้องใช้เวลาในการประเมินว่า การดำเนินนโยบายคุมเข้มด้านการเงินส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างไร เฟดจึงมองว่า อาจเป็นเรื่องเหมาะสมที่จะชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ย โดยอาจจะปรับขึ้น 0.50% หรืออาจปรับขึ้นเพียง 0.25% จากที่เคยปรับขึ้นรุนแรงถึง 0.75% ในการประชุมเดือนมิ.ย.และก.ค.

สำหรับการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 26-27 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น คณะกรรมการเฟดมีมติปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน และถือเป็นการดำเนินการที่เข้มงวดที่สุดนับตั้งแต่ที่เฟดกำหนดให้อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเป็นเครื่องมือสำคัญด้านนโยบายการเงินในช่วงทศวรรษ 1990 ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายในขณะนี้อยู่ที่ระดับ 2.25-2.50% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2561

และที่สำคัญ คือ เฟดยังไม่มีแผนการที่จะเปลี่ยนแปลงนโยบายการดึงสภาพคล่องออกจากตลาด หรือ Quantitative Tightening หรือที่เรียกกันว่า การทำ QT นะครับ นั่นหมายความว่าเฟดจะทำ QT เพิ่มเป็น 2 เท่าจาก 4.75 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน เพิ่มขึ้นเป็น 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน นับตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนนี้เป็นต้นไป ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ยังกดดันตลาดพอสมควร ถึงแม้เฟดจะมีโอกาสที่จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้าก็ตาม

และจากปัจจัยนี้เองที่ทำให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้มีการฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งในวันนี้ โดยดัชนีดอลลาร์สหรัฐ DXY ได้พุ่งขึ้นไปใกล้แตะระดับ 107 จุดอีกครั้ง

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในวันนี้ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมซึ่งระบุว่า กรรมการเฟดมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อฉุดเงินเฟ้อให้ลดลงสู่ระดับที่สามารถควบคุมได้

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ได้ขึ้นไปถึงระดับ 106.95 จุดซึ่งเป็นระดับสูงสุดในวันนี้ ก่อนที่จะมีการย่อตัวลงมาอีกครั้งในช่วงบ่าย

นักวิเคราะห์จากบริษัทสปาร์ตัน แคปิตอล ซิเคียวริตีส์กล่าวว่า "เฟดยังคงมีจุดยืนในการดำเนินนโยบายการเงินแบบสายเหยี่ยว (Hawkish) แต่ในขณะเดียวกันเฟดก็เปิดประตูให้กับโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.50% ในการประชุมเดือนก.ย. มากกว่าที่จะปรับขึ้นรุนแรงถึง 0.75%"

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าแตะกรอบบน 134 เยน หลังรายงานการประชุมประจำวันที่ 26-27 ก.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าเฟดจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างสหรัฐกับญี่ปุ่นกว้างขึ้นอีก

และการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ได้กดดันราคาทองคำให้ลงมาทำระดับต่ำสุดในวันนี้ที่ระดับ 1,760$ ก่อนที่จะมีการฟื้นตัวขึ้นมาอีกครั้งในช่วงบ่าย

และสุดท้ายเราไปดูตลาดหุ้นทั่วโลกกันครับ ว่าขานรับข่าวรายงานการประชุมเฟดนี้อย่างไร

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (17 ส.ค.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมซึ่งระบุว่า กรรมการเฟดมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อฉุดเงินเฟ้อให้ลดลงสู่ระดับที่สามารถควบคุมได้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,980.32 จุด ลดลง 171.69 จุด หรือ -0.50%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,274.04 จุด ลดลง 31.16 จุด หรือ -0.72% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,938.12 จุด ลดลง 164.43 จุด หรือ -1.25%

ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวผันผวนในระหว่างวัน ก่อนที่จะปิดตลาดในแดนลบ หลังจากรายงานการประชุมประจำวันที่ 26-27 ก.ค.ของเฟดระบุว่า กรรมการเฟดมีความมุ่งมั่นที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงที่สุดเท่าที่จำเป็น จนกว่าจะสามารถควบคุมเงินเฟ้อได้ แต่ในขณะเดียวกัน เฟดก็ส่งสัญญาณว่าอาจจะชะลอการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยตระหนักว่าเศรษฐกิจของสหรัฐในขณะนี้มีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะขาลง

ตลาดยังถูกกดดันจากการที่ทาร์เก็ต ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยว่า กำไรสุทธิในไตรมาส 2/2565 ทรุดตัวลงเกือบ 90% สู่ระดับ 183 ล้านดอลลาร์ หรือ 39 เซนต์/หุ้น จากระดับ 1.82 พันล้านดอลลาร์ หรือ 3.65 ดอลลาร์/หุ้นในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 72 เซนต์/หุ้น เนื่องจากบริษัทต้องปรับลดราคาสินค้าเพื่อระบายสต็อกจำนวนมากที่ยังคงอยู่ในคลังสินค้า

ผลประกอบการที่น่าผิดหวังของทาร์เก็ตได้ฉุดกลุ่มค้าปลีกร่วงลงด้วย โดยหุ้นทาร์เก็ต ร่วงลง 2.72% หุ้นโฮม ดีโปท์ ปรับตัวลง 0.55% หุ้นเบสท์ บาย ดิ่งลง 3.17% หุ้นนอร์ดสตรอม ร่วงลง 3.97% หุ้นไฟฟ์ บีโลว์ (Five Below) ร่วงลง 2.31%

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นอัลฟาเบท ร่วงลง 1.77% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ดิ่งลง 1.85% ไมโครซอฟท์ ลดลง 0.26% หุ้นเมตา แพลทฟอร์มส์ ร่วงลง 2.57% หุ้นแอมะซอน ร่วงลง 1.85%

และการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และการร่วงลงของดัชนี Nasdaq นี้เองที่ได้ส่งผลให้ราคา BTC ได้ร่วงลงในเมื่อวานนี้ โดยได้ลงไปแตะระดับต่ำสุดที่บริเวณ 23,200$

และเราไปดูทางตลาดหุ้นเอเชียในช่วงเช้านี้กันบ้าง

ในช่วงเวลา 08:30 ที่ผ่านมา ได้มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของออสเตรเลียออกมานะครับ นั่นคือตัวเลขการจ้างงานและอัตราการว่างงานของออสเตรเลีย

สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) รายงานในวันนี้ว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนก.ค.ของออสเตรเลียลดลง 40,900 ตำแหน่ง สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 25,000 ตำแหน่ง

ขณะที่อัตราว่างงานเดือนก.ค.ลดลงสู่ระดับ 3.4% เนื่องจากอัตราการมีส่วนร่วมในตลาดแรงงานปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 66.4% ในเดือนก.ค. จากระดับ 66.8% ในเดือนมิ.ย.

จากตัวเลขการจ้างงานของออสเตรเลียที่ออกมาแย่จนถึงขั้นติดลบ ได้กดดันสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย AUD ให้อ่อนค่าลงในช่วงเช้า

คู่สกุลเงิน AUDUSD AUDJPY AUDCHF ได้มีการปรับตัวลงทั้งหมด

สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าสู่ระดับ 0.6935 ดอลลาร์สหรัฐหลังจากออสเตรเลียเปิดเผยข้อมูลแรงงานดังกล่าว ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลออสเตรเลียขยับลงเล็กน้อย

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานที่อ่อนแอจะไม่เป็นปัจจัยขัดขวางความพยายามของธนาคารกลางออสเตรเลียในการปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แต่อาจจะทำให้ธนาคารกลางพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในการประชุมเดือนก.ย. หลังจากที่ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 1.85% ในการประชุมเมื่อวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 4 ครั้งติดต่อกัน สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลียรายงานว่า ขณะนี้ตัวเลขเงินเฟ้อของออสเตรเลียอยู่ที่ระดับ 6.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2533

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ โดยเคลื่อนไหวตามตลาดหุ้นวอลล์สตรีทที่ปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 26-27 ก.ค. โดยชี้ว่ากรรมการเฟดพบหลักฐานเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่บ่งชี้ว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในสหรัฐเริ่มลดน้อยลง

ตลาดหุ้นผันผวน เนื่องจากนักลงทุนประเมินรายงานประชุมเฟด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเฟดจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเชิงรุกต่อไปจนกว่าจะสามารถสกัดเงินเฟ้อสำเร็จ

ขณะเดียวกัน เฟดส่งสัญญาณด้วยว่าอาจชะลอระดับการคุมเข้มนโยบายการเงินเร็ว ๆ นี้ ในขณะที่ตระหนักถึงภาวะเศรษฐกิจสหรัฐและความเสี่ยงขาลงสำหรับการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)

ก่อนที่ตลาดหุ้นเอเชีย 5 ตลาดหลักจะพากันปิดลบทั้งหมดในวันนี้

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดลบในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดัชนีนิกเกอิพุ่งขึ้นทะลุระดับ 29,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือนเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ นิกเกอิยังปรับตัวลงตามตลาดหุ้นสหรัฐที่ร่วงลงเมื่อคืนนี้ หลังรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บ่งชี้ว่าเฟดยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 28,942.14 จุด ลดลง 280.63 จุด หรือ -0.96%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดลบในวันนี้ หลังมีรายงานว่าตัวเลขจ้างงานของออสเตรเลียลดลงในเดือนก.ค. ซึ่งสวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ดัชนี S&P/ASX 200 ปิดที่ 7,112.80 จุด ลดลง 14.90 จุด หรือ -0.21% และดัชนี All Ordinaries ปิดที่ 7,357.70 จุด ลดลง 23.40 จุด หรือ -0.32%

ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวลดลงวันนี้ โดยนักลงทุนชะลอการซื้อขายหลังรายงานการประชุมบ่งชี้ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มุ่งมั่นที่จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงที่สุดเท่าที่จำเป็น เพื่อฉุดเงินเฟ้อให้ลดลงสู่ระดับที่สามารถควบคุมได้

ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ (KOSPI) ปิดวันนี้ที่ 2,508.05 จุด ลดลง 8.42 จุด หรือ -0.33%

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดลบในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่าเศรษฐกิจจีนจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการทรุดตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์

รายงานระบุว่า กระแสเงินสดหมุนเวียนของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในจีน ทรุดตัวลง 24% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี

ทั้งนี้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนชะลอตัวลงตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยมีสาเหตุมาจากการผิดนัดชำระหนี้ของบริษัทเอเวอร์แกรนด์ ยักษ์ใหญ่แห่งวงการอสังหาริมทรัพย์จีน ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนกังวลว่าวิกฤตการณ์ดังกล่าวอาจสร้างความเสียหายอย่างหนักต่อเศรษฐกิจจีน เนื่องจากภาคอสังหาริมทรัพย์ถือเป็นเสาหลักสำคัญในการขยายตัวของจีน โดยมีสัดส่วนผลผลิตทางเศรษฐกิจสูงเกือบ 30%

คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน (NHC) แถลงเมื่อวานนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในประเทศเพิ่มอีก 566 ราย ซึ่งส่วนหนึ่งอยู่ในมณฑลไห่หนาน (ไหหลำ) 482 ราย

บริษัท เทนเซ็นต์ โฮลดิ้งส์ ยักษ์ใหญ่แห่งวงการเกมจากจีน และผู้ให้บริการแพลตฟอร์มวีแชท (WeChat) เปิดเผยว่า รายได้รายไตรมาสลดลงเป็นครั้งแรก เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการขาดการอนุมัติเกมใหม่ ๆ และมาตรการจำกัดเวลาเล่นเกม รวมถึงการล็อกดาวน์เพื่อสกัดโควิด-19 และพิษจากเศรษฐกิจที่อ่อนแอจนกระทบยอดขายโฆษณา

เทนเซ็นต์ระบุว่า รายได้ของบริษัทลดลง 3% สู่ระดับ 1.34034 แสนล้านหยวน (1.978 หมื่นล้านดอลลาร์) ในช่วงเวลาสามเดือนซึ่งสิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.

ทั้งนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 3,277.54 จุด ลดลง 14.98 จุด หรือ -0.46%

ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดลดลงในวันนี้ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมซึ่งระบุว่า กรรมการเฟดมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อฉุดเงินเฟ้อให้ลดลงสู่ระดับที่สามารถควบคุมได้

ดัชนีฮั่งเส็งปิดตลาดที่ระดับ 19,763.91 จุด ลดลง 158.54 จุด หรือ -0.80%

และจากการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นจีนในช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยเฉพาะดัชนี China A50 ได้ส่งผลให้สกุลเงินหยวน CNY มีการอ่อนค่าลงอย่างหนัก ประกอบกับการที่สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย AUD ได้อ่อนค่าลงในช่วงเช้าที่ผ่านมาเช่นเดียวกัน จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันราคาทองให้ร่วงลงไปแตะระดับต่ำสุดที่ 1,760$ ดังที่กล่าวมาแล้ว

และสุดท้ายเราไปดูทางตลาดหุ้นยุโรปกันครับ

หุ้นยุโรปเปิดตลาดทรงตัวในวันนี้ โดยดัชนี STOXX 600 ขยับลงเล็กน้อยท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน หลังสมาชิกคณะกรรมการธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่อีกรอบในเดือนก.ย. แม้ความเสี่ยงเรื่องเศรษฐกิจถดถอยเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่นักลงทุนจับตาดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ค.ของยูโรโซนซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ในวันนี้

ดัชนี STOXX 600 เปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 438.30 จุด ลดลง 0.73 จุด หรือ -0.17%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีเปิดวันนี้ที่ 13,653.82 จุด เพิ่มขึ้น 27.11 จุด หรือ +0.20% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสเปิดวันนี้ที่ 6,530.58 จุด เพิ่มขึ้น 2.26 จุด หรือ +0.03% โดยเคลื่อนไหวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบหนึ่งสัปดาห์

หุ้นกลุ่มเหมืองและธนาคารร่วงนำตลาด ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น 0.4% หลังราคาน้ำมันดิบเริ่มฟื้นตัว

และเราจะมาอัพเดตตลาดในช่วงบ่ายกันต่อในบทวิเคราะห์ถัดไปนะครับ ว่าการประกาศอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนนั้นออกมาเป็นอย่างไร และปัจจัยอะไรที่ได้ทำให้ดัชนีดอลลาร์สหรัฐมีการย่อตัวลง ปัจจัยอะไรที่ทำให้สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียมีการฟื้นตัวขึ้น และปัจจัยอะไรที่ทำให้ตลาดหุ้น ทองคำ และ BTC ได้ฟื้นตัวขึ้นในช่วงบ่ายที่ผ่านมา!!!

ความคิดเห็นล่าสุด

ขอบคุณมากครับอาจารย์
เป็นแนวทางการลงทุนที่ดีเยี่ยมค่ะ
ขอบคุณครับอาจาน
ขอบคุณค่ะ
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย