สรุป หลังจากวันศุกร์ที่ผ่านมาราคาทองคําปิดลดลงมากถึง 23.27 ดอลลาร์ต่อออนซ์ รับแรงกดดันหลักจากการแข็งค่าของดัชนีดอลลาร์จากแรงซื้อในฐานะสกุลเงิน ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่งมากระตุ้นความกังวลว่าอุปสงค์ทองคําจากจีนซึ่งถือเป็นผู้บริโภคทองคํา ที่มากที่สุดในโลกจะ ชะลอตัวลง หลังจากจีนเปิดเผยยอดค้าปลีก และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค. ออกมาต่ํากว่าคาด ขณะที่ในวันนี้ราคาทองคํารแกว่งตัว sideway ในกรอบ 1,773.10-1,783.13 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแรงหนุนมาจากสํานักงานพลังงานปรมาณูสากล (IAEA) ได้เตือนถึงภัยพิบัติที่ หากการสู้รบสร้างความเสียหายแก่ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Zaporizhzhia ของยูเครน ประกอบกับจีนได้คว่ําบาตรเจ้าหน้าที่ไต้หวัน 7 ราย ฐานสนับสนุนเอกราชของไต้หวัน ซึ่งเป็นอุปสรรคใหญ่ที่สุดของการ รวมชาติจีน และเป็นอันตรายใหญ่หลวงต่อการฟื้นฟูประเทศ อย่างไรก็ตามมีแรงกดดันทองคําด้วยเช่นกันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยเมื่อเทียบกับเงินเยน แล้วตอลลาร์แข็งค่าขึ้นบริเวณกรอบล่าง 133 เยน จากการคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐกับญี่ปุ่นจะทิ้งช่วงห่างมากขึ้น รวมไปถึงค่าจ้างในอังกฤษปรับตัวลง รุนแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนเม.ย.-มิ.ย. สวนทางราคาสินค้าและเงินเฟ้อที่ยังคงสูง และอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอยในอังกฤษ ปัจจัย ดังกล่าวจะอาจกดดันเงินปอนด์ให้อ่อนค่าลง ทําให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอีกทางหนึ่ง และกลับมาเป็นปัจจัยลบต่อทองคํา
คืนนี้ติดตามการเปิดเผยการอนุญาตก่อสร้าง, ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน, อัตราการใช้กําลังผลิตและการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐ ทั้งนี้ให้เน้นซื้อขายทํากําไรระยะสั้น โดยเปิดสถานะซื้อหากราคา | สามารถยืนเหนือ 1,771-1,754 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และทยอยขายทํากําไรหากราคายังไม่ยืนเหนือโซน 1,794 - 1,807 ดอลลาร์ต่อออนซ์
คําแนะนํา เปิดสถานะซื้อ $1,771-1,754
จุดทํากําไร ขายเพื่อทํากําไร $1,794-1,784
ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสถานะซื้อหากผ่าน $1,754
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th