รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

ทำไมราคาทองคำ น้ำมัน รวมไปถึง BTC ถึงได้ร่วงลงในวันนี้

เผยแพร่ 15/08/2565 20:36
อัพเดท 09/07/2566 17:32

จากที่ได้เขียนบทวิเคราะห์เอาไว้ในช่วงเช้านะครับ ว่าทิศทางของตลาดในวันนี้จะขึ้นอยู่กับการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของจีนในช่วง 09:00 ที่ผ่านมา และผลปรากฏว่า...ตัวเลขเศรษฐกิจจีนออกมาแย่ทุกตัวครับ!!!

เราจะมาสรุปการประกา่ศตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญของจีนที่ได้มีการประกาศออกมาในช่วงเช้าที่ผ่านมากันก่อนครับ

1. จีนเผยราคาบ้านใหม่ยังทรงตัวในเดือน ก.ค. หลังผู้ซื้อหยุดจ่ายค่าผ่อนบ้าน

สำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS) ของจีนเปิดเผยในวันนี้ (15 ส.ค.) ว่า ราคาบ้านใหม่ในเดือน ก.ค.ของจีนทรงตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 โดยได้รับแรงกดดันจากกรณีที่ผู้ซื้อบ้านแห่คว่ำบาตรการจำนองกู้ซื้อบ้าน เนื่องจากจีนเผชิญวิกฤตสร้างบ้านไม่แล้วเสร็จตามสัญญา หลังความเชื่อมั่นเปราะบางอยู่แล้ว แม้ภาครัฐจะเดินหน้าออกมาตรการกระตุ้นอย่างต่อเนื่องก็ตาม

รายงานระบุว่า ราคาบ้านใหม่ในเดือน ก.ค. ลดลง 0.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเป็นอัตราการลดลงที่เร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.ย. 2558 หลังปรับตัวลดลง 0.5% ในเดือน มิ.ย.

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 1 ใน 4 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เผชิญปัญหาผู้ซื้อทั่วประเทศพร้อมใจกันหยุดจ่ายเงินค่าผ่อนบ้านในเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากการบังคับใช้มาตรการสกัดโควิด-19 อันเข้มงวดและปัญหาหนี้สินของนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทำให้การสร้างบ้านล่าช้าออกไปและมีการระงับโครงการก่อสร้างจำนวนมาก

2. จีนเผยยอดค้าปลีก-การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ก.ค.ต่ำกว่าคาด ขณะจับตาเงินเฟ้อทั่วโลก

สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจเดือน ก.ค.ในวันนี้ โดยตัวเลขต่ำกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์อย่างมาก พร้อมเตือนให้ระวังความเสี่ยงจากเงินเฟ้อทั่วโลกที่อยู่ในระดับสูง

NBS ระบุว่า ยอดค้าปลีกเดือน ก.ค.ปรับตัวขึ้น 2.7% เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 5% และชะลอตัวลงจากเดือน มิ.ย.ที่มีการขยายตัว 3.1% โดยในภาคค้าปลีกนั้นสินค้าประเภทการจัดเลี้ยง เฟอร์นิเจอร์ และสินค้าที่เกี่ยวกับการก่อสร้างมียอดขายลดลง

ขณะเดียวกัน ยอดขายหมวดยานยนต์ หนึ่งในหมวดที่มีมูลค่ามากที่สุดในบรรดาภาคค้าปลีกของจีนนั้น ปรับตัวเพิ่มขึ้น 9.7% ส่วนทองคำ เงิน และเครื่องประดับมียอดขายเพิ่มขึ้นแข็งแกร่งถึง 22.1%

ส่วนการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ก.ค.ของจีนขยายตัวขึ้น 3.8% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.6% และลดลงจากที่เพิ่มขึ้น 3.9% ในเดือน มิ.ย. ขณะที่การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้เพิ่มขึ้น 5.7% เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 6.2%

สำหรับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวลงในเดือน ก.ค.เมื่อเทียบกับเดือน มิ.ย. ขณะที่การลงทุนในการผลิตชะลอตัวลง ส่วนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มขึ้นจากเดือน มิ.ย.เล็กน้อย

นอกจากนี้ อัตราว่างงานของกลุ่มคนอายุ 16-24 ปีของจีนนั้นสูงถึง 19.9% ขณะที่อัตราว่างงานของประชาชนทุกช่วงอายุในเมืองต่าง ๆ อยู่ที่ 5.4%

"เศรษฐกิจจีนยังคงอยู่ในช่วงของการฟื้นตัว" NBS ระบุ อย่างไรก็ดี NBS เตือนให้ระวังความเสี่ยงจากเงินเฟ้อสูงทั่วโลก

3. จีนเผยยอดลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ช่วงเดือน ม.ค.-ก.ค.ลดลง 6.4%

สำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS) ของจีนเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดการลงทุนในด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของจีน ลดลง 6.4% ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ เมื่อเทียบเป็นรายปี

รายงานระบุว่า ยอดการลงทุนในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในช่วงเวลาดังกล่าวอยู่ที่ 7.95 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 1.18 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) ขณะที่การลงทุนในอาคารที่พักอาศัยลดลงมาอยู่ที่ 6.02 ล้านล้านหยวน ลดลง 5.8% เมื่อเทียบรายปี

ทั้งนี้ ยอดขายที่อยู่อาศัยเพื่อการพาณิชย์ในแง่ของพื้นที่โดยรวมอยู่ที่ 781.78 ล้านตารางเมตร ลดลง 23.1% เมื่อเทียบรายปี โดยมีมูลค่าลดลง 28.8% สู่ระดับ 7.58 ล้านล้านหยวน

NBS กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของจีนอยู่ที่ระดับ 95.26 จุด ในเดือน ก.ค.

4. เจพีมอร์แกนคาดผลประกอบการบริษัทอสังหาฯจีนอาจทรุดลง 30% ในครึ่งปีแรก

นักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โคคาดการณ์ว่า ผลประกอบการของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของจีนอาจลดลงราว 30% ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ และมีแนวโน้มจะบั่นทอนความเชื่อมั่นผู้บริโภค

ทีมนักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกนระบุในรายงานว่า "ไม่มีบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใดของจีนที่มีภูมิต้านทาน ท่ามกลางความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดอสังหาริมทรัพย์และนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับสภาพคล่องของบรรดาบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกนได้ปรับลดคาดการณ์รายได้ของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายราย ซึ่งรวมถึงบริษัทซีไอเอฟไอ โฮลดิ้งส์ กรุ๊ป โค และบริษัทเคดับบลิวจี กรุ๊ป โฮลดิ้งส์

ในปีนี้ มูลค่าของหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์จีนและพันธบัตรสกุลเงินดอลลาร์หายไปอย่างน้อย 9 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่ตลาดที่อยู่อาศัยเผชิญภาวะฟองสบู่แตก และเกิดวิกฤติหนี้ที่รุนแรง ซึ่งอาจทำให้สถานการณ์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนเลวร้ายลงอีก

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ราคาบ้านของจีนลดลง 0.1% ในเดือน ก.ค. โดยเป็นการลดลงเดือนที่ 11 ติดต่อกัน ซึ่งบ่งชี้ว่าแนวทางการบรรเทาวิกฤติอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลจีนนั้นยังคงล้มเหลว

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ระบุว่า หากรัฐบาลออกนโยบายที่แข็งแกร่งกว่าเดิมและยอดขายฟื้นตัวขึ้น ราคาหุ้นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ก็มีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวขึ้นด้วย นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดว่าราคาหุ้นของหลายบริษัทจะไม่เผชิญกับการถูกระงับซื้อขาย รวมถึงหุ้นของบริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป และสือเม่า กรุ๊ป โฮลดิงส์ โดยบริษัททั้งสองแห่งจะเปิดเผยผลประกอบการครึ่งปีแรกในเร็วๆนี้

และจากการที่ตัวเลขเศรษฐกิจจีนนั้นออกมาแย่ทุกตัว ได้ส่งผลให้สกุลเงินหยวน CNY ร่วงลงในวันนี้ โดยสกุลเงินหยวนร่วงลง 0.36% เมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ

และจากการที่สกุลเงินหยวน CNY นั้นได้ร่วงลงนั้นได้ทำให้สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย AUD และสกุลเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ NZD ได้ร่วงลงเช่นกัน เนื่องจากประเทศออสเตรเลียนั้นเป็นผู้ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์รายใหญ่ไปยังประเทศจีน และจากการที่ตัวเลขเศรษฐกิจออกมาแย่ จึงทำให้สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียได้ร่วงลงด้วยนั่นเอง

และเนื่องจากจีนเป็นประเทศผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ของโลก ดังนั้นเมื่อเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลง จึงทำให้มีแนวโน้มที่จะทำให้ความต้องการใช้น้ำมันในจีนน้อยลงด้วยเช่นกัน จึงได้ส่งผลให้ราคาน้ำมันได้ร่วงลงด้วยนั่นเอง

โดยราคาน้ำมันดิบ WTI ได้ร่วงลงถึง 4.72% หลุดระดับ 87 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

และราคาน้ำมันดิบ BRENT ได้ร่วงลงถึง 4.66% หลุดระดับ 93 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

และจากการร่วงลงของราคาน้ำมัน จึงได้ส่งผลให้สกุลเงินดอลาร์แคนาดา CAD ซึ่งมีความสัมพันธ์กับราคาน้ำมันเป็นอย่างมากได้ร่วงลงด้วยเช่นกัน

และจากการร่วงลงของสกุลเงินหลักอย่างสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย AUD และสกุลเงินดอลลาร์แคนาดานี้เอง ที่ได้ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ DXY พุ่งขึ้นถึง 0.53% และกลับมายืนเหนือระดับ 106 จุดได้อีกครั้ง

ซึ่งการพุ่งขึ้นของดัชนีดอลลาร์สหรัฐ DXY นี้เอง ที่ได้กดดันราคาทองคำให้ร่วงลงในวันนี้ โดยราคาทองคำได้ร่วงลงจากระดับ 1,802$ ลงมาถึง 1,773$ ในขณะที่กำลังเขียนบทความอยู่นี้ โดยราคาทองคำมีการร่วงลงเกือบ 30$ และในขณะนี้ราคาทองคำได้ร่วงลงมาถึง 1.56%

และแนวรับสำคัญของทองในขณะนี้อยู่ที่ 1,773$ นะครับ ส่วนแนวรับถัดไปจะอยู่ที่ 1,768$ 1,759$ และ 1,756$ ตามลำดับครับ

ในส่วนของตลาดสกุลเงินนั้น ดังที่กล่าวไปในบทวิเคราะห์ตอนเช้าแล้ว สกุลเงินเยน JPY มีการแข็งค่าขึ้นอย่างมากจากการที่ GDP ของญี่ปุ่นนั้นออกมาดีมาก เศรษฐกิจของญี่ปุ่นกลับมามีการขยายตัวอีกครั้งในไตรมาสที่ 2 หลังจากที่ GDP ของญี่ปุ่นออกมาติดลบในไตรมาสแรก และจากการที่สกุลเงินเยน JPY นั้นเป็นสกุลเงินปลอดภัยจากการที่ตัวเลขทางเศรษฐกิจของจีนออกมาย่ำแย่

ในขณะที่สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย AUD สกุลเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ NZD และสกุลเงินดอลลาร์แคนาดา CAD ได้ร่วงลงตามสกุลเงินหยวน CNY ของจีนดังที่ได้กล่าวไปแล้ว

ดังนั้น คู่สกุลเงิน EURJPY GBPJPY CADJPY AUDJPY NZDJPY และ CHFJPY ได้มีการร่วงลงทั้งหมด โดยเฉพาะคู่สกุลเงิน AUDJPY NZDJPY และ CADJPY ที่ได้ร่วงลงหนักกว่าเพื่อน

ส่วน USDJPY ได้มีการปรับตัวลงไม่มากนัก เนื่องจากการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ USD ดังที่ได้กล่าวไปแล้วเช่นกัน

ในขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปได้ร่วงลงเช่นกันในตอนนี้จากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงในจีน จึงทำให้สกุลเงินฟรังก์สวิส CHF แข็งค่าขึ้นในฐานะที่เป็นสกุลเงินปลอดภัยเช่นเดียวกัน

คู่สกุลเงิน EURCHF AUDCHF NZDCHF และ CADCHF ได้มีการร่วงลงเช่นเดียวกัน

และจากการที่ตลาดหุ้นยุโรปฟิวเจอร์สได้ร่วงลง รวมไปถึงตลาดหุ้นสหรัฐฟิวเจอร์สที่ได้ร่วงลงในช่วง 13:00 ที่ผ่านมา จากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่กลับมาอีกครั้งจากสัญญาณการชะลอตัวอย่างชัดเจนของประเทศจีนที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของโลก จึงได้ส่งผลให้ราคา BTC ได้ร่วงลงจากระดับ 25,200$ ซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญที่ได้ให้ไว้ในบทวิเคราะห์ช่วงเช้า ลงมาที่ระดับ 24,000$ ในขณะนี้ ซึ่ง BTC นั้นได้หลุดแนวรับสำคัญที่ 24,200$ ไปเป็นที่เรียบร้อย

ซึ่งถ้า BTC นั้นกลับไปยืนเหนือระดับ 24,200$ ไม่ได้ BTC นั้นมีโอกาสลงไปทดสอบแนวรับสำคัญที่ระดับ 23,800$ อีกครั้ง และในกรณีถ้าหลุด 23,800$ BTC มีโอกาสลงไปถึง 23,500$ เลยทีเดียว

ในขณะที่ ETH นั้นถ้ากลับไปยืนเหนือระดับ 1,920$ ไม่ได้ ETH นั้นมีโอกาสลงไปทดสอบแนวรับสำคัญที่ระดับ 1,880$ อีกครั้ง และในกรณีถ้าหลุด 1,880$ ETH นั้นมีโอกาสลงไปถึง 1,850$ เช่นเดียวกัน!!!

ความคิดเห็นล่าสุด

สุดยอดคับ
ขอบคุณมากๆครับอาจารย์
ขอบคุณมากๆครับอาจารย์
ขอบคุณครับ กระจ่างในความสัมพันธ์ของคู่เงิน ทองคำ น้ำมัน เมื่อ หยวนอ่อนค่า และเยนแข็งค่า
ขอบคุณครับ กระจ่างในความสัมพันธ์ของคู่เงิน ทองคำ น้ำมัน เมื่อ หยวนอ่อนค่า และเยนแข็งค่า
วิเคราะห์เข้าใจง่ายและมีแนวโน้มมากคะ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ
วิเคราะห์ได้ดีมากเลยครับ
ขอบคุณครับ
Thx ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ
Thx ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
สุดยอดครับ ข้อมูลมีประโยชน์มากๆเลยคับ ติดตามตอนต่อไปครับ
สุดยอดคับ ข้อมูลแน่นมากคับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณค่ะ
สุดยอดเลย เขียนดีมาก
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย