สรุปราคาทองคําวานนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 13.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ ราคาทองคําในระหว่างวันสามารถทรงตัวเหนือบริเวณ 1,770 ตอลลาร์ต่อออนซ์ได้ตลอดทั้งวัน โดยได้รับแรงปัจจัยหนุน ได้แก่
(1.) การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ จากแรงขายทํากําไรหลังจากที่ดอลลาร์พุ่งขึ้นในวันศุกร์ขานรับการเปิดเผยตัวเลขในตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งเกินคาด ประกอบกับนักลงทุนลด สถานะตอลลาร์ก่อนการเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) ในวันพุธนี้ ท่ามกลางการคาดการณ์มากว่าขึ้นว่าตัวเลข CPI จะบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ประกอบกับผล สํารวจจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟต) สาขานิวยอร์กพบว่า ตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภคสหรัฐสําหรับระยะเวลา 1 ปีและ 3 ปีข้างหน้าได้ดึงลงอย่างมากในเดือนก.ศ. จึงเป็นอีกประเด็นที่ ทําให้นักลงทุนเทขายดอลลาร์เพื่อรอความชัดเจนเกี่ยวกับตัวเลขเงินเฟ้อ และ
(2.) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 2.763% หลังจากพุ่งแตะระดับสูงสุด นับตั้งแต่วันที่ 22 ก.ค. บริเวณ 2.859% ในวันศุกร์ โดยได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อพันบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังกองทัพจีนยืนยันในวันจันทร์ว่า จะยังคงซ้อมรบทั้งทางทะเลและยากาศใน บริเวณรอบไต้หวันต่อไปโดยไม่มีกําหนด สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลหนุนทองคําในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยเพิ่มเติม ปัจจัยที่กล่าวมาช่วงหนุนให้ทองคํา ปรับตัวขึ้นทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,790 ตอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคําไม่เปลี่ยนแปลง สําหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจขนาดเล็กจาก NFIE, ประสิทธิภาพการผลิตต่อหน่วย และประสิทธิภาพต้นทุนแรงงานต่อหน่วย
หากราคาทองคำไม่สามารถ break out ผ่านแนวต้านบริเวณ 1,790-1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปได้ อาจเกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้นให้ราคาอ่อนตัวลงมาบ้าง เบื้องต้นประเมินว่าแนวรับบริเวณ 1,770 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคายืน ระดับนี้ได้จึงจะมีแรงดีดกลับไปทดสอบแนวต้านด้านบนอีกครั้ง
คําแนะนํา เปิดสถานะขาย $1,790-1,795
จุดทํากําไร ซื้อคืนเพื่อทํากําไร $1,770
ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสถานะขายหากหลด $1,814
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th