ตลาดหุ้นประจำสัปดาห์: นี่จะเป็นสัปดาห์ที่หุ้นร่วงกันหมดหรือไม่?

เผยแพร่ 08/08/2565 10:30
  • ภาวะถดถอยจะมาหรือไม่และการเมืองมีส่วนขนาดไหน?
  • สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นความบังเอิญหรือไม่?
  • ฉันคิดว่าปัจจุบันมีภาวะถดถอยอยู่จริงจากปัจจัยบ่งชี้ทั้งหมด

ฉันควรตีความสัปดาห์ล่าสุดอย่างไร ดัชนีดาวโจนส์ ซึ่งเป็นตัวแทนของหุ้นบลูชิพ ปรับตัวลดลง และ S&P 500 ซึ่งหลาย ๆ คนมองว่าเป็นมาตรวัดที่ดีที่สุดของตลาดมีแนวโน้มทรงตัว ในทางกลับกัน ดัชนีทั้งสองสองตัวอย่าง Nasdaq 100 และ Russell 2000 ซึ่งเป็นตัวแทนของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ และ ซึ่งเป็นตัวแทนของกลุ่มหุ้นขนาดเล็ก ปรับตัวขึ้น

นี่คือกระบวนการคิดของฉัน:

หุ้นเทคฯขนาดใหญ่ และบริษัทขนาดเล็กจะอุ้มตลาดไว้ไหวหรือไม่?

เทคโนโลยีขนาดใหญ่และบริษัทขนาดเล็กไม่เพียงพอสำหรับตลาดทั้งหมด แน่นอนว่าพวกเขาสามารถทำผลงานได้ดีกว่าและขึ้นในบางวันเมื่อบริษัทอื่น ๆ ในตลาดไม่ขยับ แต่พวกเขาไม่สามารถไปได้ไกลจากกันมากในระยะยาว

หุ้นเทคฯขนาดใหญ่ และบริษัทขนาดเล็กจะอุ้มตลาดไว้ไหวหรือไม่ระหว่างที่เงินเฟ้อพุ่งสูง และมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูง?

ยิ่งเป็นไปไม่ได้ เทคโนโลยีขนาดใหญ่และบริษัทขนาดเล็กเป็นผู้แพ้ในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น การประเมินมูลค่าของเทคฯไม่ได้แสดงให้เห็นถึงต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้น และธุรกิจของบริษัทขนาดเล็กก็ไม่มีโอกาสและทรัพยากรที่จะใช้ประโยชน์จากการตกแต่งบัญชี

Maybe last week was a fluke, and the S&P 500 Index and Dow will return to rallies?

นั่นเป็นเพียงความเป็นไปได้เท่านั้น และฉันจะลองสำรวจว่าตลาดจะยังคงมีการฟื้นตัวต่อไปหรือไม่

มีการถกเถียงกันอย่างดุเดือดเกี่ยวกับตลาดว่าการพุ่งขึ้นล่าสุดเกิดจากการรีบาวน์ที่จุดต่ำสุดแล้ว หรือเป็นเพียงการรีบาวน์ของตลาดหมี หัวใจของคำถามนี้คือ: เฟดถึงจุดที่กระชับนโยบายการเงินมากสุดแล้วหรือยัง? หลังจากส่งมอบนโบายขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75 bps ครั้งที่สองติดต่อกันแล้ว นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชี้ว่าธนาคารกลางอาจลดอัตราการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า หากอัตราเงินเฟ้อแสดงให้เห็นสัญญาณของจุดสูงสุดหลังจากทำจุดสูงสุดมานานกว่าสี่ทศวรรษ

ตลาดกระทิงยังยึดติดกับคำพูดของพาวเวลล์ เกี่ยวกับการชะลอตัวของอัตราหากอัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น แต่ทำไมพวกเขาถึงเพิกเฉยต่อคำพูดอื่น ๆ ของเขา? พาวเวลล์กล่าวสุนทรพจน์ซึ่งอาจถูกเพิกเฉยจากดราม่าในตลาด ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะไม่ลังเลในการต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อที่รุนแรงที่สุดในสหรัฐอเมริกานับตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1980 แม้ว่าจะหมายถึง "ช่วงที่ยั่งยืน" ของความอ่อนแอทางเศรษฐกิจและตลาดงานที่ชะลอตัวก็ตาม

นอกจากนี้ยังมีความเห็นต่อมา พาวเวลล์กล่าวว่า "ฉันไม่คิดว่าสหรัฐฯ กำลังอยู่ในภาวะถดถอย" พร้อมกับข้อโต้แย้งที่น่าสนใจ: "มันไม่สมเหตุสมผลเลยที่สหรัฐฯ จะอยู่ในภาวะถดถอย"

ฝ่ายบริหารของไบเดนได้ยืนยันว่าการลดลงสองครั้งติดต่อกันทุกไตรมาสใน GDP ไม่ถือเป็นภาวะถดถอย ทำไมน่ะหรือ? แม้ว่าจะมีข้อมูลบ่งชี้หลายอย่าง แต่ส่วนใหญ่เป็นเพราะตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง

ฉันจำไม่ได้ว่ารัฐบาลอื่นบอกว่าการเติบโตรายไตรมาสที่หดตัวสองครั้งนั้นไม่ใช่ภาวะถดถอย เนื่องจากฉันกังวลว่าปัจจัยทางการเมืองกำลังบดบังปัจจัยด้านการเงิน ฉันจึงหันไปมองคำนิยามของ Dictionary of Finance and Investment ซึ่งฉันซื้อมาอ่านเมื่อปี 2006นี่คือคำจำกัดความของภาวะถดถอย: "การชะลอตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์หลายคนนิยามไว้ ไตรมาสที่ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของประเทศหนึ่งลดลงต้องเกิดขึ้นอย่างน้อยสองครั้งติดต่อกัน "

สังเกตคำจำกัดความ: "หลายคน" ซึ่งหมายความว่าบางคนไม่เห็นด้วย ไม่เป็นไร หากฝ่ายบริหารของไบเดนยอมรับว่าหลายคนยืนยันว่า GDP ที่ตกลงมาเป็นตัวกำหนดภาวะถดถอย แต่พวกเขาเชื่อว่าไม่ใช่เพราะเหตุผลดังกล่าวและเช่นนั้น ฉันก็ยอมรับได้ อย่างไรก็ตาม การปฏิเสธแนวคิดดังกล่าวอย่างตรงไปตรงมาเป็นสิ่งที่ทำให้ฉันมั่นใจว่านี่คือการเมือง ไม่ใช่เศรษฐศาสตร์

มาพูดถึงคำยืนยันของ ไบเดน กัน: ตลาดงานที่แข็งแกร่งหมายความว่าเราไม่ได้อยู่หรือกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย นี่คือวิธีที่ Michael Kantrowitz หัวหน้านักยุทธศาสตร์การลงทุนของ Piper Sandler โต้แย้งประเด็นนั้น

  1. มีสี่ครั้งที่การกระชับการเงินไม่ได้ผลักดันให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย
  2. คาดว่าจะมีหมีตัวที่สองในครั้งนี้จากรายได้และการจ้างงาน
  3. ลืมอัตราเงินเฟ้อไปซะ ถึงเวลาดูการเรียกร้องสวัสดิการว่างงาน

ในประเด็นการโต้แย้งว่าเศรษฐกิจตอนนี้อาจจะแตกต่างออกไป จากการระบาดใหญ่ทั่วโลก แบบที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน และการที่เรามีภาพการว่างงานที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง Kantrowitz โต้แย้งว่ามีปรากฏการณ์หนึ่งที่ไม่ต่างกันเลย หลังจากวงจรการขึ้นดอกเบี้ยเหล่านี้แต่ละรอบ ตลาดที่อยู่อาศัยก็ถึงจุดต่ำสุด อย่างไรก็ตาม ห่างไกลจากจุดต่ำสุด ราคาบ้าน ในสหรัฐอเมริกาเพิ่งจะพุ่งสูงขึ้น นอกจากนี้ จำนวนที่อยู่อาศัยเริ่มสร้าง มักจะเป็นตัวแรกที่ตอบสนองต่ออัตราดอกเบี้ย และการจ้างงานจะคงอยู่ตลอดไป กล่าวอีกนัยหนึ่งมันเป็นเรื่องของเวลา

เมื่อคำนึงถึงทุกปัจจัยที่กล่าวมาทั้งหมดนี้แล้ว ฉันต้องการจะชี้ให้เห็นถึงประเด็นที่น่าสนใจของ Kantrowitz เขาพูดถูกว่ามีสิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้น - เศรษฐกิจหลุดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยโดยไม่คำนึงถึงที่อยู่อาศัย - แต่มีอีกสิ่งหนึ่งที่แตกต่างออกไป และอีกอย่างที่เขาไม่ได้นำมาประเมินกับสี่ครั้งในประวัติศาสตร์ที่เกิดภาวะถดถอยคือผ่อนคลายเชิงปริมาณ(การลด QE) ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่ามันจะส่งผลต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปอย่างไรหากเฟดกลับมาใช้ alternative economy

แล้วยังไงต่อ?

หลังจากรายงานการจ้างงานที่น่าประหลาดใจ ซึ่งไบเดนกำลังใช้เพื่อชี้ประเด็น แม้ว่าจะขัดแย้งกับการบรรยายของเขาเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่ชะลอตัวเพื่อรักษาการเติบโตไว้ก็ตาม สัปดาห์นี้จะมีข้อมูลอัตราเงินเฟ้อจำนวนมากซึ่งจะสร้างความผันผวนได้อย่างแน่นอน: CPI, PPI, ต้นทุนแรงงานต่อหน่วย นอกจากนี้ เฟดยังจับตาดู ความเชื่อมั่นผู้บริโภค ของวันศุกร์อย่างใกล้ชิด ซึ่งครอบคลุมการคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภค การคาดการณ์ของเฟดในช่วงปลายปี 3.25%-3.5% อาจขยับสูงขึ้นหากอัตราเงินเฟ้อยังร้อนอยู่

อัตราพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 10 ปี ยังคงกลับด้าน ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้สำคัญของภาวะถดถอย

10-Year U.S. Treasury Daily Chart

ดัชนีหลักทั้งสาม ได้แก่ ดัชนี S&P 500, ดาวโจนส์ และ Nasdaq 100 ยังคงอยู่ภายในขาลง

อย่างไรก็ตาม แม้แต่ Russell 2000 ที่ทำผลงานได้ดี ก็ยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับในเดือนมกราคมถึงมีนาคมในแนวโน้มขาลง

Russell 2000 Weekly Chart

หุ้นเทคโนโลยีอาจมีราคาสูงเกินไป และดีที่สุดคือสามารถ short มันได้

Nasdaq 100 ขึ้นสู่จุดสูงสุดของช่องและถอยกลับ เช่นเดียวกับดัชนีทั้งหมด มันยังเจอแนวต้านที่ระดับต่ำสุดก่อนหน้านี้

Nasdaq 100 Weekly Chart

ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ไต่ขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์

Dollar Index Weekly Chart

ดอลลาร์เด้งจากจุดล่างสุด ขึ้นมาเป็นขาขึ้นระยะยาว ปิดช่องขาลงระยะสั้น นี่อาจหมายความว่านักลงทุนได้เปลี่ยนไปสู่แนวโน้มที่เฟดยังคงขึ้นอัตราดอกเบี้ยอยู่หรือไม่?

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำ ยังคงไปหลังจากการวิเคราะห์ล่าสุดของเราง สินค้าโภคภัณฑ์ทะลุช่องขาลง ทะลุผ่านเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน อย่างไรก็ตาม ทองคำปิดต่ำกว่าเส้น MA เล็กน้อย นักลงทุนทองคำที่ชอบจับตาดูค่าเงินดอลลาร์กำลังรอข้อมูลเงินเฟ้อในสัปดาห์นี้

Gold Futures Daily Chart

Bitcoin ทำผลงานรายสัปดาห์ย่ำแย่ แต่ยังไม่ได้เคลื่อนไหวอย่างมีนัยสำคัญมากนัก ฉันกำลังรอมันขยับ และฉันคิดว่ามันจะพัง

Bitcoin Weekly Chart

{8849|สัญญาซื้อขายล่วงหน้า{ WTI}} ตกลงมาที่ 89 ดอลลาร์ ในวันศุกร์เนื่องจากความกลัวภาวะถดถอย ซึ่งเป็นอีกตัวบ่งชี้หนึ่งของภาวะถดถอย จากบทความเดิมของฉัน ซึ่งมันกำลังจะเกิดขึ้น

Crude Oil WTI Futures Weekly Chart

น้ำมันทำรูปแบบสามเหลี่ยมขาลง บ่งชี้ว่าราคาเป้าหมายอยู่ที่ 58 ดอลลาร์

สรุป:

ไม่ ฉันไม่รู้อนาคต ฉันไม่รู้แน่ชัดว่าขณะนี้มีหรือกำลังจะเกิดภาวะถดถอยหรือไม่ และฉันไม่รู้ว่าหุ้น น้ำมัน และ Bitcoin จะพังทลายเมื่อไหร่ ฉันลงทุนตามหลักฐานเท่านั้น ขอให้มีความสุขกับการลงทุน

Disclosure: นักเขียนมิได้ถือครองสินทรัพย์ที่เขาเขียนถึง

***

ต้องการหาไอเดียลงทุน? คุณสามารถหาสิ่งนี้ได้จาก InvestingPro+

  • ข้อมูลการเงินบริษัทในระยะ 10 ปี
  • คะแนนสุขภาพทางการเงินสำหรับการทำกำไร การเติบโต และอื่น ๆ
  • มูลค่ายุติธรรมคำนวณจากแบบจำลองทางการเงินหลายสิบแบบ
  • เปรียบเทียบอย่างรวดเร็วกับบริษัทในกลุ่มเดียวกัน
  • แผนภูมิพื้นฐานและกราฟ


And a lot more. Get all the key data fast so you can make an informed decision, with InvestingPro+. Learn More »

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย