สรุป หลังจากวันศุกร์ที่ผ่านมาราคาทองคําปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดัชนีดอลลาร์ หลังนักลงทุนลดคาดการณ์ ที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยถึง100 bps ในการประชุมนโยบายการเงินที่ 26-27 ก.ค. อย่างไรก็ตามการปรับตัวขึ้นเป็นไปได้อย่างจํากัด หลังอัตราผลตอบแทน พันธบัตรสหรัฐปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่ในวันนี้ราคาทองคําระหว่างวันแกว่งตัว sideway up ในกรอบ 1,704.80-1,714.96 ตอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแรงหนุนจากที่ สํานักข่าว Reuters รายงานว่าผู้กําหนดนโยบายธนาคารกลางยุโรป (ECB) เตรียมหารือว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 25 bps หรือ 50 bps ในการประชุมนโยบาย การเงินวันพฤหัสบดีที่ 21 ก.ค.นี้ เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ซึ่งสะท้อนโอกาสการปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าว เห็นได้ชัดจากที่ money markets ปรับตัวรับโอกาส 50% จากเพียง 25% ที่ ECB จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 50 bps การคาดการณ์ดังกล่าวส่งผลให้สกุลเงินยูโรพุ่งขึ้นกว่า 1% สู่ระดับ 1.0254 ตอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุด นับตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค. จนเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคํา ประกอบกับทางด้าน โกลด์แมน แซคส์ ได้เตือนว่าปัญหาเงินเฟ้อกําลังฝังรากลึกในระบบเศรษฐกิจโลก ทั้ง อุปสงค์และอุปทานต่างก็ได้รับผลกระทบจากโรคระบาด และสงครามในยูเครน คืนนี้รอติดตามการเปิดเผยการอนุญาตก่อสร้างและข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน สหรัฐ รวมไปถึงถ้อยแถลงของนางลาเอล เบรนาร์ด คณะผู้ว่าการเฟต ทั้งนี้แนะนําให้เปิดสถานะซื้อทํากําไรระยะสั้น หากราคาทองคําไม่หลุดโซน 1,697-1,676 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุด 1,676 ดอลลาร์ต่อออนซ์) และให้ทยอยปิดทํากําไรหากราคาปรับตัวขึ้นไม่ผ่าน 1,724-1,746 ดอลลาร์ต่อออนซ์
คําแนะนํา เปิดสถานะซื้อ $1,697-1,676
จุดทํากําไร ขายทํากําไร $1,724-1,746
ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสถานะซื้อหากหลด $1,676
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th