สรูป หลังจากวันศุกร์ที่ผ่านมาราคาทองคําปิดลดลงมา 2.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดัชนีดอลลาร์ หลังยอดค้าปลีกของสหรัฐออกมาดีเกินคาด แต่มีแรงหนุนพยุงไว้ให้ราคากลับขึ้นมาปิดลบเพียงเล็กน้อย หลังนายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดแอตแลนตา กล่าวว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยที่รุนแรงเกินไปทําลายการฟื้นตัว ของเศรษฐกิจ และไปบั่นทอนคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 100bps หรือ 1.00% ในการประชุมวันที่ 26-27 ก.ค. ประกอบกับ FedWatch Tool ของ CME Group ชี้ว่านักลงทุนให้น้ําหนักลดลงเหลือเพียง 28.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 1.00%
ขณะที่ในวันนี้ราคาทองคําระหว่างวันแกว่งตัว sideway up ในกรอบ 1,705.901,723.61 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนมาจากเจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐ เผยภาพถ่ายดาวเทียมแสดงให้เห็นว่าคณะผู้แทนรัสเซียเดินทางเยือนอิหร่านเพื่อเข้าชมโดรน ไร้คนขับที่อาจมาใช้เป็นอาวุธรบกับยูเครนได้ ซึ่งเป็นการยืนยันคํากล่าวอ้างของนายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ ที่ระบุว่ารัสเซียกําลังพยายามซื้อโดรนไร้คนขับหลายร้อยลําเพื่อไปใช้ในสงครามยูเครน ประกอบกับนางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธาน EC จัดการประชุมทําข้อตกลงเพิ่มการนําเข้าก๊าซธรรมชาติจาก อาเซอร์ไบจานไปยัง EU ซึ่งจะช่วยลดการพึ่งพาพลังงานรัสเซีย และช่วยแก้ปัญหาเรื่องอุปทานก๊าซได้ ประเด็นดังกล่าวอาจทําให้นักลงทุนคลายความกังวลเรื่องวิกฤต พลังงานในยุโรปลง อาจส่งผลให้สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้น กดดันดอลลาร์ให้อ่อนค่าลง และกลับมาเป็นปัจจัยหนุนทองคํา สําหรับคืนนี้รอติดตามการเปิดเผยดัชนีตลาดที่อยู่ อาศัยโดย NAHB ของสหรัฐฯ ทั้งนี้แนะนําให้เปิดสถานะซื้อหากราคาอ่อนตัวลงมาในโซน 1,700-1,697 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (จุดตัดขาดทุน 1,697 ดอลลาร์ต่อออนซ์) และ พิจารณาแบ่งขายทํากําไรหากไม่ผ่าน 1,736-1,751 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เน้นการลงทุนระยะสั้นและควรพิจารณาถึงความเสี่ยง เนื่องจากราคาทองคําแกว่งตัวผันผวน
คําแนะนํา เปิดสถานะซื้อ $1,700-1,697
จุดทํากําไร ขายทํากําไร $1,736-1,751
ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสถานะซื้อหากหลด $1,697
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th