- ในเดือนที่ผ่านมา หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงเมื่อเทียบกับหุ้นมูลค่าครึ่งนึงในช่วง 5 เดือนแรกของปี
- อัตราผลตอบแทนส่งสัญญาณด้านลบเพิ่มเติม
- Inverted yield curve แคบลงบ่งบอกถึงภาวะถดถอย
- ดอลลาร์จะปรับฐานขณะอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
- ทองคำอาจร่วงต่ำลง เช่นเดียวกับน้ำมัน ในขณะที่ BTC ยังคงผันผวน
- 6M - 29.5% VS -15.3% (NDX ลดลงมากขึ้น 49.2%)
- 5M - 23% VS -12.4% (มากขึ้น 46%)
- 4M -19.2% VS -9.2% (มากขึ้น 47.9%)
- 3M -22.5% VS -11.2% (50.2%)
- 2M - 10.6% VS -6.7% (มากขึ้น 46.8%)
- 1M -9% VS -6.7% (มากขึ้น25.6%)
สัญญาณที่เพิ่มขึ้นของภาวะถดถอยอาจสะท้อนให้เห็นในการเปลี่ยนแปลงจากหุ้นมูลค่า(value stocks) ไปสู่หุ้นเติบโต(Growth stocks)
ปีนี้ เราได้ติดตามและเห็นถึงการหมุนเวียนระหว่างกลุ่มการเติบโตและหุ้นมูลค่า
นี่คือตัวเลขหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าหุ้นที่มีความอ่อนไหวทางเศรษฐกิจมีผลประกอบการดีกว่าหุ้นเทคโนโลยีอย่างไร Nasdaq 100 ลดลง 29.6% ในปีนี้ ขณะที่ ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 15.7%
อย่างไรก็ตาม ฉันพบการกลับตัวในเดือนมิถุนายน
นี่คือตารางที่บ่งชี้การกลับตัวของดัชนีทั้งสองในแต่ละเดือน
NDX VS Dow
NDX ลดลงมากกว่าดาวโจนส์ประมาณสองเท่าในแต่ละเดือน อย่างไรก็ตาม ในเดือนที่แล้ว ผลขาดทุนเปรียบเทียบนั้นลดลงครึ่งหนึ่งเหลือเพียงหนึ่งในสี่
สิ่งนี้หมายความว่า? แม้ว่าเดือนเดียวอาจเป็นเรื่องผิดปกติ แต่ก็เป็นที่น่าสังเกตว่าเดือนก่อนหน้าทั้งหมดของปีนี้มีความสอดคล้องกันโดยสิ้นเชิง ความผิดปกตินี้เกิดขึ้นเมื่อความกลัวว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยอาจรุนแรงขึ้น
หุ้นมูลค่าเริ่มทำผลงานได้ดีกว่าเมื่ออัตราเริ่มสูงขึ้น เนื่องจากมีความอ่อนไหวต่อวัฏจักรเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม หากเรากำลังมองถึงภาวะถดถอย เราคาดว่านักลงทุนจะย้ายจากหุ้นมูลค่าไปยังหุ้นเติบโต
อย่างที่ฉันได้แสดงให้เห็น จนถึงตอนนี้ยังเพียงแค่หนึ่งเดือน แต่ถ้าฉันพูดถูก เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญและชัดเจนมากขึ้นหุ้นร่วงหนักขึ้น
เราจะประเมินตลาดได้ดีขึ้นเมื่อบริษัทต่าง ๆ ประกาศผลในสัปดาห์หน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดูว่าอัตราเงินเฟ้อส่งผลกระทบต่อการเติบโตอย่างไร ในสัปดาห์นี้ Goldman Sachs (NYSE:GS), Johnson & Johnson (NYSE:JNJ) และ Tesla (NASDAQ:TSLA) จะประกาศผลการดำเนินงาน
จนถึงตอนนี้ ภาควัฏจักรได้ประโยชน์จากพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม พลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ ซึ่งอ่อนไหวต่อเศรษฐกิจก็ลดลงในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้เนื่องจากความกังวลเช่นเดียวกัน นั่นคือ ภาวะถดถอยจะทำให้อุปสงค์หดตัว
ในขณะเดียวกัน กระทิงอาจกลับมาหลังจาก Citigroup Inc (NYSE:C) รายงานชนะคาดการณ์} ผลักดันดัชนี S&P 500 (SPXBK) สูงขึ้น 5.75%
พันธบัตร
พันธบัตร ปรับตัวลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา คิดเป็นสามในสี่สัปดาห์ หลังนักลงทุนกอดทรัพย์สินปลอดภัย
หากอัตราผลตอบแทนยังคงร่วงลง นักลงทุนจะยิ่งเข้าซื้อพันธบัตร เมื่อพวกเขาเทขายหุ้น
ที่สำคัญกว่านั้น อัตราผลตอบแทนกลับหัว(inverted yield) สูงขึ้น โดยพันธบัตรอายุ 2 ปีเพิ่มขึ้น ส่วนพันธบัตรอายุ 10 ปีร่วงลง
กราฟแสดงให้เห็นว่าผู้คนยอมถือพันธบัตรนานขึ้น เพื่อความมั่นคง และมันเป็นตัวชี้วัดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ดอลลาร์
ดอลลาร์ ไต่ขึ้นเป็นสัปดาห์ที่สาม และไต่ระดับขึ้นทั้งหมดหกในเจ็ดสัปดาห์ สูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2002
กราฟดอลลาร์ทะยานขึ้นเรื่อย ๆ อาจไม่นานที่มันจะกลายเป็นดาวตก แต่มันแสดงให้เห็นถึงความต้านทานต่อขาลง เงินดอลลาร์กำลังเข้าสู่การปรับฐาน
ทองคำ
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำ ปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ห้า ท่ามกลางความแข็งแกร่งของดอลลาร์และพันธบัตร ชดเชยเงินเฟ้อที่สูงขึ้นถึงสี่ทศวรรษ
ทองคำเกือบจะไปถึงจุดสูงสุดที่เคยทำได้ตอนเดือนสิงหาคม 2020
Bitcoin
Bitcoin ไต่กลับขึ้นมาเป็นวันที่ห้าติดต่อกัน
เป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้วและ BTC ไม่ได้ฝ่าวงล้อมขาลง ณ จุดนี้ ฉันจะเพิกเฉยต่อเทรนด์นี้ และกลับไปยืนยันบทความตลาดหมีของ Bitcoin จะอยู่ยาวนาน ที่ฉันเคยเขียนตั้งแต่เดือนมกราคม
น้ำมัน
น้ำมัน เพิ่มขึ้นในช่วงสามวันที่ผ่านมาแต่ปิดต่ำลงเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกันและปรับตัวลงทั้งหมดสี่จากห้าสัปดาห์
ตลาดกำลังประเมินระหว่างความกลัวภาวะถดถอย อุปสงค์ที่ลดลง และอุปทานที่ตึงตัวมากขึ้น จากแผนภูมิ ฉันเดิมพันว่าภาวะถดถอยจะชนะ อย่างน้อยก็ในตอนนี้
น้ำมันทำรูปแบบธงขาลงอย่างสมบูรณ์ ดังนั้น ฉันคาดว่าน้ำมันจะปรับตัวลงต่อเนื่อง อย่างที่ฉันเคยเขียนบทความ "น้ำมันกำลังมุ่งไปยังราคา 60 ดอลลาร์"
Disclosure: ผู้เขียนไม่ได้ถือสินทรัพย์ที่เค้าเขียนถึง
***
ต้องการหาไอเดียลงทุนใหม่ ๆ?
ทดลองใช้ InvestingPro+ บนแอปพลิเคชั่น iOS และ Android ได้แล้ววันนี้