สรุป หลังจากเมื่อวานนี้ราคาทองคําปิดปรับตัวลดลงอีก 10.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากแรงขายทํากําไร นอกจากนี้ ยังได้รับแรงกดดันจากการดิ่งลงของสินค้าโภคภัณฑ์ในวงกว้าง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจที่อาจกระทบต่อดีมานด์ ทั้งนี้ สัญญาน้ํามันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ร่วงลง 3.7% ส่วนโลหะเงินปรับตัวลดลง 1.8% สู่ระดับ 20.33 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่วันนี้ราคาทองคําขยับตัวลงมาจากช่วงเช้าของวันและได้เคลื่อนไหวในทิศทาง Sideway อยู่ในกรอบ 1,800.50| 1,807.63 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีปัจจัยบวกช่วยพยุงราคาทองคําจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOI) เปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ของญี่ปุ่นใน ไตรมาส 2/2565 ปรับตัวลงติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 2 เนื่องจากผลกระทบของต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น รวมทั้งปัญหาห่วงโซ่อุปทานติดขัดที่เกิดจากการที่จีนใช้มาตรการล็อก ดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 อีกทั้ง ราคาบิตคอยน์ร่วงลงใกล้หลุดระดับ 19,000 ดอลลาร์ ด้ากว่าระดับ 700,000 บาทในวันนี้ ท่ามกลางความกังวล เกี่ยวกับการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย อย่างไรก็ตามราคาทองคําก็มีปัจจัยกดดันจากผลสํารวจซึ่งมาร์กิตจัดทําร่วมกับไอซินระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาค การผลิตเดือนมิ.ย.ของจีนขยายตัวรวดเร็วที่สุดในรอบ 13 เดือน โดยได้แรงหนุนจากการผลิตที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง สําหรับคืนนี้แนะนําให้นักลงทุนติดตามตัวเลขเศรษฐกิจ ของสหรัฐ จะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนมิ.ย.จากเอสแอนด์พี โกลบอล,ดัชนีภาคการผลิตเดือนมิ.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทาน ของสหรัฐ (ISM) และข้อมูลค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนพ.ค.
คําแนะนํา เปิดสกานะขาย $1,821-1,834
จุดทํากําไร ซื้อคืนเพื่อทํากําไร $1,797-1,786
ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสกานะขายหากผ่าน $1,834
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th