สรุป ราคาทองคํา วันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ระหว่างวันราคาทองคําร่วงลงทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,816.95 ติขลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงกดดันจาก แนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟต) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้ออย่างไม่มีเงื่อนไข จนเป็นปัจจัยกดดันให้ราคาทองคําร่วงก่อนในช่วงต้น อย่างไรก็ดี ราคาทองคํา ฟื้นตัวขึ้นในเวลาต่อมา จากแรงซื้อ Buy the dip ทองคําในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย(RBCession) ขณะที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ร่วงลงในวง กว้างได้ช่วยคลายความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ และบันทอนความจําเป็นของการขึ้นดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทั้งนี้ เทรดเดอร์ในตลาดเงิน( Money markets) ได้ปรับ “ลด” คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยสูงสุด(terminal rate)ของสหรัฐสู่ระดับประมาณ 3.47% ภายในเดือนมีนาคมปีหน้า โดยลดลงจากการคาดการณ์ในช่วงก่อนการประชุมเฟดเดือนมิ.ย. ที่คาดว่า terminal rate จะแตะระดับเหนือ 4% ภายในเดือนมิถุนายนปี 2023 นอกจากนี้ ตลาดเงินได้เริ่มคาดการณ์ถึงช่วงเวลาของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อรับมือกับภาวะถดถอยที่อาจเกิดขึ้นอีกก ด้วย ประกอบกับเกิดแรงเทขายสกุลเงินปลอดภัย หลังจากนักลงทุนกลับมาเปิดรับความเสี่ยง (Risk an) เห็นได้จากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐทะยานขึ้นมากกว่า 800 จุดในวันศุกร์ สถานการณ์ดังกล่าวกดดันให้ดัชนีดอลลาร์ปิดอ่อนค่าลง 0.21% จนเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาทองคําพุ่งขึ้นจากระดับต่ําสุดในระหว่างวันปิดตลาดในแดนบวก ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคํา ลดลง -2.03 ตัน สําหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนและยอดทําสัญญาขายบ้านที่รอดปิดการขายของสหรัฐ
ราคาแกว่งตัวในกรอบออกด้านข้าง หากราคาทองคำสามารถยืนเหนือโซน 1,818-1,811 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ราคายังมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านโซน 1,848 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ระดับสูงสุดของสัปดาห์ที่ผ่านมา) อย่างไรก็ตามหากยืนไม่ได้ ยังคงต้องระวังแรงขายทำกำไรสลับเข้ามาอีกครั้ง แต่หากผ่านได้ ราคามีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบโซนแนวต้าน 1,865 ดอลลาร์ต่อออนซ์
คําแนะนํา เปิดสถานะซื้อหากยืน $1,818-1,811
จุดทํากําไร ขายเพื่อทํากําไร $1,848
ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสถานะซื้อหากหลด $1,811
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th