เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐฯ สามารถดีดตัวกลับขึ้นปิดบวกได้ ดัชนีเอสแอนด์พี 500 สามารถปรับตัวขึ้นได้มากถึง 116.01 จุด ขึ้นแตะระดับราคา 3,911.74 หรือคิดเป็นการปรับตัวขึ้น 3.06% สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปี 2020 ถัดมา ดัชนีดาวโจนส์สามารถปรับตัวขึ้น 2.68% คิดเป็น 823.32 จุด แตะ 31500 จุดได้ เช่นเดียวกับดัชนีแนสแด็กที่ปรับตัวขึ้น 3.34% คิดเป็น 375.43 จุด หรือขึ้นแตะ 11,607.62
อ้างอิงจากเครื่องมือ Fed Rate Monitor ของ Investing.com พบว่านักลงทุนตอนนี้กำลังเชื่อว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนมีตัวเลขอยู่ในกรอบประมาณ 3.5% ภายในช่วงสิ้นปี 2022 ซึ่งถือว่าลดลงจากตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่เคยเชื่อว่าจะขึ้นไปอยู่ที่ประมาณ 4%
ถ้อยแถลงของเฟดในสัปดาห์นี้จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนอีกครั้ง ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจนั้นจะมีการรายงานตัวเลขดัชนีราคาการบริโภคส่วนบุคคล และรายงานตัวเลขยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ควรค่าแก่การจับตามอง นอกจากนี้ จะมีรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนชื่อดังอย่างเช่น Nike (NYSE:NKE), Micron (NASDAQ:MU), Walgreens Boots Alliance (NASDAQ:WBA), General Mills (NYSE:GIS), Constellation Brands (NYSE:STZ) และ Bed Bath & Beyond (NASDAQ:BBBY)
ในบทความนี้ เราจะพาไปดูกันว่าหุ้นตัวไหนที่นักลงทุนควรให้ความสนใจ และหุ้นตัวไหนที่นักลงทุนควรมองข้ามไปเลย อย่าลืมว่าบทความนี้มีอายุอยู่เพียงแค่สัปดาห์นี้สัปดาห์เดียวเท่านั้น
หุ้นควรซื้อ: Tesla
หุ้นของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชื่อดังเทสลา (NASDAQ:TSLA) กลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเนื่องจากพวกเขากำลังเตรียมที่จะรายงานตัวเลขผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 ซึ่งในสัปดาห์ที่แล้ว หุ้นเทสลาได้ปรับตัวขึ้นมาก่อนแล้วครั้งหนึ่ง และคาดว่าจะปรับตัวขึ้นต่อในสัปดาห์นี้ โดยปกติแล้ว เทสลามักจะชอบออกมาบอกตัวเลขส่งมอบรถยนต์ให้กับลูกค้าในแต่ละไตรมาสก่อน และครั้งนี้นักวิเคราะห์ก็คาดว่าจะได้เห็นข้อมูลดังกล่าวในวันศุกร์ที่จะถึงนี้
ตัวเลขส่งมอบรถยนต์ให้กับลูกค้าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะได้เห็นในไตรมาสที่ 2 คือ 273,000 คัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ปรับตัวลดลงมา 12% จากไตรมาสก่อนหน้า (310,000 คัน) เพราะสถานการณ์โควิดในจีนที่ส่งผลกระทบถึงขั้นต้องปิดโรงงานผลิต
จากการวิเคราะห์ทางเทคนิคชี้ให้เห็นว่าหุ้นเทสลาพร้อมแล้วที่จะทะลุกรอบการวิ่งของราคาออกมา ตอนนี้ราคาสามารถยืนเหนืดเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันและ 21 วันได้ หลังจากที่สามารถปรับตัวขึ้นมาจากจุดต่ำสุดในเดือนพฤษภาคมได้อย่างต่อเนื่อง สัปดาห์ที่ผ่านมาหุ้นเทสลาสามารถปรับตัวขึ้นได้ 13.3% มีราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ $737.12 มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดอยู่ที่ $763,900 ล้านเหรียญสหรัฐ
แม้ว่าตั้งแต่ต้นปี 2022 มาจนถึงปัจจุบัน หุ้นเทสลาจะปรับตัวลดลงมาแล้ว 30% และได้ปรับตัวลดลงมาจากจุดสูงสุดตลอดกาลที่ $1,243.49 เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 41% แต่มูลค่าตามราคาตลาดของบริษัทก็ยังสูงกว่าบริษัทผู้ผลิตรถยนต์คู่แข่งอย่างเช่น Toyota Motor (NYSE:TM), Volkswagen (OTC:VLKAF), Daimler (OTC:DDAIF), General Motors (NYSE:GM), Ford Motor (NYSE:F) และ Honda Motor (NYSE:HMC) อยู่พอสมควร
หุ้นควรทิ้ง: Exxon Mobil
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เราได้แนะนำว่าหุ้น Exxon Mobil's (NYSE:XOM) เป็นตัวเลือกที่ควรค่าแก่การลงทุน แต่สำหรับสัปดาห์นี้ อาจเป็นสัปดาห์ที่นักลงทุนควรมองข้ามหุ้นกลุ่มพลังงานไปก่อน
ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้าต้องเผชิญกับแนวโน้มขาลงต่อเนื่องสองสัปดาห์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเมษายน เมื่อราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลงสู่จุดต่ำสุดในรอบหกสัปดาห์ หรือใกล้กับจุดต่ำสุดที่ $101 ต่อบาร์เรล จากความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ที่จะนำไปสู่สภาวะเศรษฐกิจถดถอย ทั้งที่สองสัปดาห์ก่อน ราคายังอยู่ใกล้กับจุดที่จะขึ้นยืนเหนือ $125 ต่อบาร์เรล
ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมิถุนายนนี้ เราเชื่อว่าราคาน้ำมันดิบยังมีโอกาสที่จะปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง เพราะตอนนี้ประธานาธิบดีโจ ไบเดนกำลังพยายามอย่างหนักในการทำเช่นไรก็ได้ให้ราคาน้ำมันในประเทศลดลง ในขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ก็ยังเป็นตัวกดดันความต้องการพลังงาน ซึ่งจะฉุดรั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจต่อไป
เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน ราคาหุ้น XOM ได้ปรับตัวลดลงไปสร้างจุดต่ำสุดที่ $83.52 ลงมาจากจุดสูงสุดตลอดกาลเมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ $105.57 ต่อบาร์เรล นับเป็นการปรับตัวลดลงมากที่สุดตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม แม้ว่าราคาหุ้นเมื่อวันศุกร์จะสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้เล็กน้อย แต่ก็ยังถือว่าวิ่งอยู่ต่ำกว่าจุดสูงสุดตลอดกาล 18% มีราคาซื้อขายล่าสุดอยู่ที่ $86.90
อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้น XOM ในปีนี้ได้ปรับตัวขึ้นมาแล้ว 42% มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดอยู่ที่ $366,100 ล้านเหรียญสหรัฐ ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีโจ ไบเดนพึ่งจะเรียกเหล่า CEO ของบริษัทผู้ผลิตพลังงานยักษ์ใหญ่ของประเทศเข้าประชุม เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางที่เป็นไปได้ในการลดราคาพลังงานลงมา